หนุ่มคลั่ง ‘เสพยา-พี้กัญชา’ ใช้เสียมบุกวัด ทำร้าย ‘เจ้าอาวาส’ มรณภาพ

หนุ่ม 28 ปี ถูกแฟนบอกเลิก คลั่ง คว้าเสียมบุกวัด ทุบ “เจ้าอาวาส” วัดอดุลแก้วบดี มรณภาพ ชาวบ้านเศร้าแห่กราบสรีระสังขาร เชื่อเหตุเกิดจากกัญชาเสรี

กล้องวงจรบริเวณหอพัก ข้างซอยหลังวัดอดุลแก้วมอดี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 6 โมง 14 นาที เห็นแฟนสาวของนายสิทธิชัย หรือ ปั๊บ อายุ 28 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอด แล้วเดินเข้าห้องพักไป ผ่านไปประมาณ 4 นาที เห็นนายปั๊บถือเสียมเดินเข้าหอพักมา แล้วไปที่ห้องที่แฟนสาวอยู่ แต่เปิดประตูห้องเข้าไปไม่ได้ จึงใช้เสียมทุบลูกบิดประตู 7 ครั้ง จนพัง ก่อนเดินเข้าห้องไป

จากนั้นเจ้าของหอพักและลูกชายที่ได้ยินเสียงดังจึงเดินมาที่ห้องเกิดเหตุ เห็นนายปั๊บนั่งอยู่บนเตียง ก่อนคลั่งอีกครั้ง แล้วเอาเสียมไล่ตีทั้งคู่ จนต้องวิ่งหนีกลับห้องตัวเอง นายปั๊บก็ยังวิ่งตามมา ลูกชายเจ้าของหอพัก จึงถือมีดดาบมาขู่นายปั๊บ นายปั๊บจึงวิ่งหนีไปชนประตูกระจกจนแตก แล้ววิ่งหนีออกนอกหอพัก ไปที่วัดอดุลแก้วบดี

ก่อนที่จะพุ่งตรงไปที่กุฏิพระครูปลัดต่วน ชุตินฺธโร อายุ 77 ปี เจ้าอาวาส แล้วทำร้ายเจ้าอาวาส จากนั้นลากร่างที่หายใจรวยรินใช้เสียมกระหน่ำทุบตีที่ศีรษะ จนกะโหลกยุบเสียชีวิต ก่อนที่ตำรวจและชาวบ้านจะตามมาเจอ แล้วช่วยกันจับตัวในสภาพทุลักทุเล

จากนั้นพาไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองขอนแก่น แต่จนถึงช่วงเย็นก็ยังไม่สามารถสอบปากคำ จนต้องฉีดยาระงับคลั่ง แล้วนำตัวส่งโรงพยาบาลรักษาอาการบาดเจ็บที่ถูกกระจกประตูบาด จากการตรวจปัสสาวะ ไม่พบเมทแอมเฟตามีน และเคตามีน แต่จากการตรวจสอบห้องพัก พบต้นกัญชา 3 ต้น พร้อมเขียง และอุปกรณ์เสพยา

แฟนสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า นายปั๊บเป็นโรคซึมเศร้า เคยไปหาหมอรับยามากิน แต่พออาการดีขึ้น ก็ไม่ได้ไปหาต่อเนื่อง ก่อนเกิดเหตุ เพิ่งบอกเลิกนายปั๊บเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพราเริ่มระหองระแหงกัน และนายปั๊บติดยาหนักมาก บอกให้เลิกเสพก็ไม่เลิก ตนถูกขู่ฆ่าจนต้องหนีไปนอนห้องเพื่อน กระทั่งวันเกิดเหตุ กลับมาที่ห้อง เห็นนายปั๊บถือเสียมตามเข้ามา จึงล็อกประตูห้อง แล้วหนีไปซ่อนในห้องน้ำ ทำให้นายปั๊บมองไม่เห็น เชื่อว่า ถ้าไม่ซ่อนตัว ตนเองต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน

ด้านเจ้าของหอพัก บอกว่า ตอนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังบนชั้นสอง จึงขึ้นไปดูกับลูกชาย เห็นนายปั๊บนั่งอยู่บนเตียง หันมาบอกว่า ของออกหมดแล้ว หายแล้ว ตอนนั้นก็งง จึงถามว่าทำอะไร นายปั๊บตอบว่าไม่มีอะไร ตนเองจึงบอกถ้าไม่มีอะไรก็หยุดทำสิ ข้าวของพังหมดแล้ว นายปั๊บนิ่งไปสักพักก่อนจะโววายขึ้นมาว่า ไป มึงออกไป ไปให้พ้น จึงพากันหนีเข้าห้องล็อกประตู โดยมีนายปั๊บถือเสียมไล่ตามมา ลูกชายจึงไปหยิบมีดดาบมาขู่ ทำให้ปั๊บเห็นแล้วรีบวิ่งหนีชนประตูกระจกจนแตก แล้วไปที่วัดก่อนทำร้ายเจ้าอาวาสจนมรณภาพ ก่อนหน้านี้นายปั๊บเคยมาถามว่า ห้องผมอยู่มีอะไรรึเปล่า เหมือนมีผี เข้าห้องไปทีไรขนลุกทุกที ซึ่งตนเองบอกว่าไม่มีอะไร ไม่มีหรอกผี มีคนอยู่มาหลายคนแล้วไม่เคยเจอ

หลวงปู่ศรีบู ยโสธโร อายุ 63 ปี พระลูกวัด เล่าว่า ตอนกลับมาจากบิณฑบาต เห็นนายปั๊บกำลังคร่อมร่างเจ้าอาวาส ในลักษณะกำลังอุ้มร่างของเจ้าอาวาสขึ้นรถขนศพ ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียวว่าต้องรีบเข้าไปช่วย โดยได้ตะโกนเรียกชาวบ้านมาช่วย ก่อนจะมีตำรวจพร้อมไม้งามเข้ามาช่วยอีกแรง แต่นายปั๊บแรงเยอะมาก ทำตำรวจล้มกันไปหลายนาย

ทั้งนี้บ่ายวันเสาร์ นายปั๊บได้เข้ามาโวยวายที่วัดแล้วรอบหนึ่ง ร้องโอดโอยเหมือนคนปวดท้อง เดินผ่านหน้ากุฏิเจ้าอาวาสไป แล้วไปนอนอยู่ริมถนนหน้าวัด ทั้งนี้เจ้าอาวาสไม่เคยมีศัตรูที่ไหน แต่ในวัดมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับเงิน แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายเรื่องถึงชั้นศาล ซึ่งคดีจบคดีไปแล้ว

ขณะที่หลานชายของเจ้าอาวาส ติดใจการเสียชีวิต ทำไมถึงคลั่งตอนเช้า และไม่มีคนอยู่วัด และยังเตรียมรถเข็นศพมาใช้ ก็มองว่ามันจะเชื่อมโยงกันไหม อยากให้ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียด

สำหรับบรรยากาศภายในงานศพ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ เป็นไปอย่างโศกเศร้า บางคนถึงกับสาปแช่งผู้ก่อเหตุ โดยพิธีสวดอภิธรรมศพ จะจัดขึ้น 7 วัน แล้วจะเก็บสรีระสังขารเจ้าอาวาสบรรจุโลงเย็น ให้ประชาชนลูกศิษย์ลูกหาได้ร่วมกราบน้อมส่งดวงวิญญาณพระครูปลัดต่วน เป็นเวลา 100 วัน ก่อนจะฌาปนกิจต่อไป

ล่าสุด เช้าวันนี้ ญาติโยม และลูกศิษย์ลูกหา ยังคงทยอยเดินทางมาร่วมงานศพอย่างต่อเนื่อง นางวาสนา ชาวบ้านบ้านโนนม่วง หนึ่งในลูกศิษย์ บอกว่า พระครูปลัดต่วนเป็นทั้งนักปฏิบัติ และพระนักพัฒนา ตั้งแต่ตนเองมาอยู่เมื่อปี 2529 ก็เห็นพัฒนาตลอด จากวัดที่ไม่มีอะไรเลย ก็มีการสร้างโบสถ์ สร้างเมรุ จนกลายเป็นวัดมีตราตั้งจนถึงปัจจุบัน หลวงตามีเมตตา มีแต่ให้ ชาวบ้านไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ไฟตัด หลวงตาก็ช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำให้ชาวบ้านทุกคนต่างเลื่อมใสศรัทธา ความรู้สึกตอนนี้ทุกคนยังเสียใจ เพราะหลวงตาป่วยอยู่แล้ว ที่สงสัยคือปกติหากหลวงตาอยู่วัดลำพัง จะไม่เปิดกุฏิออกมา หากไม่มีใครอยู่ อยากให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อดูคนเข้าออก เพราะที่วัดไม่มีสักตัว

นางวาสนาบอกอีกว่า อยากจะฝากถึงเด็กๆสมัยนี้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด หรือกัญชาที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ไม่ใช่เสพจนมาฆ่าคนตาย ถ้าเลิกได้ก็เลิกซะ ถ้าว่าเสรีก็ปล่อยเสรีจนฆ่าคนตาย อีกสักหน่อยคงฆ่าพ่อฆ่าแม่ตัวเองตาย สมัยก่อนได้ยินแต่ว่าเสพกัญชาแล้วจะหัวเราะเฮฮา แต่ทำไมทุกวันนี้มีแต่เสพกัญชาแล้วฆ่าคนตาย หรือมีอย่างอื่นผสม ซึ่งหลวงตาที่มรณภาพ เคยดำริไว้ว่าจะสร้างโบสถ์ให้เสร็จ และเตรียมฉลองโบสถ์ใหม่ เพราะหลวงเป็นผู้หาเงินมาสร้าง โดยสร้างไปแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่มาเกิดเรื่องก่อนพาอาวุธปืน

https://youtu.be/prORsEsy0Z4