สังคม

"บิ๊กเต่า" ยืนยันมีหลักฐานพยานที่เชื่อมโยงคดีเว็บพนันออนไลน์ "มินนี่" รอป.ป.ช.ส่งสำนวนกลับมา

โดย gamonthip_s

21 ก.พ. 2567

370 views

วันนี้ (21 ก.พ 67 ) ที่ อาคารพิทักษ์สันติ ชั้น 27 สำนักงาน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึง คดีมินนี่เว็บพนันออนไลน์ว่า คณะกรรมการ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งตน ในการสืบสวนคดีมินนี่ และเป็นรองหัวหน้าพนักงานสอบสวน โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้เกี่ยวกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เปิดเผยว่า ส่วนคดีมินนี่แยกได้เป็น 2 ส่วน แยกเป็นเจ้าหน้าที่ และประชาชนที่ดำเนินการในส่วนของ ศาลทุจริต 14 คน และดำเนินคดีศาลอาญา 47 คน รวมทั้งหมด 61 คน ส่วนคดีหลักจากการสืบสวนได้พบผู้ต้องหาเพิ่มอีก 5 ราย ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องอีก 5 ราย ทั้งข้าราชการ และนอกข้าราชการ และคดีที่ 2 ได้ส่งไปที่ป.ป.ช. เพื่อให้ป.ป.ช.พิจารณาส่งกลับหรือไม่กลับ แต่ในเนื้อหาขอความร่วมมือเพราะเป็นเหตุที่เกี่ยวพันกับคดีแรก คดีหลัก 61 คน ส่วนคดีรองเป็นผู้ต้องหาจากคดีแรก 5 คน


ส่วนสอบถามไปว่าในคดีรอง มีบิ๊กโจ๊กเข้าไปเป็นคนใน 5 นั้นหรือไม่ บิ๊กเต่าบอกว่าตามที่เป็นข่าว และ ส่วนของสำนวนคดีที่ 2 ที่ป.ป.ช. ทางตำรวจเห็นว่าเอามาดำเนินการเองด้วยเหตุผล การดำเนินคดีเป็นสำนวนหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 คน ส่วนจำนวนรองก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 คนที่พบตรงนี้ถ้าเราสามารถเอากลับมาดำเนินคดีได้ จะทำให้เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวนในการดำเนินคดีเพราะถ้าไม่มา การสั่งหรือการชี้แจงเหตุผลจะต่างกัน เพราะถ้าเป็นเนื้อเดียวกันเราทำหนังสือขอไปแล้วว่าต้องการที่จะสอบสวนเพิ่มเติม มีหลักฐานพยานเพิ่มเติมในตรงนี้ จึงจะขอกลับมา ทางป.ป.ช. ยังไม่ส่งกลับ และยังไม่มีการพิจารณา


ซึ่งทางบิ๊กโจ๊กถูกแจ้งดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาเป็นเพียงผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ คดีแรกแล้วก็มาร้องทุกข์กล่าวโทษคดีที่ 2 ส่วนผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้อหา  157 /149 จะโดนการฟอกเงินทั้งหมด และถ้าส่งสำนวนกลับมาก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา และในส่วนขั้นตอนของป.ป.ช.ที่บอกว่าจะทำเองยังอยู่ในการพิจารณาอยู่ เพราะข้อมูลยังไม่ชัวร์


ในด้านของเกมการเมืองภายในพล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่การจับเว็บพนันมินนี่ โดยพบเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเกี่ยวข้อง พอตนไปพบข้าราชการตำรวจที่ไปเกี่ยวข้องทั้งเรื่องเงินที่ประมาณ 200-300 ล้าน ตนจึงปล่อยผ่านไม่ได้เพราะทำให้เสียชื่อเสียงตำรวจ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่ชัดเจน โดยมีการขอรายการเดินบัญชีธนาคาร มีการระบุเงิน ไปจนถึงกลุ่มบุคคลที่ได้รับเงินจากบัญชีม้าเส้นทางการเงินที่ไหลจากบัญชีม้าไหลลงไปเกือบถึงทุกคน บางคนเป็นญาติ ใช้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวในชีวิตประจำวัน เงินส่วนใหญ่ใน 300 ล้าน เกินครึ่งไหลไปสู่ตัวใหญ่ โดยเงินส่วนนี้จ่ายมาจากบัญชีม้าที่รับมาจากเว็บพนันมินนี่ และเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในหลาย ๆ เว็บจะรวมเป็นก้อน และไปสู่ข้างบน ยอดรวมจากบัญชีม้า 4-5 บัญชี นอกจากนี้ไม่ว่าจะคนขับรถบัญชีม้าหรือตำรวจ ก็จะโดนคดีฟอกเงินทั้งสิ้น


เบื้องต้นในความเห็นต่างของคดีเว็บพนันมินนี่ทางป.ป.ช.หรือตำรวจ ว่าหน่วยงานไหนจะทำคดี ขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่าใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ทางตนอยากได้คดีมาทำ อยากได้สำนวนคดี โดยถ้าหากส่งมาหน่วยงานตำรวจก็จะสอบสวนเพียงฝ่ายเดียว โดยจะสรุปเรื่องนี้ และจบให้ไวเพราะไม่อยากให้สำนักงานตำรวจเสื่อมเสีย ซึ่งทางป.ป.ช.ก็ต้องเป็นคนที่พิจารณาถ้าหากไม่ให้ทางเราก็ไม่สามารถบังคับอะไรได้ โดยการทำงานนั้นเป็นอิสระต่อกัน การสอบสวนคดีนี้ไม่ต้องกลัวว่าเราจะกลั่นแกล้งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง ๆ ถ้าเราไม่ทำเรื่องให้กระจ่าง เรื่องนี้ก็จะไปเดือดร้อนถึงประชาชน ตนยืนอยู่บนพยานและหลักฐาน มีเพียงศาลเท่านั้นที่เป็นคนตัดสิน หากฟ้องมาก็ไม่กลัว ตนเชื่อว่าศาลมีความยุติธรรม


นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า การกำจัดตำรวจสีดำนั้นเป็นสิ่งที่ดี ถึงแม้จะเป็นร้อยเป็นพัน ยืนยันชุดสอบสวนทุกคนยังมีกำลังใจที่ดี และต้องการทำคดีนี้เพื่อเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ยังได้คุยเรื่องที่ถูกฟ้อง ทางตนไม่กลัว โดยกล่าวว่าการสอบสวนสืบสวนนั้นไม่ได้มีการบิดเบือนข้อมูลใด ๆ และในเคสเตาปูน ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเคสนี้ และในส่วนของวินัยร้ายแรง จากการพิจารณาจากพยานหลักฐานถือเป็นการผิดวินัยร้ายแรง โดยตำรวจแห่งชาติก็กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง



และในการทำงานของตำรวจนั้นอยู่บนความเสี่ยงเสมอเพื่อความสำเร็จ ซึ่งก็จะมีการทำงานของกลุ่มคนบางคน ที่เป็นการทำงานเพื่อหวังผลเกินไป การทำงานสืบสวนคือการแสวงหาหลักฐานไม่ใช่การตั้งตุ๊กตา เพื่อหาเหตุผลมาดำเนินคดีกับตุ๊กตา ตอนนี้ตำรวจจึงไม่ค่อยอยากทำงานเพราะถ้าหากเกิดความผิดพลาดก็มีตำรวจอีกกลุ่มไปรื้อไปดำเนินคดีต่อ กว่าการสืบสวนจะสำเร็จ ตำรวจย่อมมีความเสี่ยงทุกคดี แต่นั้นก็คือผลสัมฤทธิ์ของประชาชนทุกคน ถ้าหากข้างบนยังเป็นแบบนี้ ตำรวจทั่วประเทศคงไม่อยากทำงานเพราะกลัวพลาด

คุณอาจสนใจ

Related News