พลเมืองดีห้ามกันวุ่น! ชายถูกมิจฉาชีพหลอกลงทุน นำทอง 5 บาทขาย เตรียมโอนให้มิจฉาชีพ หวังถอนทุนคืน

ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้รับแจ้งมีคนโดนมิจฉาชีพหลอกอยู่หน้าตู้เอทีเอ็ม ธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาตราด หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.เมืองตราด รุดไปตรวจสอบ


มาถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านยืนอยู่หน้าตู้เอทีเอ็มจำนวนมาก ที่หน้าตู้เอทีเอ็มช่องฝากเงินสด พบชายสูงวัย ยืนตัวสั่นเทากำลังฝากเงินสดอยู่ ซึ่งทราบชื่อว่านายไพฑูรย์ อายุ 66 ปี อดีตทหารบกฝ่ายสื่อสาร ซึ่งนายไพฑูรย์กำลังฝากเงินสดอยู่ ที่มือถือเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง โดยมีหญิงสาวและพลเมืองดีกำลังยืนห้ามนายไพฑูรย์กันอยู่ แต่นายไพฑูรย์ไม่ฟังยังหันมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวช่วยฝากเงินเข้าให้ด้วย แถมยังตะคอกเสียงดังด้วยว่า “หากผมไม่ฝากก่อน 3 ทุ่มผมตายแน่”


สอบถามหญิงสาวรายหนึ่ง เป็นเพื่อนบ้านบอกว่า ตนเป็นเพื่อนบ้านของนายไพฑูรย์ ช่วงเย็นที่ผ่านมา ก่อนจะมาที่ธนาคารตนทราบว่านายไพฑูรย์ กำลังจะเอาสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท ไปขายให้คนรู้จักคนหนึ่ง จนคนรู้จักคนนั้นโทรมาบอกตน ตนจึงมาหานายไพฑูรย์ที่บ้าน แต่นายไพฑูรย์ไม่อยู่ตนจึงออกตามหา


ระหว่างนั้นก็โทรศัพท์หา นางอำพา อายุ 62 ปี ภรรยาของนายไพฑูรย์ ก่อนจะมาพบว่านายไพฑูรย์กำลังยืนฝากเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็มดังกล่าว จนภายหลังทราบว่านายไพฑูรย์ถูกหลอกลงทุนให้โอนเงินไปแล้ว 100,000 บาท และกำลังจะหาเงินฝากเพิ่มอีก 200,000 บาท ตนจึงรีบห้ามนายไพฑูรย์ แต่นายไพฑูรย์ไม่ยอมฟัง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว และทราบภายหลังว่านายไพฑูรย์เอาสร้อยคอทองคำไปขายที่ร้านทองในห้างโลตัส สาขาตราด


ผู้สื่อข่าวได้ขอดูโทรศัพท์ของนายไพฑูรย์พบว่า เป็นแชตสนทนา กับไลน์บุคคลหนึ่งโดยใช้ชื่อว่าฝ่ายปฏิบัติการ AOC ซึ่งอ้างกับนายไพฑูรย์ว่าเป็นตำรวจ ให้ร่วมลงทุน ซึ่งนายไพฑูรย์ก็หลงเชื่อและโอนเงินไปฝากหลายครั้งรวมทั้งสิ้นกว่า 100,000 บาท และในแชตสนทนาบอกอีกว่าหากต้องการถอนเงินทั้งหมดต้องโอนเงินไปฝากเพิ่มอีกกว่า 200,000 บาท และต้องโอนก่อนเวลา 21.00 น. นายไพฑูรย์จึงพยายามฝากเงินดังกล่าว


หลังทราบข่าวภรรยาได้เดินทางมาที่หน้าธนาคารถึงกับเข้าไปโผกอดสามีและร้องไห้ออกมา บอกว่าเสียแล้วก็เสียไป แต่นายไพฑูรย์ยังดื้อ ยังคงพยายามจะฝากเงินเพิ่ม หวังจะเอาเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้คืนมา สุดท้ายนายไพฑูรย์ยอมเดินกลับไปที่รถและกลับบ้านไป ทางญาติบอกว่าพรุ่งนี้จะรวบรวมหลักฐานและเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองตราดต่อไป