สังคม

ไม่แผ่ว! หญิงรัสเซียหัวร้อนถูกเตือนห้ามใส่รองเท้าเข้าร้าน ถีบสาวท้องแก่กลางร้านกาแฟบนเกาะพะงัน

โดย paranee_s

19 มี.ค. 2567

392 views

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจอยากดังเดี่ยวจัดให้ รีเทริน์ part 7 ได้นำภาพแหม่มสาวชาวต่างชาติ ผมสีทอง ยืนกลางร้านกาแฟดังบนเกาะพะงัน พร้อมข้อความแคปชันว่า “ต่างชาติทำร้ายคนไทยอีกแล้วหรา..สาวรัสเซียถีบคนท้อง (เกาะพะงัน) ผู้หญิงรัสเซียคนนี้ ทำร้ายร่างกายโดยการถีบคนท้องแก่ 8 เดือน ใครรู้เบาะแสว่าเค้าพักที่ไหน หรือใครรู้จักรบกวนแจ้งทีนะคะ จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แจ้งความเรียบร้อย พร้อมมีใบตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลค่ะ ตอนนี้รอตำรวจไปเชิญตัวนางมา เจ้าของร้านบอกให้ถอดรองเท้าแต่นางไม่ถอดด่าเจ้าของร้านหยาบคายพอเชิญออกนางก็ถีบเลย”


ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อไปยังคุณพลอย ผู้เสียหาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า ตัวเองเป็นเจ้าของร้านผักออร์แกนิค บริเวณบ้านท้องศาลา หมู่ 1 ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ว่ากล่าวตักเตือนหญิงสาวชาวต่างชาติรายหนึ่งลักษณะผมสีทอง สวมเสื้อสายเดี่ยว นุ่งกระโปรง สะพายกระเป๋าสีขาว และสวมรองเท้าเข้ามาในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ใกล้ ๆ กับร้านของตน และได้มีคนไทยหลายคนตักเตือนแหม่มสาวรายนี้ ว่าห้ามสวมรองเท้าใส่เข้ามาในร้าน และมีป้ายติดเตือนที่หน้าร้าน ห้ามใส่รองเท้าเข้าร้าน


ซึ่งตนพอจะพูดคุย ภาษาอังกฤษได้บ้าง จึงไปพูดคุยกับแหม่มดังกล่าว แต่สุดท้ายแหม่มดังกล่าวหัวร้อน ยกเท้าทีบที่หน้าขาตน เกือบจะโดนท้อง ที่ตนตั้งท้องได้ 8 เดือน หลังก่อเหตุแหม่มสาวได้เดินหนีออกไปจากร้าน ก่อนหายตัวไป


หลังจากนั้น ตนได้เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เกาะพะงัน และทราบว่าหญิงต่างชาติคนดังกล่าว เป็นชาวรัสเซีย มาเปิดสอนโยคะอยู่บนเกาพะงัน คุณพลอย ผู้เสียหายยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะไม่ยอมความใดๆ เพราะเสียศักดิ์ศรีคนไทย


ซึ่งล่าสุดทราบว่า ทางแฟนของแหม่มดังกล่าว ได้วิ่งเข้าหานักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง เพื่อให้ตนยอมความและยกโทษให้ โดยจะมาพร้อมกับแหม่มผู้ก่อเหตุ มาขอโทษ แต่ตนจะรับคำขอโทษ แต่จะไม่ยอมในเรื่องคดีความเด็ดขาด น.ส.พลอย ผู้เสียหายกล่าว


ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีกระเเสในสื่อโซเชียล ล่าสุด ทางตำรวจเกาะพะงัน และ ตม.เริ่มมีความเคลื่อนไหว และตื่นตัวแล้ว อยู่ระหว่างเรียกแหม่มรัสเซียดังกล่าว มาสอบสวน และตรวจสอบประวัติหนังสือเดินทาง ว่าใช้วีซา ท่องเที่ยว หรือวีซ่าทำงาน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ