เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 5 มี.ค.67 ศาลฎีกายกฟ้องยิ่งลักษณ์คดีโรดโชว์-กะเทยไทยรุมทุบกะเทยปินส์-จ่อเพิกถอนวีซ่าเดวิด

1.เชียงใหม่จัดริ้วขบวน อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ขึ้นหอคำหลวง

2.ตร.จ่อเพิกถอนวีซ่า ฝรั่งทำร้ายร่างกายหมอ เช็กเส้นทางการเงิน

3.สุริยะ ประกาศปี 68 ปิดตำนานงานก่อสร้าง ถนนพระราม 2 เจ็ดชั่วโคตร

4.พบระเบิดปิงปองตั้งเวลากว่า 30 จุด ซุก 5 โกดัง เก็บของกลางกากสารเคมีเถื่อน 4 พันตัน

5.ตร.อุดรฯ จ่อแจ้งข้อหากระทำอนาจาร หมอเกษียณ รับทำจริงแต่ไม่ได้เจตนา

6.หลานทรพีเมาคลั่ง ทำร้ายยายวัย 80 ปีดับสลด

7.กะเทยไทยบุกรวมตัว ดักกะเทยฟิลิปปินส์หน้ษโรงแรม หลังรุมตบกะเทยไทย 20:4



เรื่องเล่าการเมือง

- มติเอกฉันท์! ศาลฎีกาฯ ยกฟ้อง "ยิ่งลักษณ์" คดีโรดโชว์

ประเด็นใหญ่ทางการเมืองเมื่อวาน คือ ศาลฎีกาคดีนักการเมือง ยกฟ้อง คดีอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ อีกแล้ว ทำให้กระแสเรื่อง "ยิ่งลักษณ์กลับบ้าน" ร้อนขึ้นมาทันที

เมื่อวาน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 6 คน ประกอบไปด้วย

-นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี

-นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

-บริษัทมติชน จำกัด (มหาชน)

-บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)

-และ นายระวิ โหลทอง กรรมการบริษัท สยามสปอร์ตฯ

ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต โดยมุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันราคาจัดจ้าง โครงการโรดโชว์สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 อย่างเป็นธรรม โดยนำงบกลางมาใช้ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ บริษัท มติชนฯ และ บริษัท สยามสปอร์ตฯ จัดทำโครงการดังกล่าว ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐจำนวน 239,700,000 บาท ซึ่งศาลใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการอ่านคำพิพากษา โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ 9:0 พิพากษายกฟ้อง

เหตุผลสำคัญของศาล คือ การดำเนินโครงการโรดโชว์เป็นการดำเนินตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา และเห็นว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการพิจารณาร่วมกันของหน่วยงานต่างๆไม่ใช่เป็นการตัดสินใจของนางสาวยิ่งลักษณ์ และไม่ได้กำหนดเวลากระชั้นชิด เพียงเพื่อเป็นเหตุอ้างในการใช้งบกลาง

ประกอบกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณมีความเห็นว่าสมควรที่นายกรัฐมนตรีจะอนุมัติงบกลางนี้ได้ จึงเป็นดุลยพินิจที่กระทำไปบนพื้นฐานของข้อมูลข้อเท็จจริงเท่าที่มีอยู่ในขณะนั้น

และในส่วนของนายนิวัฒน์ธำรง และนายสุรนันทน์ ก็ไม่ปรากฏพฤติกรรมที่มีส่วนร่วมหรือแนะนำโดยมิชอบ ในกระบวนการเสนออนุมัติงงบกลางในการดำเนินการ และไม่ปรากฏพฤติการณ์ในการร่วมกันแทรกแซงหรือมีคำสั่งให้ เลือกบริษัทมติชนและบริษัทสยามสปอร์ตเป็นผู้รับจ้างโครงการ

ส่วนจำเลย 4-6 (บริษัทมติชนฯ / บริษัทสยามสปอร์ตฯ /นายระวิ โหลทอง)

จากข้อเท็จจริงทางไต่สวนรับฟังไม่ได้ว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด / ไม่ถือว่าเป็นการตกลงร่วมกันฮั้วประมูล จึงไม่ผิดตามคำฟ้อง และได้สั่งถอนหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังจากออกหมายจับไว้ก่อนหน้านี้ด้วย

นายนิวัฒน์ธำรง ได้ออกหมายสัมภาษณ์ภายหลังรับฟังคำพิพากษา ระบุว่า คดีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการไต่สวนเริ่มมาตั้งแต่ปี 2562 และเข้าสู่กระบวนกระบวนการศาลฎีกาตั้งแต่ปี 2565 สำหรับผู้ถูกฟ้องมันได้รับความทรมาน แต่วันนี้ดีใจที่ศาลเมตตา ก็ถือว่าโล่งใจเพราะต่อสู้กันมาหลายปี

เช่นเดียวกับนายสุรนันทน์ ได้ขอบคุณตุลาการศาลฎีกาที่มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่ผิด ที่ให้ความเป็นธรรม และขอขอบคุณทุกกำลังใจ จากทุกคนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก รู้สึกสบายใจ เพราะขณะนั้นก็ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ วันนี้ก็ถือเป็นการยืนยันความถูกต้อง



-ธนพร ชี้นับหนึ่ง ยิ่งลักษณ์ ใช้โมเดลเดียวกับทักษิณกลับไทย

หลังศาลมีคำวินิจฉัยดังกล่าว ทำให้มีการมองว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับประเทศไทย เช่นเดียวกับพี่ชาย

รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ให้สัมภาษณ์หลังเข้าไปร่วมฟังคำพิพากษา ว่า จากคำพิพากษาวันนี้ เชื่อว่าถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ นำมาพิจารณาว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วในการกลับประเทศไทย และเชื่อว่าเป็นการนับหนึ่งของกลุ่มคนรักยิ่งลักษณ์ที่จะได้พบตัวจริงอีกครั้ง

ตอนนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่มีหมายจับคดีอาญาแล้ว เพราะถูกยกฟ้องไปแล้ว 2 คดี มีเพียงโทษจำคุกเพียง 5 ปี จากคดีจำนำข้าว ซึ่งถือว่าน้อยกว่าพี่ชาย และตนเชื่อว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนางสาวยิ่งลักษณ์จะต้องมีการวางแผนกันแล้ว และเชื่ออีกว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ จะใช้โมเดลเดียวกับพี่ชายกลับสู่ประเทศไทย

ย้อนไป เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2566 หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เพิ่งมีมติเสียงข้างมากพิพากษา "ยกฟ้อง" น.ส.ยิ่งลักษณ์ และเพิกถอนหมายจับข้อหา ม.157 ในคดีโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการ สมช.



-ปลัด ก.ทรัพย์ - ก.เกษตรฯ นำทีมปิดห้องเคลียร์ใจ ปมที่ดินทับซ้อน

ปัญหาข้อพิพาทระหว่าง 2 กระทรวง จากกรณีที่ดินทับซ้อนที่เขาใหญ่ เมื่อวานนี้ปลัด 2 กระทรวงนำทีมมาปิดห้องหารือ เพื่อเคลียร์ใจและวางแนวทางการทำงานร่วมกัน แต่ก็ยังมีวลีเด็ดจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยเลขาฯ ส.ป.ก.บอก "อดีตที่ผ่านมาชั่งหัวมัน เพราะต่างทำงานให้ประชาชน" ขณะที่ต้นเรื่อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ประกาศว่า "งานนี้จบหล่อแบบไม่มีใครผิด ไม่ได้"

เมื่อวานนี้มีการนัดหารือร่วมกัน ระหว่าง 2 กระทรวง ที่ ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งนึงนำโดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม / นายอรรถพล เจริญพรรษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมถึงนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ขณะที่อีกฝั่ง นำโดย นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาฯส.ป.ก.

รวมถึงยังมีตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาพื้นที่ทับซ้อนที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

ภายหลังปิดห้องพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งหมดได้ร่วมกันแถลงข่าว ประเด็นสำคัญคือ ได้ข้อตกลงในแนวทางการทำงานร่วมกันหลังจากนี้

หลักๆ กำหนดว่า การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินส.ป.ก. จะต้องมีคณะกรรมการจาก 9 หน่วยงาน ไปร่วมรับรองแนวเขตด้วย และสำหรับพื้นที่ที่เป็นแนวกันชน จะต้องมีการอนุรักษ์ไว้สำหรับสัตว์ป่า จึงขอไว้เป็นข้อตกลงหรือ MOU ร่วมกันระหว่าง 2 กระทรวง

ส่วนกรณีปัญหาข้อพิพาทเขาใหญ่ จะรอให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินแห่งชาติจัดทำ One Map ให้แล้วเสร็จก่อน จนกว่าจะได้ข้อยุติใน 2 เดือนนี้ โดยหากคณะกรรมการชุดได้ข้อสรุปอย่างไรทั้ง 2 กระทรวงจะยึดตามนั้น

โดย เลขาธิการ ส.ป.ก. ยืนยันว่า จากนี้พื้นที่ตรงไหน ที่มีปัญหาทับซ้อนกันเราจะไม่ทะเลาะกัน จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการ One Map และบอกว่า ก่อนหน้านี้ต่างคนต่างทำงาน ต่อจากนี้จะทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น "อดีตที่ผ่านมาก็ชั่งหัวมัน เพราะสุดท้ายต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ ทำงานให้ประชาชน

ขณะที่นายชัยวัฒน์ บอกว่า วันนี้จะจบแบบหล่อ ๆ คือ จบแบบไม่มีใครผิดไม่ได้ ก็ย้ำว่า หากตัดสินว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นปัญหาอยู่ในเขต ส.ป.ก. ตนก็ต้องรับเต็ม ๆ แต่หากอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตนก็จะฟ้องกลับเช่นเดียวกัน



-มาแล้ว! พัชรวาท ตอบกระทู้ สว. หลังดรามาหนีสภา

ส่วนอีกประเด็น ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังมีดรามาว่าหนีสภา เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เดินทางเข้ามาสภาแล้ว แต่เป็นการมาตอบกระทู้ของสมาชิกวุฒิสภา

หลังสัปดาห์ที่แล้ว ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์หนัก โดยเฉพาะสส.พรรคก้าวไกล ได้ชูรูปประกาศตามหาคนหายกลางสภา หลังถูกเลื่อนตอบกระทู้ เป็นครั้งที่ 4

เมื่อวานนี้ มีความเคลื่อนไหวของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางเข้าสภาแล้ว แต่เป็นการมาตอบกระทู้ของสมาชิกวุฒิสภา ประเด็นเรื่องการจัดสรรพื้นที่ป่าชายเลนให้เอกชนปลูกป่าชายเลน ของ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ก็ย้ำว่าไม่มีการเอื้อเอกชน และโครงการดังกล่าว ได้ติดตามประเมินผล พิจารณาความคุ้มค่า และประโยชน์ของชาติและประชาชน

ขณะที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เชื่อว่า สัปดาห์นี้ รัฐมนตรีจะเข้ามาตอบกระทู้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรกันครบ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับในการประชุมครม.

ก็บอกว่า “ขอร้องไปถึงรัฐมนตรี ว่าอย่าขยันขันแข็งมากเกินไป เช้าวันพฤหัสบดีขอให้รอตอบกระทู้ก่อน 3 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้น จะไปเยี่ยมประชาชน ก็เชิญตามสบาย”

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/DNJNzMpq4_0