คนขับรถโวย ‘ตำรวจ’ แก้ไม่ถูกจุด จ่ายเงินให้ ‘นทท.ต่างชาติ’ ทั้งที่อีกฝ่ายเบี้ยวจ่ายค่าทางด่วน

สาวขับรถผ่านแอปฯ โวย รับ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ขึ้นรถ พาขึ้นทางด่วน หักเงินจากยอดค่าโดยสาร อีกฝ่ายไม่ยอมจ่ายค่าทางด่วน พอเรียกตำรวจมาเจรจา ตำรวจกลับควักเงินจ่ายแทน อ้างเพื่อภาพลักษณ์ประเทศ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณวัดราชนัดดารามวรวิหาร ถนนราชดำเนิน สาวผู้เสียหาย โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เรียกมาไม่ใช่ให้มาตัดปัญหา ให้มาเคลียร์แก้ปัญหา อย่ามาใช้คำว่านั่นคือหน้าตาของประเทศไทย คุณทำไม่ถูก คุณเป็นคนรักษากฎหมาย คุณต้องทำให้ถูก ใครไม่ถูกใจก็เลื่อนผ่าน ไม่ต้องเข้ามาคอมเมนต์ ไม่ได้ต้องการดราม่า”

คนขับรถเปิดเผยผ่านโทรศัพท์กับทีมข่าวว่า รับผู้โดยสารรายนี้ที่ซอยสรงประภา 1 แยก 3 เพื่อ ไปส่งที่วัดราชนัดดา และได้เจรจาก่อนขึ้นทางด่วนแล้วว่า "ถ้าขึ้นทางด่วน ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าทางด่วนเองแต่ถ้า วิ่งทางปกติ ระยะทางก็จะมีการปรับขึ้นตามระยะทาง" ซึ่งการเจรจามีการบันทึกไว้ในกล่องแชทข้อความ ของแอปฯ ขณะที่อยู่หน้าโรงแรมผู้โดยสารก็มีการพยักหน้าและบอกว่าโอเค แต่เมื่อมาถึงกลางทางด่วน ผู้โดยสารก็มีการสนทนาในลักษณะที่ไม่เข้าใจเรื่องค่าโดยสาร

กระทั่งถึงปลายทาง ผู้โดยสารรายนี้ก็จ่ายเงินเพียง 221 บาท ทำให้เธอไม่ยอม แต่ผู้โดยสารรายนี้กลับเปิดประตูรถแล้ววิ่งหนี เธอจึงจอดรถกลางถนนแล้ววิ่งติดตามไป พร้อมตะโกนให้ชาวบ้านในย่านนั้นโทรเรียกตำรวจ

เธอบอกว่า เรียกตำรวจ ให้มาช่วยเจรจาทำความเข้าใจ แต่ปรากฏว่าตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ พื้นที่เกิดเหตุ กลับมาควักเงินจ่ายแทน แถมบอกว่า ผมจ่ายแทนแล้วเรื่องจะได้จบ เพราะถ้าบังคับให้เขาจ่ายอาจจะมีปัญหาได้ หากเขาเอาเรื่องนี้กลับไปพูดที่ต่างประเทศ จะทำให้ภาพลักษณ์กรุงเทพฯ เสียหาย

ซึ่งเธอมองว่าการทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง ตำรวจควรอธิบายให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ และเรียกเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวไม่ใช่มาควักเงินจ่ายแทน แล้วนักท่องเที่ยวจะมีความเข้าใจผิดๆ แบบนี้กลับไป และจะต้องมีผู้ให้บริการรถโดยสารอีกกี่คนที่จะโดนแบบนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจที่มาระงับเหตุได้มีการโทรศัพท์ติดต่อมาขอโทษ และร้องขอให้มีการลบคลิป ที่มีการเผยแพร่ออกไป แต่เธอยืนยันว่า ต้องการเรียกร้องเรื่องความผิดถูกต้องและความซื่อตรง อยากให้ตำรวจทำตามระเบียบ ไม่ต้องการให้ตำรวจมาจ่ายเงินแทน

ด้าน พันตำรวจเอก ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฏร์ เป็นการเข้าใจผิด เรื่องนี้จะไม่กลายเป็นประเด็นใหญ่โตหากมีการสื่อสารกันให้ชัดเจนถูกต้องตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะผู้ให้บริการ ต้องดูเส้นทางก่อน เพราะเส้นทางวิ่งทางด่วนกับวิ่งด่านล่างแตกต่างกัน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าคนขับรถสาธารณะหลายๆ คน ไม่อยากรถติดด้านล่าง เจตนาดีคือจะขึ้นทางด่วน จะได้ถึงจุดหมายเร็วขึ้น แต่การขึ้นทางด่วนก็มาพร้อมค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือต้องคุยกับผู้โดยสารให้รู้เรื่องชัดเจนก่อน ว่าจะขึ้นทางด่วนไหมแต่มีค่าทางด่วน

ส่วนที่ตำรวจสายตรวจที่ไปจุดเกิดเหตุยอมจ่ายส่วนต่างให้นั้น ตนเองได้เรียกไปตำหนิแล้วว่า ในการแก้ไขปัญหาอย่าไปแก้ไขปัญหาด้วยการควักเนื้อใช้เงิน ซึ่งสถานการณ์ตอนนั้นไม่ใช่มีแค่ตำรวจที่จะจ่ายส่วนต่างแต่ชาวแถวนั้นจะลงขันช่วยกันจ่ายให้แท็กซี่ด้วย อาจจะด้วยเรื่องของภาพลักษณ์ส่วนหนึ่งและเพื่อตัดความรำคาญทั้งสองฝ่ายที่ถกเถียงกัน

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/aXyBmdeSTZ8