สังคม

ไรเดอร์โวยต่างชาติ ไม่จ่ายค่าทางด่วน ตำรวจไกล่เกลี่ยจะจ่ายแทน ไรเดอร์ไม่ยอม มองไม่ถูกต้อง

โดย paranee_s

29 ก.พ. 2567

380 views

จากกรณีแท็กซี่ไรเดอร์โวย นักท่องเที่ยวชาวต่างติเรียกรถไปวัดราชนัดารามวรวิหาร โดยให้ขึ้นทางด่วน แต่เมื่อถึงที่หมายกลับไม่ยอมจ่ายค่าทางด่วนและพยายามหนี โชเฟอร์จึงตามจับ ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามา ทราบเรื่องและเสนอจ่ายค่าทางด่วนให้ แต่โชเฟอร์ไม่ยอม เพราะมองว่ามันไม่แฟร์ ชาวต่างชาติควรจ่ายเอง


ทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณวัดราชนัดารามวรวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์จุดที่มีการโต้เถียงกันระหว่างแท็กซี่กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเรื่องค่าโดยสาร โดยชาวบ้าน ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ทีมข่าวฟัง เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความเข้าใจผิด ในเรื่องของราคาค่าโดยสาร ที่มีการสื่อสาร ไม่เข้าใจกัน ซึ่งมองว่าไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โต ส่วนใครจะยอมหรือไม่ก็ต้องไปดูในข้อเท็จจริง


สำหรับการสื่อสารภาษาอังกฤษ ในขณะนั้นชาวต่างชาติอาจจะไม่เข้าใจ เพราะการอธิบายของคนไทย อาจจะไม่ชัดเจน พร้อมยอมรับว่าตกใจที่มีปากเสียงกันเป็นเวลานาน ถึงขั้นเรียกตำรวจ มาเจรจา และระบุว่าหากตำรวจไม่มาเป็นคนกลาง ปัญหาดังกล่าวก็อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เมื่อตำรวจมาแล้ว เรื่องก็จบ


ส่วนการที่ตำรวจ ไปจ่ายเงินแทนชาวต่างชาติ มองว่าหากตำรวจไม่จ่ายแทนให้เรื่องก็อาจจะไม่จบ เพราะเรื่องนี้ หากมีคนใดคนหนึ่งยอมเรื่องก็จะจบ และเชื่อว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่ได้มีเจตนาจะโกง แต่เขาคงสงสัยว่าทำไมต้องจ่ายเพิ่ม มองว่าเรื่องนี้ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิด แต่น่าจะเป็นเรื่องของการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันมากกว่า


ขณะที่คนขับแท็กซี่เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ กับทีมข่าว กรณีรับผู้โดยสารชาวต่างชาติและจ่ายเงินไม่ครบตามที่ระบุไว้ในแอป ว่า ได้ไปรับผู้โดยสารรายนี้ ที่ซอยสรงประภา 1 แยก 3 เพื่อ ไปส่งที่วัดราชนัดดา แถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีการเจรจา ตามที่ระบุไว้ในแอปฯ คือ 326 บาท


อีกทั้งยังมีการเจรจาว่า ถ้าขึ้นทางด่วน ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าทางด่วนเองแต่ถ้า วิ่งทางปกติ ระยะทางก็จะมีการปรับขึ้นตามระยะทาง ซึ่งการเจรจามีการบันทึกไว้ในกล่องแชตข้อความของแอป in driver ขณะที่อยู่หน้าโรงแรมผู้โดยสารก็มีการพยักหน้าและบอกว่าโอเค แต่เมื่อมาถึงกลางทางด่วน ผู้โดยสารก็มีการสนทนา ในลักษณะที่ไม่เข้าใจเรื่องค่าโดยสาร ที่มีการเสียค่าทางด่วน 2 ด่าน รวมเป็นเงิน 105 บาท พอขับมาเรื่อยๆ ตนเองก็คิดว่าผู้โดยสารรายนี้น่าจะมีปัญหา


พร้อมยอมรับว่าตลอดเวลาที่ขับรถมา 8-9 ปี เคยมีปัญหาในลักษณะนี้ แต่ก็แก้ปัญหาได้ จนกระทั่งถึงปลายทาง ผู้โดยสารรายนี้ก็จ่ายเงินเพียง 221 บาท ซึ่งตนเองไม่ยอม เนื่องจากต้องจ่ายตามยอดที่ระบุคือ 326 บาท ค่าทางด่วนต้องเป็นหน้าที่ของผู้โดยสาร ผู้โดยสารรายนี้กลับ เปิดประตูรถแล้ววิ่งหนี ตนเองจึงจอดรถกลางถนนแล้ววิ่งติดตามไป พร้อมตะโกนให้ชาวบ้านในย่านนั้นโทรเรียกตำรวจ


จากนั้นตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ ตนเองก็เล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟังทั้งหมด แต่ตำรวจสรุป ด้วยการเอาเงิน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเองจ่ายให้กับ ตนเอง ซึ่งตนเองมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะการแก้ปัญหา ด้วยการจ่ายเงินแทนให้กับชาวต่างชาติรายนี้ เกรงว่าชาวต่างชาติที่ไม่เข้าใจระบบการขนส่งในไทย และไปก่อเหตุกับรถบริการสาธารณะรายอื่น ซึ่งตนเองไม่ต้องการที่จะได้เงิน แต่อยากให้ตำรวจอธิบายให้กับชาวต่างชาติเข้าใจถึงความถูกต้อง


อีกครั้งฟังดึกเมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจที่มาระงับเหตุได้มีการโทรศัพท์ติดต่อมาหาตนเพื่อขอโทษ และร้องขอให้มีการลบคลิป ที่มีการเผยแพร่ ออกไป ซึ่งเจตนาตนเองไม่ทราบว่าตำรวจคิดอะไร ยืนยันว่า ต้องการให้ตำรวจทำตามระเบียบ และไม่ต้องการให้ตำรวจมาจ่ายเงินแทน ซึ่งตนเองเรียกร้องเรื่องความผิดถูกต้องและความซื่อตรง ใจจริงไม่อยากได้เงิน 100 กว่าบาท


ด้าน พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฏร์ เปิดเผยกรณีเพจดังโพสต์คลิปและข้อความเกี่ยวกับ นักท่องเที่ยวเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ไรเดอร์ ขึ้นทางด่วนแต่ไม่ยอมจ่ายส่วนที่เป็นค่าทางด่วน เมื่อเรียกตำรวจมาดำเนินการกลับตัดปัญหาด้วยการจ่ายค่าทางด่วนให้นักท่องเที่ยวรายดังกล่าว อ้างว่าเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวว่า ตนเองได้เห็นคลิปวิดีโอที่มีการแชร์แล้ว โดยเป็นการถกเถียงกันระหว่างไรเดอร์กับนักท่องเที่ยวเรื่องค่าโดยสาร ที่ไม่ตรงกัน


จากการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการเข้าใจผิดเนื่องจากในการเรียกไรเดอร์ หรือรถแท็กซี่สาธารณะ จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง จะมีการคำนวณค่าโดยสารตามระยะทางชัดเจน แต่นักท่องเที่ยวรายนี้ไม่ได้ดูว่าการไปยังจุดหมายปลายทางต้องขึ้นทางด่วน โดยเป็นการเรียกจากดอนเมือง ไปยังวัดราชนัดดารามวรวิหาร ราคา 326 บาท ซึ่งเป็นราคาตามแอปพลิเคชัน แต่ระหว่างทางตรวจสอบแล้วขึ้นทางด่วนอีก 105 บาท ซึ่งทางนักท่องเที่ยวได้สำรองจ่ายไปก่อน


เมื่อถึงที่หมาย นักท่องเที่ยวก็เอา 326 บาทเป็นตัวตั้งแล้วหักลบด้วยค่าทางด่วน 105 เหลือ211 บาท ซึ่งทางแท็กซี่ไรเดอร์บอกว่าไม่เกี่ยวกับค่าทางด่วน ตรงนี้จึงเป็นความเข้าใจผิด เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะไม่กลายเป็นประเด็นใหญ่โตหากมีการสื่อสารกันให้ชัดเจนถูกต้องตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะผู้ให้บริการรายอื่น ต้องดูเส้นทางก่อน เพราะเส้นทางวิ่งทางด่วนกับวิ่งด้านล่างแตกต่างกัน


แต่ส่วนตัวเชื่อว่าคนขับรถสาธารณะหลายๆ คนไม่อยากรถติดด้านล่าง เจตนาดีคือจะขึ้นทางด่วน จะได้ถึงจุดหมายเร็วขึ้น แต่การขึ้นทางด่วนก็มาพร้อมค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือต้องคุยกับผู้โดยสารให้รู้เรื่องชัดเจนก่อน ว่าจะขึ้นทางด่วนมั้ยแต่มีค่าทางด่วน


แต่อีกประเด็นสำคัญคืออาจจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสารทางภาษา จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้น ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต จึงฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเสริมภูมิทางภาษาให้กับผู้ให้บริการ เช่น ประโยคสั้นๆ สื่อสารให้เข้าใจ หรือใช้แอปแปลภาษา เพื่อสื่อสารให้เข้าใจ หรือสุดท้ายถ้าคิดอะไรไม่ออกเชิญมาที่สถานีตำรวจ


ส่วนที่ตำรวจสายตรวจที่ไปจุดเกิดเหตุยอมจ่ายส่วนต่างให้นั้น ตนเองได้เรียกไปตำหนิแล้วว่า ในการแก้ไขปัญหาอย่าไปแก้ไขปัญหาด้วยการควักเนื้อใช้เงิน ซึ่งตนเองจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าตำรวจนายดังกล่าวรวยเป็นพันล้านหมื่นล้าน แต่เข้าใจว่าด้วยความเป็นตำรวจอยากให้จบปัญหาให้เร็วที่สุด ไม่อยากให้เหตุการณ์บานปลาย ซึ่งสถานการณ์ตอนนั้นไม่ใช่มีแค่ตำรวจที่จะจ่ายส่วนต่าง แต่ชาวแถวนั้นจะลงขันช่วยกันจ่ายให้แท็กซี่ด้วย อาจจะด้วยเรื่องของภาพลักษณ์ส่วนหนึ่งและเพื่อตัดความรำคาญทั้งสองฝ่ายที่ถกเถียงกัน


ทั้งนี้ ยังกล่าวย้ำว่าตนเองเข้าใจลูกน้องที่อยากแก้ไขปัญหาให้จบโดยเร็ว แต่สิ่งที่ตามมาเรื่องภาพลักษณ์มีทั้งมุมดีและมุมแท้ในการใช้เงินแก้ไขปัญหา มองได้หลายมุม พร้อมฝากถึงคนไทยผู้ให้บริการไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ ไรเดอร์ หากรักที่จะทำอาชีพนี้ รักอาชีพที่ต้องประสบพบเจอกับชาวต่างชาติหรือคนไทยที่ใช้บริการเองก็ตาม การพูดคุยสื่อสารต้องชัดเจนในการทำข้อตกลงต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ