สังคม

แม่ลูกสุดงง! บ้านยากจน จู่ๆ หนี้โผล่ 1.5 แสน บ้านกำลังโดนยึดทั้งที่ไม่เคยกู้ใคร

โดย JitrarutP

22 ก.พ. 2567

185 views

แม่-ลูก ชาวพัทลุง ร้องศูนย์ดำรงธรรม อยู่ดีๆ มีหมายศาลจะยึดบ้าน เหตุเจ้าหนี้ฟ้องไม่จ่ายหนี้ 150,000 บาท สุดงงเพราะไม่เคยกู้ใคร

นางบุญทา อายุ 54 และนางน้ำ อายุ 75 ปี ชาวบ้านอำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง เดินทางเข้าร้องเรียนต่อพี่ไสว รุยันต์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุง หลังถูกกรมบังคับคดี มาปิดหมายศาลบังคับคดีขายทอดตลาดบ้านที่ตัวเองอาศัยอยู่ โดยที่เจ้าตัวและแม่ งงว่าเรื่องอะไร จากนั้นผู้สื่อข่าวพาร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง

นางน้ำ ผู้เป็นแม่ บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นงงมาก ตนกับลูกไม่รู้เรื่องเลย จะไปยืมเงินเป็นแสนได้อย่างไร ขนาด 1,000 ยืมใครก็ไม่ได้ เพราะเราฐานะยากจน มีรายได้จากการรับจ้างทำงาน แค่วันละไม่เกิน 300 บาท แล้วจะไปยืมเงินใครได้

ขณะที่นางบุญทา ลูกสาวที่ถูกฟ้อง กล่าวว่า ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ปี 66 เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีมาที่บ้านปิดป้ายบ้านขายทอดตลาด ตนเองรู้สึกงง และตกใจมาก เพราะไม่เคยไปยืมหรือกู้เงินใครได้ถึงขนาดนั้น โดยเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีบอกว่า ถ้าอยากรู้ข้อมูลให้ไปคัดลอกข้อมูลจากศาล

ตอนนั้นตนเองก็ไม่รู้ว่าศาลตั้งอยู่ที่ไหน จึงขอให้ผู้ใหญ่บ้าน ไปเป็นเพื่อนเพื่อขอดูเอกสารที่ตนเองถูกโจทก์ฟ้อง จนรู้ว่าโจทก์อยู่กรุงเทพฯ ซึ่งคุณบุญทาก็ไม่เคยรู้จัก เมื่อตรวจดูเอกสารที่ถูกยื่นฟ้อง ปรากฏว่าลายเซ็นก็ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้อายุของผู้ถูกฟ้องกับคุณบุญทาก็ไม่ตรงกัน และการพิจารณาคดีคุณบุญทาก็ไม่เคยรับหมายศาลเลยแม้แต่ครั้งเดียว

คุณบุญทา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขณะที่จะสู้คดีก็ยังไม่มีเงินจ้างทนายให้ช่วยรื้อคดีใหม่ให้ โดยทนายขอ 10,000 บาท เพื่อรื้อคดีให้ แต่ตนพยายามหาเงินมาเกือบ 3 เดือน ยังไม่ได้เงินก้อนดังกล่าวให้ทนาย ตอนนี้จนปัญญาไม่รู้จะพึ่งใคร แม้แต่เงินที่จะเดินทางจากอำเภอเขาชัยสนมาที่ศูนย์ดำรงธรรม ยังมีเงินติดตัวแค่ 80 บาท จ่ายค่ารถตู้ไปเหลือเงินติดตัวแค่ 20 บาทเท่านั้น

ขณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุงระบุว่าเรื่องดังกล่าวหมดอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแนะนำให้ไปพบอัยการคุ้มครองสิทธิ์ ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพัทลุง โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอ เพราะต้องผ่านการประชุมของคณะกรรมการอีก 1 เดือน ทำให้ 2 แม่ลูกยิ่งกังวลขึ้นไปอีก เพราะหากเวลานานไปบ้านถูกขายทอดตลาดแน่นอน

ด้านนายวิโรจน์ เหตุทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 15 ตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน เล่าว่า ครอบครัวนางบุญทา มีฐานะยากจน น่าสงสาร ทำงานหาเช้ากินค่ำ รับจ้างทั่วไปได้เงินวันละ 200-300 ต่อวันเท่านั้น จากการสอบถามนางบุญทา ก็ยืนยันว่า ไม่ได้ยืมเงินก้อนดังกล่าว และจากการตรวจสอบหลักฐานที่ถูกฟ้องพบว่า มีข้อพิรุธหลายอย่าง ทั้งลายเซ็น ทั้งอายุ ทั้งบ้านเลขที่ไม่ตรงกัน

โดยการฟ้องเป็นการฟ้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในสัญญากู้ยืมเงิน นางบุญทา ได้กู้ยืมเงิน 3 ครั้ง จากนางสาวอำภา (สงวนนามสกุล) ครั้งแรก 60,000 บาท ครั้งที่ 2 เป็นเงิน 60,000 บาท และครั้งที่ 3 เป็นเงิน 30,000 บาท รวม 150,000 บาท เป็นการกู้ผ่านบัตรเครดิต เจ้าหนี้ได้มอบอำนาจให้ทนายฟ้องต่อศาลเมื่อปี 2563 มีหนังสือเอกสารเงินกู้เป็นหลักฐานที่ใช้อ้างต่อศาล

จากนั้นพี่ไสว ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อ ทนายพัช นางธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือทนายปากแดง ล่าสุดทนายพัชได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นน่าจะฟ้องผิดคน โดยพร้อมจะเดินทางมาช่วยคดีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้หากเป็นการดำเนินคดีผิดคนหรือยึดทรัพย์ผิดคนจริง ถือเป็นความประมาทเลินเล่อของทนายความ และจะเรียกค่าเสียหายให้กับผู้ถูกฟ้องด้วย



รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/0ATAoQNQaFE

คุณอาจสนใจ