สังคม

ทนายไพศาล ไขปมศึกชิงมรดกเลือด ลูกแค้นแทนแม่ ยิงลุงเสียชีวิต

โดย paranee_s

28 ก.พ. 2567

459 views

จากกรณีหลานวัย 19 ปี ยิงลุงวัย 57 ปี เสียชีวิต หลังมีปัญหาทะเลาะกันเรื่องที่ดิน 10 ไร่ ทั้งๆ ที่ตาเขียนพินัยกรรมไว้ให้ลูกทุกคน แต่ผู้ตายไม่พอใจชวนทะเลาะไม่ให้ที่ดินทำกินตามพินัยกรรม ถึงขั้นฟ้องร้อง สุดท้ายผู้ตายเป็นฝ่ายแพ้คดี แต่ยังพยายามชวนทะเลาะไม่เลิก หารั้วมาล้อม-เอาป้ายมาติด ระบุข้อความ "ใครที่ทำรั้วของข้าพเจ้าเสียหายขอให้กรรมตามสนอง"


ซึ่งในวันเกิดเหตุ ผู้ตายได้นั่งดื่มสุราตั้งแต่ 18.00 น. ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ไม่ห่างกันกับบ้านผู้ก่อเหตุ ประมาณ 23.30 น. ผู้ตายจะกลับบ้าน แต่มีรถของผู้ก่อเหตุมาจอดขวางทางอยู่ จึงตะโกนเรียกให้ขยับรถ แต่ไม่มีใครลงมา จึงตะโกนเรียกซ้ำอีก สุดท้ายผู้ก่อเหตุ คือนายวชิรวิชญ์ หลานชายวัย 19 ปี เดินลงมาเอาปืนจ่อยิงทันที ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนถือปืนขนาด 9 มม. รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ต่อมาทีมข่าว ได้พูดคุยกับทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ สอบถามถึงข้อกฎหมายของเรื่องดังกล่าว โดยทนายไพศาล เปิดเผยว่า ในส่วนนี้ลุงมีความผิด เนื่องจากศาลมีการพิพากษาแล้วว่าที่ดินดังกล่าวว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร ซึ่งลุงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปล้อมรั้วหรือติดป้ายประกาศ ห้ามไม่ให้เจ้าของที่หรือผู้อื่นเข้าไปทำมาหากิน เนื่องจากไม่ใช่ที่ดินของตัวเอง


ในส่วนของป้ายที่ลุงเอามาติด "ใครที่ทำรั้วของข้าพเจ้าเสียหายขอให้กรรมตามสนอง" ตนมองว่ามันเป็นความเชื่อ คุณลุงไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ ไม่สามารถมาติดป้ายได้ ซึ่งเหตุแบบนี้เจ้าของกรรมสิทธิ์สามารถรื้อถอนรั้วดังกล่าวได้โดยทันที เพราะบุคคลอื่นที่เข้ามาล้อมรั้วไม่สามารถมาแจ้งความกลับว่าเสียทรัพย์ได้เนื่องจากเป็นพื้นที่กรรมสิทธิ์ของเรา หรือต้องให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดี


ส่วนมูลเหตุที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาของที่ดิน 10 ไร่ ที่ฝ่ายของแม่ผู้ก่อเหตุเพิ่งจะได้รับที่ และยังต้องทำมาหากินโดยการทำนา แต่ทุกครั้งที่ น้องสาวและหลานเข้าไปทำนา ในที่มรดกที่พ่อแม่เขียนไว้ให้ มักมีเรื่องโต้เถียงกับลุงทุกครั้ง โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตคาดโทษผู้ก่อเหตุไว้หลายครั้ง


ในคืนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุนอนหลับ แต่ถูกตะโกนเรียกเสียงดังให้มาเลื่อนรถ ทั้งๆ ที่มีทางออกอีกทาง ทำให้ผู้ก่อเหตุทนไม่ไหว ลงมาใช้ปืนยิง ลุงแท้ๆ จนเสียชีวิต เจ้าตัวรอมอบตัว


ซึ่งผู้กระทำความผิด ผิดโดยชัดเจน มีความผิดตามมาตรา 288 ฆ่าคนโดยเจตนา มีโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต แต่ในส่วนของผู้ก่อเหตุอายุไม่เกิน 20 ปี บริบูรณ์ จะเข้ากฎหมายอาญามาตรา 76 ศาลจะใช้ดุลพินิจในการลดมาตราส่วนโทษ


แต่ผู้ก่อเหตุจะอ้างว่ามีข้อพิพาทกันมาก่อนหน้านี้แล้วไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า หากก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุเคยถูกข่มขู่มาก่อน ควรใช้สิทธิหน้าที่ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน


อยากฝากถึงสังคม เวลาเกิดเหตุอะไร ให้รู้หน้าที่ของตนเองไม่ว่าจะถูกข่มขู่ หรือทำร้ายร่างกาย เราต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน อย่างน้อยให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนสิทธิของตัวเอง

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ