สังคม

ชาวบ้านรวมตัวร้อง เงินฝากธนาคารหมู่บ้าน หายเกลี้ยงเกือบ 3 ล้านบาท ประธานฯ ปิดปากไม่ยอมชี้แจง

โดย nicharee_m

2 มี.ค. 2567

497 views

ผู้ใหญ่บ้านต้นธงชัย ม.1 นำลูกสมาชิกธนาคารหมู่บ้านเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งฝาย ให้ดำเนินคดีกับประธานและกรรมการ หลังเงินในธนาคารหมู่บ้านหายเกลี้ยงเกือบสามล้าน ยอมรับเงินไม่มีแต่ไม่ยอมชี้แจง

วานนี้ (1 มีนาคม 2567) ที่ศาลาอเนกประสงค์ศาลเจ้าฮักษา บ้านต้นธงชัย ม.1 ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง นายจรัล กัลปสันติ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ได้เป็นประธานเปิดการประชุมให้กับสมาชิกธนาคารหมู่บ้านต้นธงชัย เนื่องจากประธานธนาคารนัดจ่ายเงินคืนให้สมาชิกในวันนี้ หลังเลื่อนนัดมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยมีประธานธนาคารหมู่บ้าน นางกนกวรรณ สิทธิจู และ กรรมการอีก 2 คน เป็นผู้ให้ข้อมูลและตอบข้อสงสัยของสมาชิก ซึ่งมาร่วมประชุมและรอรับเงินเกือบ 50 คน

แต่ปรากฏว่าในวันนี้ประธานธนาคารได้เปิดเผยว่าเงินในธนาคารไม่มีแล้วและขอโอกาสหาเงินมาคืนสมาชิกอีกครั้ง แต่เมื่อสมาชิกสอบถามว่านำเงินไปใช้อะไร ประธานฯไม่ยอมชี้แจง แต่อ้างว่าตนเองยังมีที่ดินอยู่อีก 1 ผืน ขอเวลาในการขายที่ดินผืนนี้คาดว่าจะได้เงินเพียงพอในการชำระเงินคืนให้กับสมาชิกทุกคนรวม 142 คน รวมเป็นเงินกว่า 2.6 ล้านบาท โดยขอให้สมาชิกช่วยขายที่ดินดังกล่าวด้วย

ซึ่งตอนแรกสมาชิกก็ตกลงที่จะช่วยขายที่ดินให้ แต่ขอให้ประธานไปนำสำเนาโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวมาให้ดู สุดท้ายปรากฏว่า สำเนาโฉนดที่ประธานนำมาให้ดูถ่ายสำเนามาเพียงด้านหน้าแต่ไม่มีรายละเอียดด้านหลังของโฉนด เมื่อมีการซักไซ้จึงยอมรับว่าที่ดินแปลงดังกว่าได้ขายฝากไว้ หากขายได้ก็จะต้องนำเงินส่วนหนึ่งไปคืนให้กับเจ้าของที่ดินที่ตนนำเงินมา และที่เหลือตนจึงจะได้รับเงิน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะขายได้จำนวนเท่าไหร่และจะเพียงพอหรือไม่

ทำให้สมาชิกทั้งหมดที่มาร่วมประชุมไม่พอใจเพราะเห็นถึงความไม่จริงใจของประธานธนาคาร จึงมีมติเข้าแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งสมาชิกทุกคนเห็นพ้องด้วย เพราะหากยังปล่อยไว้แบบนี้ก็จะไม่มีโอกาสได้เงินคืนอย่างแน่นอน จึงได้เดินทางไปยัง สภ.ทุ่งฝาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับประธานธนาคารและกรรมการฯ ทันที

ด้านนายจรัล กัลปสันติ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บอกว่า ตนไม่ได้เป็นสมาชิก แต่รู้ว่าในหมู่บ้านมีการตั้งธนาคาร เคยรับทราบมาบ้างว่ามีปัญหาเมื่อสามปีที่ผ่านมา เพราะเห็นกรรมการลาออก และสมาชิกเริ่มลาออกจาก 700 กว่าคน เหลือ 100 กว่าคน ทำให้ขาดสภาพคล่อง แต่ก็ยังเห็นดำเนินงานกันอยู่ กระทั่งเมื่อปีที่แล้วเงินไม่มีแล้ว จึงมาขอให้ตนเองช่วยเหลือซึ่งมาถึงทางตันหมดแล้ว ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร หากมาบอกก่อนหน้านั้นก็อาจจะหาทางช่วยเหลือกันได้เพาะจริงๆ ตนเองก็ไม่อยากให้มีเรื่องถึงโรงถึงศาลหากไกล่เกลี่ยหันได้มันก็จะดีแต่ตอนนี้ก็คงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

นายแก้วชาวบ้านที่เป็นสมาชิกธนาคารหมู่บ้าน และเป็นคนพิการบอกว่าตนเองฝากเงินมาตั้งแต่เริ่มเปิดธนาคารก็ประมาณ 10 ปี แล้ว ฝากอย่างเดียวโดยเอาเบี้ยผู้พิการไปฝากไว้ รวมทั้งหมด 190,000 บาท เป็นเงินเก็บหายหมดเลย ก่อนหน้านี้พ่อของตนเองก็เคยเตือนแต่ตนเองก็ไม่เชื่อเพราะไว้วางใจประธาน เพราะก็เคยเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านก็ยังฝากต่อ

ส่วนพ่อของตนเองมีเงินฝาก 70,000 บาท ชิงมาถอนก่อนเมื่อกลางปีที่แล้ว โดยยอมที่จะไม่รับดอกเบี้ย เพราะหากถอนกลางปีจะไม่ได้ดอกเบี้ย หากถอนปลายปีจะได้ดอกเบี้ย ตนเองจึงรอมาถอนปลายปีก็มาเจอปัญหาคือถอนเงินไม่ได้และมารู้ว่าเงินในธนาคารหายไปหมดแล้ว

เช่นเดียวกับผู้เฒ่าผู้แก่ส่วนใหญ่ที่เป็นสมาชิกบางคนออมวันละ 100-200 บาททุกเดือน บางคนออมไว้ให้ลูกหลาน ออมอย่างเดียวไม่มีการถอน เพื่อจะให้มีเงินเก็บยามบั้นปลายชีวิตแต่ก็มาเจอปัญหาแบบนี้


คุณอาจสนใจ