อาชญากรรม

ทนายกุ้ง เผยผู้เสียชีวิตเป็น 1 ในผู้ต้องหาถูกฟ้องบุกรุกบ้านครั้งแรก ไม่เกี่ยวคดีครอบครองปรปักษ์

โดย paranee_s

26 ก.พ. 2567

4.3K views

ที่สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว นางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง เดินทางมาเพื่อติดตามสถานการณ์โดยมีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนเองเดินทางมาที่สน. ในครั้งนี้เนื่องจากได้มีการพูดคุยกับทางลูกความทราบว่าทางคู่กรณีมีการผูกคอเสียชีวิต ซึ่งในส่วนของลูกความตนเองก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองจึงเดินทางมาเพื่อสังเกตการณ์และรายงานผลให้กับทางลูกความทราบ


สำหรับตัวคุณภานุมาศ ผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในห้าผู้ต้องหา ที่ถูกทางเจ้าของบ้านตัวจริง ซึ่งเป็นลูกความของตนเอง แจ้งฟ้องข้อหาบุกรุก ในคดีแรก 17 กันยายน ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคู่กรณีฟ้องครอบครองปรปักษ์ กับลูกความตนเอง และที่ผ่านมา ตัวผู้ตายก็ไม่เคยเข้าไกล่เกลี่ยกับทางทนายเดชา หรือตนเอง


โดยคดีนี้หากเรียงตามลำดับเกิดขึ้นหลังจากที่ทางเจ้าของบ้านตัวจริง มีการแจ้งฟ้องห้ามผู้ต้องหาบุกรุก โดยมีตัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งในคดีนี้มีการนัดเจรจากันที่สน. แต่ตอนนั้นไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเสียหายได้จึงยุติการดำเนินการไป และมีการส่งมอบตัวบ้านคืนพร้อมยอมรับข้อหา


ต่อมา ลูกความของตนเองที่เป็นเจ้าของบ้านตัวจริงได้รับหมายศาลว่ามีหนึ่งในผู้ต้องหาในคดีบุกรุกแรก ยื่นฟ้องต่อศาลมีนบุรี เพื่อครอบครองปรปักษ์บ้านดังกล่าว ซึ่งตนเองในฐานะทนายความเห็นว่ากลุ่มคู่กรณียังไม่สามารถดำเนินการฟ้องครอบครองปรปักษ์ได้ เพราะบ้านมีการส่งมอบคืนเป็นที่เรียบร้อย และไม่ได้มีการครอบครองครบตามเงื่อนไข รวมถึงไม่ได้มีการครอบครองไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการพักอาศัยแต่อย่างใด จึงมีการส่งคำร้องคัดค้าน และฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งไปกับทางตัวคุณศรีพรรณ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีบุกรุกแรก และเป็นคนที่แจ้งฟ้องครอบครองปรปักษ์


และด้วยความตนเองยังแจ้งความร้องทุกข์กับตัวคุณศรีพรรณ ในข้อหาบุกรุกรอบที่สองเพิ่มเติมไปอีกด้วย


ซึ่งในส่วนของคดีการบุกรุกแรก เรื่องคดีในขณะนี้อยู่ในชั้นของพนักงานอัยการ ที่กำหนดเดิมมีกำหนดส่งฟ้องต่อศาลในวันที่ 6 มีนาคมที่จะถึงนี้ แต่กรณีที่มีหนึ่งในผู้ต้องหาในคดีเสียชีวิต ต้องมีการจำหน่ายคดีในส่วนของผู้เสียชีวิตออกไป จึงยังไม่ทราบว่า กำหนดการเดิมจะมีการเลื่อนหรือไม่


ในส่วนของลูกความตนเองเท่าที่ได้มีการพูดคุยยอมรับว่ามีการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจึงยังไม่รู้ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ต่อจากนี้เมื่อตนเองเสร็จสิ้นจากการสังเกตการณ์ที่สน. คันนายาว ก็จะมีการประสานสอบถามกับทางลูกความตนเองอีกครั้ง


ส่วนประเด็นที่ทางทนายความคู่กรณีมีการให้สัมภาษณ์กับทางสื่อว่า ทางลูกความตนเองมีการใช้สื่อกดดัน คู่กรณี ส่วนตัวมองว่าตนเองในฐานะทนายความและที่ปรึกษาทางกฎหมายก็มีหน้าที่ที่ต้องดำเนินการทางคดีเพื่อปกป้องสิทธิ์ของทางลูกความ สื่อก็มีหน้าที่ในการนำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไปตามขั้นตอน ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เชื่อว่าไม่ใช่การกดดันอะไร แต่ก็อยู่ที่มุมมองว่าใครจะมองยังไง


ส่วนการถอนฟ้อง สามีคุณภานุมาส เป็นคนพูดเองว่าจะให้ทนายไปถอนฟ้องครอบครองปรปักษ์ แต่เบื้องต้นยังไม่มีการถอนฟ้อง ส่วนคดีต้องว่าไปตามกฎหมาย ส่วนทางอากู๋จะว่ายังไง ก็ขอปรึกษากันก่อน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ