สังคม

เตรียมร้อง ป.ป.ช.-อสส. เอาผิดจนท.รัฐ ปรักปรำ 'ป้าศรีไพร' รุกป่า คาดกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลัง

โดย panwilai_c

29 ก.พ. 2567

147 views

ข่าว 3 มิติ ยังตามต่อ กรณีมีเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่ง เข้าไปตรวจยึด-จับกุมนางศรีไพร ทำสำนวนส่งฟ้องศาลในคดีบุกรุกป่า ทั้งที่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า นางศรีไพรกับครอบครัว ไม่ได้บุกรุก เเละได้อาศัยทำกินในเขตป่า อ.วิหารเเดง จ.สระบุรี มานานกว่า 60 ปีเเล้ว โดยเฉพาะเอกสารการอ่านเเปลภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ-เเต่กลับไม่อยู่ในสำนวนของอัยการ จึงมีการตั้งข้อสงสัยว่า การกล่าวหานางศรีไพร อาจมีเบื้องหลังหรือผลประประโยชน์บางอย่างเเอบเเฝงหรือไม่



นางศรีไพร ตุ่นสมบัติ ในวัย 66 ปี ร้องขอความเป็นธรรม เเละอยากให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ โดยเฉพาะกรณีที่สงสัยว่า อาจมีการปลอมหลักฐานเเละเเจ้งเท็จในเเบบประเมินความเสียหายในพื้นที่ป่า ซึ่งพบว่า ชุดจับกุมเอาภาพจากคดีอื่นเมื่อปี 59 มาใส่ในคดีของนางศรีไพรเมื่อปี 64 เมื่อเอามาเทียบจะเห็นชัดเจนว่า เป็นภาพเดียวกัน ต่างก็เเค่ภาพสีกับขาวดำ



กรณีของนางศรีไพร เป็นอีกหนึ่งคดีที่ศาลได้ถามหาหลักฐานนี้จากอัยการฝ่ายโจทก์ ซึ่งปกติในคดีพิพาทป่าไม้ ฝ่ายที่บังคับใช้กฏหมายจะต้องรวบรวมมาใส่ไว้ในสำนวนการส่งฟ้อง เพื่อให้ข้อกล่าวหามีน้ำหนักเเละน่าเชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิด เเต่เรื่องนี้กลับตรงกันข้าม เพราะเเทนที่หลักฐานนี้จะอยู่ในมือของฝ่ายโจทก์ เเต่กลับเป็นฝ่ายจำเลย ที่ต้องไปขอจากกรมป่าไม้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพื่อพิสูจน์ว่า สภาพที่ทำกินของนางศรีไพร เป็นไปตามคำให้การหรือไม่



จึงนำเอกสารประกอบการอ่านเเปลภาพถ่าย ตรวจดูความเปลี่ยนเเปลงในเเต่ละปี โดยเริ่มจากปี 2559 เทคโนโลยีการอ่านเเปล สามารถระบุได้เลยว่า รหัส A2 มีการปลูกพืชไร A3 คือไม้ยืนต้นเเละA4 คือไม้ผล ถอยไปดูในปี 2545 ก็ยังเห็นได้ว่า มีการปลูกพืชไร่ มีไม้ผล ไม้ยืนต้น เเละมีทุ่งหญ้าธรรมชาติ ถอยลึกไปดูปี 2537 ขณะนั้นก็ยังพบร่องรอยทำกิน มีพืชไร่ มีไม้ยืนต้น ปรากฏชัด หรือเเม้เเต่ปี 2510 การอ่านเเปลก็ยังย้อนกลับไปวิเคราะห์ได้ว่า บริเวณนี้มีการปลูกพืชไร่



เมื่อลองย้อนไปปีลึกสุด 2496 ก็ยังปรากฏข้อมูลเดิม คือพบร่องรอยทำกิน รหัส A2 คือ ปลูกพืชไร่ ซึ่งตรงกับคำให้การจากพยาน ทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้นพลุใชน เเละชาวบ้านที่พร้อมใจกันออกมาช่วยเป็นพยานให้นางศรีไพร



กว่า 3 ปี นับตั้งเเต่ถูกจับเเละส่งฟ้องศาลในปี 2564 นางศรีไพรสูญเสียสามี เเละต้องคอยเเบกสังขารจากขาที่ไม่ค่อยมีเเรง ออกจากบ้านไปรายงานตัวที่ศาล จากนี้จะไปร้องเรียน ป.ป.ช.เเละอัยการสูงสุด ตรวจสอบอัยการ เเละคนที่เกี่ยวข้อง



ซึ่งสงสัยว่า อาจมีบางอย่างเเอบเเฝงหรือไม่ หลังพบว่ารอบเเปลงที่ทำกินกลายเป็นที่ดินสุสาน เเละกำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มนายทุน ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีนายหน้าเข้ามาเจรจา เเต่เธอก็ยืนยันมาตลอดว่า "ตรงนี้เป็นที่หลวง ให้อาศัยทำกิน จะเอาไปขายไม่ได้"

คุณอาจสนใจ

Related News