เลือกตั้งและการเมือง

"นายกฯ" ชี้ ความขัดแย้งการเมืองบดบังศักยภาพไทย แต่ 6 เดือนของรัฐบาลนี้ ไทยเริ่มเห็นแสงสว่าง

โดย paranee_s

22 ก.พ. 2567

128 views

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” โดยมีคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง


โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความขัดแย้งปัญหาการเมือง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บดบังศักยภาพบดบังแสงสว่างของประเทศไทย ตั้งแต่ 6 เดือนที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศความสงบ ความสมัครสามัคคีความร่วมมือร่วมใจกันของพวกเราทุกคน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่เราจะเริ่มต้นให้ชาวโลกรู้ว่าแสงสว่างในประเทศไทยเกิดขึ้นแล้ว


นายกรัฐมตรี กล่าวว่า วันนี้ "IGNITE Thailand" กับศักยภาพ 8 ด้าน ที่จะสามารถทำให้ก้าวไปเป็นเบอร์ 1 ได้ ตนจึงขอเชิญชวนให้ทุกคนเริ่มจุดพลังให้ประเทศไทยเป็นที่หนึ่งในการท่องเที่ยว ประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่ได้ใหญ่มากเป็นอันดับที่ 50 ของโลก แต่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นอันดับ 8 ของโลก ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เลี้ยงคนไทย 1 ใน 3 ของประเทศ นำรายได้เข้าประเทศกว่า 2.3 ล้านล้านบาทและ จะโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างมโหฬารในอีก 4 ปีข้างหน้า เพราะการท่องเที่ยวคือจุดแข็งของประเทศไทย เรามีธรรมชาติ มีประวัติศาสตร์วัฒนธรรม รอยยิ้ม เป็น Land of Smile ซึ่งเป็นเรื่องที่คนพูดกันมาอย่างยาวนาน


ดังนั้น มาตรการท่องเที่ยวต่างๆ ของเรา จะถูกนำมาใช้เพื่อดึงศักยภาพการท่องเที่ยวของประเทศไทยกลับมา ให้ไปถึงจุดที่เราควรจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับเมืองรอง ประเทศไทยไม่ได้มีแค่เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หัวหิน เรายังมีหนองบัวลำภู มุกดาหาร ระนอง นครศรีธรรมราช และแต่ละจังหวัดมีจุดแข็งต่างกันไป ที่ต้องการการใส่ใจ ไม่ใช่แค่ใส่เงินอย่างเดียว


การที่เราจะสามารถยกระดับเมืองรองเหล่านี้ ให้เป็นที่ดึงดูดคนเข้ามาในประเทศ อย่างจังหวัดน่าน เมื่อเปรียบเทียบกับหลวงพระบาง สสป.ลาว ที่เป็นเมืองมรดกโลก ก็มีการพูดกันว่าควรจะเป็นเมืองคู่แฝด แต่ระยะการเดินทางทางบกใช้เวลานาน มีสนามบิน แต่ก็ไม่มีไฟท์บิน และไม่มี ตม.ที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ


ดังนั้น ในอนาคตเราจะร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมทำให้จังหวัดน่านเป็นเมืองมรดกโลก ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการเฟ้นหา Soft Power ก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นนโยบายหลัก ของรัฐบาลนี้ เช่น มวยไทยเป็นอะไรที่สามารถผลักดันได้ง่ายมาก เพราะมวยไทยเป็นการใช้ทับศัพท์มีคำว่าไทยอยู่ และเราจะต้องเชิญชวนให้นักท่องเที่ยว มาเที่ยวเมืองไทยด้วยการจัดคอนเสิร์ต ที่ผลักดันโดยรัฐบาล และเชิญศิลปินที่ดังระดับโลกมา เช่น สิงคโปร์ ที่เชิญ Taylor Swift มา และต้องให้ประเทศไทยเป็นเมืองไม่หลับไหล


นอกจากนี้ และควรแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว เช่นเรื่องเปิด-ปิดสถานบริการ หรือ เวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเราเป็นประเทศอินเตอร์ต้องยอมรับให้ได้ในส่วนนี้ ให้สอดคล้องกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนไป


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าต่อว่า ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมที่สุดใน CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม จึงมีการคุยกันในอาเซียนให้ไทยเป็นเจ้าภาพ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา ด้วยการยกระดับฟรีวีซ่า และพร้อมที่จะเป็นโฮมสเตย์ให้กับชาวโลก เพราะเรามีศักยภาพสูง


ขณะเดียวกันไทยก็เป็นเลิศทางการแพทย์ ใครจะคิดว่าอย่าง เคนยา และซาอุดิอาระเบีย มีตลาด Wellness ที่อยากเข้ามาในประเทศไทย แต่ยังติดขัดบางเรื่อง เช่น ประกัน แต่รัฐบาลนี้จะผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้ ให้ไทยเป็น wellness Center ขณะเดียวกัน มีการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น 30 บาทรักษาทุกที่ ตอนนี้หลายจังหวัดนำล่องไปแล้ว แต่ภายในสิ้นปีนี้จะใช้ได้ทั่วประเทศ


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่อด้วยว่า เราจะยกระดับให้ไทยเป็นครัวโลก เมื่อก่อนเราใช้คำว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว ตนขอใช้เพิ่มอีกคำนึงในกระเป๋ามีตังค์ด้วย


ส่วนการเพิ่มศักยภาพการค้าเนื้อวัว ต้องมีการดูในเรื่องนี้ พร้อมยกตัวอย่างว่าหากส่งขายเป็นตัวราคาจะน้อยกว่าการชำแหละเป็นชิ้นส่วน พร้อมตั้งเป้าว่าจะต้องขยายตลาดสินค้าฮาลาลให้เพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี ฉะนั้นการที่ลงจะลงพื้นที่ภาคใต้สัปดาห์หน้า อยากให้นำศักยภาพตรงนี้ออกมาเพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋าประชาชนภาคใต้ พร้อมย้ำว่าไม่ต้องพูดเรื่องความไม่สงบหรือความขัดแย้ง


พร้อมบอกว่าที่ผ่านมาไทยมีความสัมพันธ์ดีกับทางมาเลเซีย จึงไม่ต้องห่วงเรื่องตลาดสินค้าฮาลาล พร้อมตั้งเป้าว่าจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านอาหาร สิ่งที่สำคัญคือการบริหารจัดการน้ำ หากประเทศไทยไม่ท่วมไม่แล้ง ประเทศไทยจะไปได้ไกลขนาดไหน ในอนาคตจะมีการขยายแหล่งชลประทานเป็น 40 ล้านไร่ เพื่อบริหารจัดการน้ำท่วมน้ำแล้ง ควบคู่กับการดูแลพืชผลทางการเกษตร และรัฐบาลนี้จะให้ความสำคัญเรื่องความแม่นยำการทำการเกษตร


ขณะที่จุดแข็งทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทย ไม่เป็นรองใคร มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางคมนาคมและการขนส่ง เหมาะที่จะเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ดังนั้น ภายใน 4 ปีจะพยายามผลักดันให้ไทย เป็น "HUB CASE STUDY" คือ 1. ให้สายการบินมาใช้เป็นพื้นที่เปลี่ยนเส้นทางเพื่อต่อเครื่อง 2. พัฒนาระบบขนส่ง เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าเย็นอย่างครบวงจร และ 3 เป็นศูนย์กลางการบินและศูนย์ซ่อมบำรุง


นายกฯ ยังกล่าวถึงการขยายรันเวย์สนามบินดอนเมือง เพื่อรองรับเที่ยวบิน ว่า ตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งทราบว่าเราจะมีการยกระดับสนามบินขึ้น ทาง ผบ.ทอ. ก็เข้าใจนโยบายจึงอยากช่วยผลักดันเส้นทางใหม่ๆ และยินดีที่จะมอบสนามกอล์ฟคืนกับรัฐบาลเพื่อได้พื้นที่มากขึ้น ซึ่งจะพัฒนาดอนเมืองให้เป็นสนามบินที่ดีขึ้น ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยระหว่างหน่วยงานรัฐ ทำให้เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคีที่รัฐบาลนี้พยายามทำให้เกิดขึ้น สนามบินของกองทัพอากาศ ก็สามารถใช้ได้กับสนามบินพาณิชย์ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันจัดตารางการบินใหม่ เพื่อให้ตารางการบินของไทยเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน


นอกจากนี้ เรื่องการขยายระบบคมนาคม จะมีการเพิ่มถนนหนทางมอเตอร์เวย์อีก รวมถึงการเพิ่มท่าเรือน้ำลึก เพื่อส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น พร้อมยืนยันว่าประเทศไทย เป็นประเทศแรกๆ ที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจอยากเข้ามาลงทุนอย่างมากเพื่อเป็นแหล่งส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ


ดังนั้นโครงการแลนด์บริดจ์ที่จะเชื่อมต่อระหว่างทะเลอันดามันและไทย เพื่อลดเวลาและค่าขนส่งสินค้า ซึ่งนักลงทุนก็ให้ความสนใจ จะต้องเริ่มมีการพูดคุย แต่ประชาชนจะต้องยอมรับ จึงจำเป็นต้องพูดคุยและสนทนากันและต้องยอมรับความคิดเห็น


นอกจากนี้ก็จะต้องมีการแก้ไขปัญหาระหว่างการขนส่ง หากมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะต้องมีการลดการติดขัดเรื่องปัญหาด่านศุลกากร ที่เป็นหนึ่งในอุปสรรคเรื่องการขนส่ง พร้อมกับย้ำว่าการลงทุนโครงสร้างขั้นพื้นฐานจะต้องใส่ใจ ไม่ใช่เพียงใส่งบฯเท่านั้น พร้อมตั้งเป้าว่าตนจะเดินสายจีบบริษัทแนวหน้าการผลิตยานยนต์ยักษ์ใหญ่ในหลายๆ ประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางการผลิตยานยนต์รายใหญ่ให้ได้ โดยจะทำไปพร้อมกับการพัฒนานักพัฒนาเซิร์ฟเวอร์


ในช่วงหนึ่ง นายกฯ ระบุว่า แต่เหนือสิ่งใด เราต้องมีความทะเยอทะยานให้มากกว่านี้ เพราะศักยภาพของตลาดไทยไปได้ไกลมากกว่านี้ หากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นเราต้องมีความความทะเยอทะยานและใช้ตลาดไทยที่แข็งแกร่งออกไปหาลูกค้าเพิ่มขึ้น ดังนั้นการพัฒนาเศรษฐกิจต้องพัฒนาควบคู่กับสังคม


ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จนมุ่งให้ไทยเป็นจุดศูนย์กลางทางด้านการเงิน โดยตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยมีมูลค่ามหาศาล แต่มีปัญหาเรื่องธรรมมาภิบาล ก็ต้องแก้ไขกันไป แต่ต้องมีความพยายามให้มากกว่านี้ เนื่องจากศักยภาพของไทยไปได้ไกลกว่านี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ