“พันเอก” ร้อง รางรถไฟฟ้าสายสีชมพูหล่นใส่รถพัง ส่งศูนย์รถซ่อมยังถูกพนักงานยักยอกเงิน ศูนย์ไม่รับผิดชอบ

เมื่อเวลา 21.30 น. วานนี้ (23 ก.พ.67) ที่ร้านอาหาร ย่านสนามบินน้ำ อ.เมืองนนทบุรี นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก พ.อ.สมชาย (นามสมมุติ) ข้าราชการทหาร ว่าได้นำรถยนต์เข้าซ่อมที่ศูนย์รถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่าน อ.บางบัวทอง หลังรถได้รับความเสียหายจากรางรถไฟฟ้าสายสีชมพูหล่นใส่ ได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.66 เวลา 05.00 น.

จากนั้นได้นำรถเข้าศูนย์เพื่อซ่อมและได้จ่ายเงินค่าซ่อมเรียบร้อยกับพนักงานในศูนย์แล้วเมื่อวันที่ 18 ก.พ.67 โดยมีสลิปการโอนเงินเป็นหลักฐาน แต่ทางศูนย์รถยนต์ดังกล่าวแจ้งว่าไม่ได้รับเงินและได้ยึดรถยนต์ไว้ ซึ่งตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.บางบัวทอง

จากการสอบถาม พ.อ.สมชาย (นามสมมุติ) ข้าราชการทหาร ทราบว่า หล้งเกิดเหตุรางรถไฟฟ้าสายสีชมพูหล่นใส่ วันที่ 24 ธ.ค.66 ตนได้นำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์ดังกล่าว วันที่ 30 ธ.ค.66 แต่เนื่องจากติดวันหยุด จนกระทั้งวันที่ 13 ม.ค.67 ทางศูนย์ได้แจ้งรายละเอียดการซ่อมมาค่าใช้จ่ายรวม 71,905.07 บาท จึงได้มีการยืนยันกับทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูเรื่องราคาค่าซ่อม โดยมีกำหนดรับรถวันที่ 18 ก.พ.67 เมื่อตนเข้าไปที่ศูนย์รถยนต์ ได้พบกับพนักงานผู้หญิงชื่อน.ส.ศิริพร (นามสมมุติ) ได้ให้ตนชำระค่าซ่อมรถยนต์เป็นเงิน 71,906 บาท โดยสแกนผ่านป้าย QR โค้ตที่ตั้งอยู่ที่เคาท์เตอร์ของพนักงานหญิงคนดังกล่าว

พ.อ.สมชาย กล่าวว่า หลังจากตนโอนชำระค่าซ่อมเสร็จ ซึ่งตนมีสลิปเป็นหลักฐาน ตนจึงได้ไปตรวจสอบสภาพรถยนต์หลังการซ่อม พบว่าสภาพรถไม่เรียบร้อยหลายจุด จึงได้ให้ทางศูนย์เก็บงานซ่อมใหม่ และนัดรับรถกันอีกครั้งในวันที่ 22 ก.พ.67 ระหว่างที่รอวันนัดรับรถ วันที่ 19 ก.พ.67 ได้มีพนักงานของศูนย์รถยนต์โทรศัพท์มาแจ้งว่าเปลี่ยนพนักงานคนใหม่มาดูแลรถตน พร้อมทั้งขอรายละเอียดเอกสารทั้งหมดในการซ่อม

ซึ่งตนก็ส่งไปให้ดูทางไลน์ แต่พนักงานคนใหม่แจ้งว่าทางศูนย์ไม่ได้รับเงินค่าซ่อมรถยนต์ จึงจำเป็นที่ต้องยึดรถไว้ก่อน ไม่สามารถส่งมอบรถให้ตนได้ ซึ่งตนได้พยายามอธิบายว่าตนจ่ายเงินให้พนักงานที่กำลังทำงานในศูนย์รถยนต์ แต่พนักงานนำเงินไปทำอะไรไม่ใช่ความรับผิดชอบของตน จนกระทั้งวันที่ 22 ก.พ.67 ตนพยายามติดต่อศูนย์รถหลายครั้ง และขอคุยกับผู้จัดการศูนย์ แต่ไม่เคยได้คุยและไม่ยอมปล่อยให้รถตนออกมา

พ.อ.สมชาย กล่าวต่อว่า กลีงจากตนตรวจสอบสลิปพบว่าตนโอนเงินให้น.ส.ศิริพร จากนั้นได้มีการสอบถาม น.ส.ศิริพร พบว่ามีการโอนเงินต่อให้ น.ส.วิชุดา เพื่อนพนักงานด้วยกัน ซึ่งน.ส.ศิริพร บอกว่าตนแค่ขอให้เงินผ่านบัญชีเพื่อทำเนื่องกู้ซื้อบ้านจึงต้องแต่งบัญชี สำหรับเรื่องนี้ตนเดือดร้อนหลายอย่าง ต่องไปเช่ารถมาใช้ และก็ต้องหาเงินมาให้เขา 71,906 บาทหากต้องการเอารถออก ตนจึงมาร้องเพจกล้าที่จะก้าวให้ช่วยเหลือ

นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ กล่าวว่า ผู้เสียหายร้องมาที่เพจหลังรถได้รับความเสียหายรางรถไฟฟ้าสายสีชมพูหล่นลงมาทับ ที่ตลาดกรมชล ได้มีการนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์ ประเมินราคามา 71,906 บาท โดยโอนที่ศูนย์แต่รถไม่เรียบร้อย ต้องซ่อมใหม่ จนถึงวันรับรถทางศูนย์ไม่ยอมให้รถออกมา แต่ทางศูนย์ได้ยึดรถไว้เพราะว่าลูกค้ายังไม่จ่ายเงิน เพราะเงินที่ลูกค้าโอนไปเข้าไปในบัญชีพนักงานแทน ซึ่งกลังจากรับเรื่องตนจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป