ผบก.ภจว.กาฬสินธุ์ ขอหมายจับ 4 ใน 11 ทรชนขืนใจเด็กวัย 14 สั่งลงโทษ พงส.ดองคดี

จากกรณี ยายของเด็กหญิงวัย 14 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วิเชียร จงหาญ พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2567 ที่ผ่าน โดยแจ้งว่า เด็กหญิงจอย (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ถูกแก๊งทรชน 11 คน ล่อลวงไปรุมโทรม ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งพื้นที่รับผิดชอบ สภ.กุฉินารายณ์ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2567 แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ยายของเด็กหญิง 14 ปี ผู้เสียหาย จึงเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้กับหลานสาว ผ่านสื่อมวลชน เพื่อให้ผู้หลักผู้ใหญ่วงการตำรวจได้รับทราบ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุด (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางสาวปอ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี ยายแท้ๆ ของผู้เสียหายเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า หลังจากมีข่าวร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้กับหลานสาว ผ่านสื่อมวลชน ตั้งแต่เช้าของเมื่อวานนี้ (25 ก.พ.67) พ.ต.ท.วิเชียร จงหาญ สารวัตรสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ เจ้าของคดี ได้ติดต่อมาให้ตนและหลานสาวไปให้ปากคำ ที่สภ.ฯ โดยไม่ใช่เป็นการให้ปากคำเพิ่มเติม แต่เป็นการเริ่มสอบปากคำใหม่ทั้งหมด


ซึ่งที่ผ่านตั้งแต่แจ้งความเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2567 พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ทำสำนวน และยังไม่มีคณะสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำ หลานสาวของตนแต่อย่างใด แม้แต่ผู้บังคับบัญชาระดับหัวหน้าพนักงานสอบสวน ก็ยังบอกกับตน ไม่เคยได้รับรายงานว่าการแจ้งความในคดีดังกล่าว


นอกจากนี้ ยายของเหยื่อ 11 ทรชน ยังเล่าอีกว่า ได้ยินตำรวจพูดกันว่า การสอบปากคำวานนี้ (25 ก.พ.) เป็นสอบปากคำแบบลวกเอาเผากิน แก้ผ้าเอาหน้ารอดนำเรื่องไปรายงานให้ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภจว.กาฬสินุ์ รับทราบก่อน เนื่องจากเป็นข่าวไปแล้ว จึงทำให้ตนทราบว่า สาเหตุที่คดีความของหลานสาวตนไม่มีความคืบหน้า ก็เพราะว่าที่ผ่านมายังไม่มีการทำสำนวนการสอบสวนมาก่อนแต่อย่างใด รวมไปถึงผลการตรวจพิสูนจ์ร่างกายของผู้เสียหายเพื่อประกอบสำนวนก็ยังไม่มีผลตรวจออกมาจากทางโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน


ขณะที่ผู้สื่อข่าวทราบว่า พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภจว.กาฬสินธุ์ ได้เรียกให้ พ.ต.ท.วิเชียร จงหาญ สารวัตรสอบสวนเจ้าของคดี ให้นำสำนวนมาตรวจสอบ จึงได้มีการเรียกให้ผู้เสียหายมาให้ปากคำอย่างเร่งรีบ เพื่อทำสำนวนแบบคร่าวๆ นำไปรายงานนายเอาตัวรอดไปก่อน


พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภจว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ได้นำสำนวนเข้ามาตรวจสอบให้รอบคอบโดยในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.67) ให้มีการสอบสวนต่อสหวิชาชีพ ส่วนผู้ต้องหาในเบื้องต้นให้ออกหมายจับ 4 คนก่อน ส่วนผู้ก่อเหตุที่เหลือให้สืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีทุกราย


ส่วนพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ที่ไม่รีบรายงานต่อผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นคดีน่าสนใจ เป็นภัยอันตรายต่อสังคม ตนได้สั่งการให้มีบทลงโทษตามระบบกระบวนงานราชการแล้ว