แม่คาใจ ลูกชายยศ ส.ต.ต. ถูก ร.ต.อ.ลงโทษปางตาย แค่ไม่ได้ลงบันทึกการเข้าเวร

แม่คาใจ ร้อยตำรวจเอกลงโทษ ลูกชายยศสิบตำรวจตรีปางตาย ใช้อารมณ์ลงโทษเกินเหตุ ก่อนนำร่างที่บาดเจ็บกลับรักษาตัวบ้านเกิดที่พัทลุง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง แม่ ส.ต.ต.หัสดิน เขียวจีน ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปรามฐานปฎิบัติการท่าสาบ สภ.เมือง จ.ยะลา คาใจ หลังจาก ร.ต.อ.ริสกี้ รุ่งอะหลี ผบ.หมวดฐานปฎิบัติการท่าสาบ ลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาเกินเหตุ แค่ไม่ได้ลงบันทึกการเข้าเวร บุกเข้าไปทุบทีถึงห้องพัก ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 67 เวลา 17.00 น.

โดย ส.ต.ต.หัสดิน ผู้บาดเจ็บ ได้โทรบอกน้าสาวว่า ถูกลงโทษได้รับบาดเจ็บ น้าสาวไม่เชื่อจึงได้โทรวีดีโอคอล เห็นหลานเจ็บและเหนื่อย จึงบอกให้รีบไปหาหมอ ก่อนพักรักษาตัวที่ รพ. ขณะที่เข้ารับรักษาตัวในคืนเกิดเหตุ ส.ต.ต.ได้ไลน์หา รอง ผกก.เมืองยะลา ระบายความเจ็บปวด ก่อนรอง ผกก.ได้สอบถามใครหัวหน้าฐานท่าสาบ ใครสั่งลงโทษ

ทาง ส.ต.ต.บอกว่า หมวดริสกี้ เป็นผู้ทำโทษ ซึ่งการลงโทษแบบนี้ตนไม่ไหวจริงๆ ทั้งจุกไปหมด ร่างกายช้ำ ทำร้ายอย่างแรงโดยใช้อารมณ์ จากปมเรื่องเอกสาร ที่หาว่าตนไปเถียง

“แค่เรื่องนี้ทำกับผมแบบนี้ กับคนที่เอาปืนหลวงไปจำนำ ผบ.หมวด เขายังไม่ทำอะไรเลย ผมเครียดมากครับ ไม่ทราบใช้ระบบไหนปกครองน้องๆในฐาน ผมอยากย้ายออกเต็มทีแล้ว ทำผมถึงขั้นนี้”

ต่อมา ช่วงเช้าวันที่ 5 มีนาคม 2567 นางละออง เขียวจีน อายุ 51 ปี แม่ ส.ต.ต.ที่ถูกทำร้าย ทราบข่าวได้เดินทางจากจังหวัดพัทลุง ไปเยี่ยมลูกชายพร้อมกับน้าสาวและยาย เมื่อเห็นลูกชายถึงกับเข่าทรุด ถูกทำร้ายจนเจ็บไปทั้งตัว พร้อมทั้งไม่มีใครดูแล โดยแม่บอกว่า การลงโทษโดยทุบทีปางตายแบบนี้ มันไม่ใช่การลงโทษปกติแล้วเป็นการลงโทษที่ใช้อารมณ์เกินเหตุ แม่รับไม่ได้ ผิดก็ลงโทษตามวินัยตามธรรมเนียมปฎิบัติ ไม่ใช่ใช้ความรุนแรง และลูกชายนอนรักษาตัวที่ รพ.ทั้งคืนไม่มีใครมาดูแล

จนรู้ว่าแม่มา เพื่อนตำรวจได้มาขอเคลียร์ว่า อย่าเอาเรื่อง ผบ.หมู่เลย แม่ไม่อาจรับได้ และได้พาลูกชายเข้าแจ้งความ แต่พนักงานสอบสวนไม่รับ พร้อมทั้ง ผกก.บอกว่าเรื่องของตำรวจให้เคลียร์กันเอง แต่ลูกแม่เจ็บแบบนี้ไม่อาจรับได้ ก่อนที่จะนำตัวลูกชายที่ ได้รับบาดเจ็บ กลับมารักษาตัวต่อที่จังหวัดพัทลุงบ้านเกิด และห่วงว่าหลังจากนี้หากลูกกลับไปทำงานที่เดิมคงลำบาก เพราะหัวหน้าไม่ถูกกับลูกน้อง อาจจะถูกกลั่นแกล้งได้

ด้านน้าสาว นางสุดา ช่วยนุรักษ์ กล่าวว่าใจหายเมื่อเห็นหลานถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ได้ไปแจ้งความ พนักงานสอบสวนบอกต้องให้คนเจ็บมาแจ้งเองก่อนนำหลานมาจาก รพ.เพื่อแจ้งความ แต่ทางผู้กำกับ ไม่ให้รับแจ้งความบอกเรื่องดังกล่าวขอคุยกันก่อน โดยจะให้ผู้การเข้ามาคุยในวันพรุ่งนี้ ตนรู้สึกไม่สบายใจเลยพาหลานกลับมารักษาตัวต่อ ที่ จังหวัดพัทลุงบ้านเกิดทั้งที่ อาการยังบาดเจ็บหนักบอบช้ำข้างใน

ด้านยายของ ส.ต.ต.กล่าวว่า นี่ถ้าหากหลานหายดีแล้ว กลับไปทำงานที่นั่นอีกกลัวจะได้รับอันตราย ก็รู้กันอยู่ว่าที่นั่นมันมีอะไร อาจโดนยิงแล้วแจ้งว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ที่ก่อความไม่สงบแล้วจะไปเอาผิดที่ใครได้ หวั่นๆเรื่องที่จะตามมา กับหลานหากไม่ได้ย้ายไปจากที่นั่นหลังจากนี้