พ่อแม่ร้อง ครูไม่ระวังปล่อยนักเรียน 3 ขวบจมน้ำ ทางโรงเรียน-เทศบาลกลับไร้การชี้แจง โยนความรับผิดชอบ

นายวรพล และนางธีรชา พ่อแม่ของเด็กหญิงเยาวชนอายุ 3 ขวบ เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกสาววัย 3 ขวบ เข้าร่วมโปรแกรมการเรียนว่ายน้ำของทางโรงเรียน แต่ลูกสาวจมน้ำหมดสติ เพราะครูที่ดูแลไม่ระวัง จนต้องเข้ารับรักษาตัวในห้องฉุกเฉิน จากการอาการน้ำท่วมปอด แต่ทางโรงเรียนกลับไร้การชี้แจง


พ่อและแม่ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยลูกสาวของตนไปเรียนว่ายน้ำซึ่งเป็นวิชาประจำที่ลงไว้ในหลักสูตรของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอบางเลนจังหวัดนครปฐม ซึ่งสระว่ายน้ำอยู่ในเทศบาลบางเลน ในวันนั้นมีนักเรียนประมาณ 7-8 คน โดยที่มีครูสอนแค่คนเดียว และไม่มีอุปกรณ์เซฟตี้เลยสักชิ้น ซึ่งสระว่ายน้ำดังกล่าวจะแบ่งออกเป็นสระเด็ก และสระผู้ใหญ่ ซึ่งทั้งสองสระอยู่ติดกัน และเวลาประมาณ 9-10 โมง ตนเองได้รับโทรศัพท์จากคุณครู มาหาตนเองว่าลูกสาวสำลักน้ำหมดสติ และมีการเรียกรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลบางเลน


ก่อนที่ครูที่ควบคุมการสอนว่ายน้ำจะระบุว่า ขณะนั้นในระหว่างที่ครูกำลังดูเด็กคนอื่นอยู่ ๆ ลูกสาวของตนก็ได้เดินไปที่สระผู้ใหญ่ โดยที่ไม่มีใครเห็น ก่อนที่จะจม และลอยขึ้นมาอยู่เหนือผิวน้ำทำให้ครูจะเข้าไป CPR พร้อมกับเรียกรถพยาบาลมารับ และครูก็แจ้งว่าลูกสาวของตนสำลักน้ำ ปฏิเสธว่าไม่ได้จมน้ำ


จากเหตุการณ์ดังกล่าว ลูกสาวของตนต้องพักรักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน 4 วัน เนื่องจากมีภาวะน้ำเต็มปอด และสมองขาดออกซิเจน ในระหว่างที่ลูกสาวพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตนก็ได้ไปสอบถามความรับผิดชอบ แต่ก็ถูกเทศบาล และโรงเรียนโยนความรับผิดชอบกันไปมา พอไปถามเรื่องกล้องวงจรปิดก็บอกว่ากล้องเสีย ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายก็เอาแต่เพียงขอโทษ และให้เงินมา 2,000 บาทเท่านั้น


ลูกสาวของตนเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานนี้ แต่ยังมีอาการผวาตอนกลางคืน นอนร้องไห้ตลอดเวลา ทำให้ตนรู้สึกเป็นกังวลว่าลูกสาวจะเป็นคนกลัวน้ำ พร้อมกับฝากคำถามไปถึงครูว่า ทำไมถึงหันหลังให้เด็กอายุ 3 ขวบ คลาดสายตาไปได้ และทำไมถึงไม่มีอุปกรณ์เซฟตีให้เลย


นอกจากนี้ พ่อยังให้ข้อมูลอีกว่า ที่ผ่านมา เคยมีเด็กเล็กหลายคนเจอเรื่องแบบนี้ แต่ทางโรงเรียนและทางเทศบาลก็พยายามปิดข่าวมาตลอด จนทำให้หลายคนกลัวน้ำ กลัวชุดว่ายน้ำไปเลย


แล้วในส่วนของลูกสาวตนเองในตอนแรก คุณหมอที่โรงพยาบาลนครปฐม ที่มีการย้ายตัวมารักษาต่อเนื่อง ระบุกับตนเองว่าให้ทางครอบครัวและพ่อแม่ทำใจ เนื่องจากลูกสาวอยู่ในสภาวะฟองน้ำคือปอดเต็มไปด้วยน้ำไม่สามารถหายใจเองได้ และตอนนี้ยังคงมีชีวิตด้วยเครื่องช่วยหายใจ หากถอดเมื่อไหร่ก็ถือว่าจบ ตนเองจึงได้ไปบนบานกับองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวศรัทธาของชาวจังหวัดนครปฐม ว่าขอให้ลูกตนเองพ้นขีดอันตรายในสามวันเจ็ด จนเกิดเรื่องปาฏิหาริย์ลูกสาวตนเองรู้สึกตัวและสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจออกและออกจากโรงพยาบาลได้หลังมีการบนไม่เกิน 4 วัน


คนอื่นอาจจะมองเป็นเรื่องงมงายแต่ตนเองหมดหนทางในการช่วยเหลือลูกสาวเพราะไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือต่อหน่วยงานไหนได้เลย ทั้งตำรวจและเทศบาลเจ้าของสระรวมถึงตัวคุณครู ทุกคนต่างโยนความรับผิดชอบ กันไปมาโดยที่ไม่มีใครเป็นผู้รับ จึงตัดสินใจพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนลูกสาวปลอดภัย


ตนเองที่ต้องเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมในวันนี้เพราะต้องการทราบความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่เชื่อว่าเป็นการสำลักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยหวังว่าจะรับความจริงให้กระจ่าง


ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดู ระบุว่า กล้องวงจรปิดของเทศบาลบางเลนที่มีมากกว่า 10 ตัว ทำไมถึงเสียหมด การที่เอาเด็กเล็กไปเรียนว่ายน้ำ ควรมีความปลอดภัยให้มากกว่านั้น ซึ่งหลังจากนี้ตนจะประสานไปยัง ผู้กำกับการ สภ.บางเลน เพราะมีตำรวจนายหนึ่งพูดกับครอบครัวว่า กล้องเสียจะให้ตำรวจทำยังไง เพราะเรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ


พร้อมฝากถึง นายกเทศมนตรี ให้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมกับทางพ่อและแม่เด็กด้วย