สังคม

ฉาว! จับ ‘พระนักธรรมชั้นเอก’ เปิดกลุ่มลับค้าสื่อลามกเด็กชาย เก็บวิดีโอไว้ 7,000 คลิป

โดย JitrarutP

23 ก.พ. 2567

294 views

รวบคากุฏิ! ตำรวจไซเบอร์บุกจับ “พระนักธรรมชั้นเอก” เปิดกลุ่มลับในแอปฯ ค้ากามสื่อลามกเด็กเพศชาย สุดอึ้ง มีคลิปลับเก็บไว้ 78.2 GB วิดีโอเกือบ 7,000 ไฟล์

วันที่ 15 ก.พ.67 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าว CYBER GUARD OPERATION กรณี “ตำรวจไซเบอร์บุกกุฏิ รวบพระหนุ่มนักธรรมเอก เปิดกลุ่มลับค้าสื่อลามกเด็กชาย” สืบเนื่องจากด้วยกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท.  ได้รับแจ้งเบาะแสจาก  The Scientia Program (โปรแกรมซายเอนเทีย) ซึ่งเป็น NGO ที่ดำเนินการในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนผู้บังคับใช้กฎหมายของไทยในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก



จากเบาะแสดังกล่าวพบว่ามีการโฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับในแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อบัญชี “??'? ??♥” ได้โพสต์โฆษณาให้ผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกเข้ากลุ่มลับ มีข้อความลักษณะเชิญชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าดูวิดีโอคลิปเด็กมัธยมชายกระทำอนาจารในบริบทต่างๆ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ


ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. เร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นการกระทำผิดที่ส่งผลกระทบเด็กและเยาวชน โดยจากการตรวจสอบพบว่า มีเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ที่สามารถระบุตัวตนได้ปรากฏในคลิปจำนวน 5 ราย และยังมีที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้อีกเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าผู้จัดการบัญชี หรือ แอดมิน LINE คือ พระสงฆ์รูปหนึ่ง อายุ 23 ปี ปัจจุบันบวชอยู่ในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเข้าตรวจค้นเป้าหมาย


ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 21 ก.พ. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าตรวจค้นกุฏิภายในวัดแห่งหนึ่งใน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ พบพระสงฆ์แอดมินกลุ่มลับดังกล่าวข้างต้น เมื่อขอตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ พบภายในติดตั้ง แอปพลิเคชั่น LINE โดยลงชื่อเข้าใช้งานบัญชีที่ประกาศขายคลิปสื่อลามกอนาจารเด็กชาย(CSAM) ซึ่งเป็นผู้จัดการหรือแอดมินกลุ่มเองจำนวน 2 กลุ่ม และเป็นสมาชิกกลุ่มอื่น (CSAM) อีกกว่า 100 กลุ่ม รวมสมาชิกทั้งหมด 16,206 คน และพบสื่อลามกอนาจารเด็กเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ, Notebook(โน๊ตบุ๊ก),Flash Drive (แฟลชไดร์ฟ) และที่จัดเก็บจัดการไฟล์ออนไลน์ (MEGA) รวมจำนวน 78.2 GB ซึ่งมีคลิปวิดีโอ อีกเกือบ 7,000 ไฟล์



เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันแจ้งข้อหา ดังนี้

1. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

2. ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กและส่งต่อซึ่งส่งสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก

3. เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อลามกอนาจารเด็กดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สหัสขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ