"ครูจวง" ซัดผู้ปกครอง-ครู จัดแข่งเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่เคารพสิทธิเด็ก กระตุกสังคมไทยเปลี่ยนมายด์เซต

12 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ปีกการศึกษา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแข่งขันใส่เสื้อผ้าของเด็กอายุ 4-5 ขวบ ที่ จ. สุรินทร์ ว่า ตนไม่เห็นด้วยและปฏิเสธอย่างแน่นอน เพราะมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิเด็กและคุกคามทางเพศ กรณีนี้น่าเศร้าใจตรงที่ว่า มีผู้ปกครองหลายคนไม่เข้าใจ และออกมาตำหนิผู้ปกครองคนที่มาให้ข่าว จนเกิด #saveครู ซึ่งแบบนี้ถือเป็นการที่พ่อแม่ละเมิดลูกตัวเอง การใส่เสื้อผ้าต้องใส่ในที่เหมาะสม มิดชิด การเอามาใส่เสื้อผ้าในที่สาธารณะเหมือนเป็นเรื่องตลกขบขันต้องเลิกได้แล้ว

“ดิฉันคิดว่าสังคมไทยต้องเปลี่ยนมายด์เซตเรื่องพวกนี้ ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยคำนึงเรื่องสิทธิเด็ก บางทีเอาเด็กมาแข่งอะไรที่มันตลกขบขัน เด็กเขาไม่ใช่ตัวตลกนะ ต่อให้ไม่ใช่เรื่องแข่งขันใส่เสื้อผ้าแบบนี้ แต่เป็นการแข่งขันที่ทำให้ตลกและเด็กอับอายแล้วอัดคลิปไว้ โลกปัจจุบัน มันอยู่ตลอดกาล เมื่อเขาโตขึ้นแล้วมาเห็นคลิปที่เขาถูกทำให้เป็นตัวตลก เขาจะอับอายและเป็นรอยแผลในใจ เรื่องนี้ต้องเลิก ทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและโรงเรียน เราต้องเคารพสิทธิเด็กมากๆ” นายปารมี กล่าว

นายปารมี ย้ำว่า โรงเรียนต้องปลอดภัยทั้งกายและใจ ดังนั้นต้องตระหนักเรื่องสิทธิมนุษยชนให้มากๆ รวมถึงปฏิบัติและลงมือทำด้วย

“ครูหลายคนยังไม่เข้าใจ รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย อยากจะให้ทุกคนหันมาใส่ใจเรื่องนี้มากๆ เอาง่ายๆ พ่อแม่อัดคลิปลูกไปลงโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น IG หรือ TIKTOK จริงๆก็ไม่ถูกต้อง ในบางคลิปที่ดูน่ารัก ก็ต้องมาพิจารณาดูว่ามันเหมาะสมหรือไม่ แต่มันมีหลายคลิปที่ไม่น่ารัก ไม่เหมาะสม หลายคลิปที่ลูกเป็นตัวตลก ดิฉันคิดว่าไม่สมควร สังคมไทยเราไม่คำนึงถึงเรื่องนี้ เรามักจะนึกว่า โอ๊ย มันเป็นเรื่องขำๆ จะไปซีเรียสอะไร ดิฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องโลกสวยนะคะ มันเป็นเรื่องที่คุณไม่เคารพความเป็นคน ความเท่าเทียมของลูกว่าพ่อแม่ไม่เข้ากับลูก พ่อแม่หรือแม้แต่ครูที่อัดลงหลายคลิป” นายปารมี กล่าว

นายปารมี ยังฝากถึงครูที่อัดคลิปด้วยว่า หากเด็กเข้ามาดูตอนโตจะเป็นแผลเป็นในใจเขาได้ “ดิฉันไม่ได้โลกสวยนะ มองโลกตามความเป็นจริง ประเทศอารยะเขาเป็นแบบนี้ เราต้องอารยะได้แล้ว”