สังคม

สามีวอนอดีตผู้สมัคร สส.-ลูกสาว 5 ขวบกลับบ้าน ไม่ขอตอบโต้ปมชอบใช้ความรุนแรง หวั่นกระทบชีวิตครอบครัว

โดย paranee_s

29 ก.พ. 2567

290 views

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Picknick Pimpisa ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า ฝากช่วยแชร์ ตามหาคนหาย จากไปส่งลูกที่โรงเรียน นางสุพรรณี กับ ด.ญ.พิมพ์พิศา ลูกกสาววัย 5 ขวบ หายไปนานกว่า 13 วัน ไร้ร่องรอย ไม่ได้นำโทรศัพท์ติดตัวไป มีเงินติดตัวเพียงเล็กน้อย หากใครพบเบาะแสจนพาไปเจอตัว หรือพามาส่งได้ถึงบ้าน มีเงินรางวัลให้ 30,000 บาท ฝากช่วยแชร์และตามให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ อยากให้น้องมินนี่ได้กลับมาสอบและเรียนปกติ จะเก็บข้อมูลผู้แจ้งเป็นความลับ


ซึ่งหลังจากโพสต์ข้อความออกไป มีเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยเบาะแสสุดท้าย ทราบเพียงว่า หายตัวไปขณะไปส่งลูกที่โรงเรียน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งนางสุพรรณี เชื้อดี ภรรยา หรือมะเหมี่ยว เป็นอดีตผู้สมัคร สส.นครราชสีมา เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์


วันนี้ (29 กุมภาพันธ์ 2567) พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวว่า ล่าสุด นางสุพรรณี หรือ มะเหมี่ยว อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นภรรยาของนายพงศ์ภูมิพันธ์ พร้อมน้องมินนี่ ลูกสาววัย 5 ขวบ ได้ติดต่อมาหาเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยได้รับการยืนยันว่าทั้งสองคนแม่ลูกปลอดภัยดี ไม่ได้มีอันตรายแต่อย่างใด


ส่วนสาเหตุที่หลบหายไปนางสุพรรณีระบุว่าถูกสามีทำร้ายร่างกาย ซึ่งเรื่องที่เกิดเป็นปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และทางนางสุพรรณีก็ได้ขอความเป็นส่วนตัวในการจัดการปัญหาเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงต้องให้เวลารอทางนางสุพรรณีมีความพร้อมที่จะมาให้ปากคำ หรือหากต้องการแจ้งความดำเนินคดีในกรณีที่ถูกทำร้ายร่างกายก็สามารถทำได้เช่นกัน


ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านในต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบกับนายพงศ์ภูมิพันธุ์ หรือเสี่ยปิ๊ก อายุ 42 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่ประกาศตามหาลูกและภรรยา โดยเสี่ยปิ๊ก เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่ลูกกับภรรยาปลอดภัยดีทั้งคู่ ส่วนเรื่องที่ภรรยาไปให้ข่าวว่าตนเองชอบใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายนั้น ตนเองไม่อยากไปตอบโต้อะไรด้วย เพราะไม่ต้องการให้เกิดความผิดใจกันมาก


สิ่งที่ภรรยาพูดไปจะจริงหรือไม่จริงก็รู้กันดีภายในครอบครัว ถ้าตนเองมาตอบโต้สาดโคลนใส่ภรรยา เรื่องก็จะบานปลายไปเรื่อยๆ คนติดตามข่าวอาจจะสนุก แต่สุดท้ายแล้วไม่ได้ส่งผลดีทำให้ครอบครัวของตนเองกลับมาเหมือนเดิมได้เลย เนื่องจากข่าวจบแต่ชีวิตของครอบครัวตนเองจะถูกสังคมตราหน้าไปไม่รู้จบแน่นอน เพราะวัตถุประสงค์ของตนเองที่ประกาศตามหาลูกและภรรยา ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าตนเองรักลูกกับภรรยามาก กลัวว่าหายไปนานจะเกิดอันตรายขึ้น ต้องการให้ลูกกับภรรยากลับมาอยู่กับครอบครัวเหมือนเดิม ไม่ได้ต้องการให้ไปขุดคุ้ยเรื่องราวต่างๆ มาทำให้ตนเองกับภรรยาทะเลาะกัน ซึ่งไม่เป็นผลดีกับครอบครัวเลย


ตอนนี้ภรรยาของตนเองก็ยังไม่ได้ติดต่อมา ทราบแต่เพียงว่าไปอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งภรรยาของตนเองไม่เคยเดินทางไปกรุงเทพมหานครคนเดียวเลย และไม่รู้ว่าไปอยู่กับใคร ถ้าได้เห็นข่าวนี้แล้วก็อยากให้ติดต่อตนเองมา เพื่อให้ไปรับกลับบ้าน เพราะทางบ้านเป็นห่วงมาก ตอนนี้พ่อและแม่ของตนเอง ก็เพิ่งเดินทางมาจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพราะท่านไปทำธุรกิจที่นั่น เดินทางมาประเทศไทยเพียงปีละครั้ง และจะเดินทางกลับฝรั่งเศสในวันที่ 4 มี.ค.นี้แล้ว ท่านทั้งสองอยากเจอลูกสะใภ้กับหลานสาวมาก ถ้าไม่คิดถึงตนเองก็ให้นึกถึงปู่กับย่าบ้าง เพราะท่านทั้งสองก็รักลูกสะใภ้กับหลานสาวมาก


ตอนนี้ก็อยากให้ติดต่อมา ถ้าอยากให้มีคนกลางทางนายพิเชฐ พัฒนโชติ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ จ.นครราชสีมา ก็พร้อมที่จะเป็นคนกลางให้ จะมาคุยกันที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ อยากให้มาพูดคุยกันเร็วๆ เพื่อให้ปู่กับย่าได้อยู่กับหลานเร็วๆ ก่อนจะกลับฝรั่งเศส


นายเกรียงศักดิ์ อายุ 62 ปี พ่อของนายพงศ์ภูมิพันธุ์ กล่าวว่า ตอนที่ได้ข่าวว่าลูกสะใภ้กับหลานหายตัวไปหลายวัน ตนเองก็รู้สึกตกใจมาก แต่เมื่อรู้ว่าทั้งคู่ปลอดภัยดี ตนเองก็อยากให้ลูกสะใภ้กลับมาอยู่กับครอบครัวเหมือนเดิม เพราะเขาก็สร้างครอบครัวมาด้วยกัน 7-8 ปีแล้ว มีอะไรก็ค่อยพูดจากัน ซึ่งตนเองเชื่อว่าลูกสะใภ้เป็นคนรักลูกมาก คงจะไม่พาลูกไปลำบากแน่ แต่อาจจะมีปัญหาในครอบครัว


ทั้งนี้ตนในฐานะเป็นคนที่ใช้ชีวิตครอบครัวมานาน อยากจะบอกทั้งลูกชาย และลูกสะใภ้ว่า ชีวิตคู่ก็จะมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรราบรื่นไปหมดหรอก แต่ทุกอย่างต้องมาพูดคุยกัน มาทำความเข้าใจกัน เพราะถ้าไม่พูดคุยกันก็จะไม่รู้เรื่อง ทุกปัญหาเขามีไว้ให้แก้ ไม่ใช่มีไว้ให้ท้อ หรือมีไว้ให้หนีปัญหา ถ้าหนีปัญหาไปเรื่อยๆ ปัญหาก็จะไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ