สังคม

“เศรษฐา” สั่งกรมอุทยาน-ส.ป.ก. ทำ MOU ร่วมกันทำงาน ส่วนก.เกษตร ประกาศยกเลิกแบ่งที่ดินเขตกันชน

โดย gamonthip_s

21 ก.พ. 2567

235 views

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ พร้อมด้วยนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และพลโท ชาคร บุญภักดี เจ้ากรมแผนที่ทหาร ร่วมกันแถลงข่าวหลังหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีบนตึกไทยคู่ฟ้า ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงปัญหาเรื่องที่ดินส.ป.ก. ที่การปักหมุดทับซ้อนกับพื้นที่กรมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ทำให้เกิดปัญหาระหว่างสองกระทรวงหลักคือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงเกษตร และสหกรณ์


โดยร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับให้ กรมแผนที่ทหาร เดินหน้าในการจัดทำแนวเขตพื้นที่ของรัฐหรือ วันแม็พ ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 3 สัปดาห์ในการพิสูจน์พื้นที่ดังกล่าว และจากนี้จะมีข้อตกลงระหว่างสำนักงานปฏิรูปที่ดินและกรมอุทยาน หากพิสูจน์ออกมาแล้วว่าเป็นพื้นที่ของเขตปฏิรูปที่ดิน แต่เมื่อข้อพิพากษ์เกิดขึ้นเพราะเป็นพื้นที่ติดกันหรือแนวกันชน ตนเองจะดำเนินการออกนโยบายจะไม่จัดพื้นที่ส่วนแนวกันชนให้เกษตรกรทำกินอย่างเด็ดขาด โดยเบื้องต้นได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้แล้ว


ส่วนพื้นที่ที่มีปัญหา ตนเองได้มอบนโยบายให้ เลขาสปก. ยกเลิกทุกแปลง ที่รังวัด และออกเอกสารสิทธิ์ประเภท 4-01 ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรตัวจริงหรือไม่ ก็จะตั้งคณะกรรมการตรวจรับข้อเท็จจริง หากมีมูลจะตั้งคณะกรรมการดำเนินความผิดทางวินัยร้ายแรง และดำเนินคดีอาญา


ส่วนแนวทางในการทำงานในอนาคตจะบันทึกข้อตกลง MOU ระหว่างสองหน่วยงาน คือ สำนักงานปฏิรูปที่ดินและกรมอุทยาน ว่าการกระทำการใดใดในพื้นที่จะจัดสรรเกษตรกรต้องมีคณะกรรมการอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งต่อไป จะมอบให้กับคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด เพราะประกอบกับหน่วยงานทุกหน่วยงานอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสปก. กรมอุทยาน กรมป่าไม้ กรมธนารักษ์ และหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ของรัฐ รวม 9 หน่วย ต้องเป็นคณะกรรมการทั้งหมด เพื่อให้เกิดความโปร่งใส



นายจตุพรกล่าวว่า พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เน้นย้ำ โดยให้ยึดหลักของกฎหมายก่อน แล้วนำข้อเท็จจริง และหลักวิทยาศาสตร์ของกรมแผนที่ทหารมาดู ซึ่งการดำเนินการหลังจากนี้ ก็เป็นไปตามที่ร้อยเอกธรรมนัสได้แถลงไว้ก็คือจะมีคณะกรรมการเข้ามากำกับดูแลพื้นที่แต่ละแห่งที่จะมีการสำรวจเพื่อออก ส.ป.ก. แต่ขณะเดียวกันกรมอุทยาน ก็ได้มีการสำรวจทั้งหมดในแนวเขตที่ได้มีการออกส.ป.ก. โดยจะมีการหารือร่วมกับเลขาฯ ส.ป.ก. ว่าส่วนใหญ่มีปัญหา ซึ่งจากนี้ต้องรอประกาศจากส.ป.ก. ที่จะมีการกำหนดกฎกติกามารยาทในการดำเนินการต่อไป พร้อมย้ำว่ากระทรวงทรัพย์เรายืนในหลักกฏหมายข้อเท็จจริง และหลักวิทยาศาสตร์


ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่อยากจะโทษรัฐบาลที่แล้ว แต่เริ่มรางวัดตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตนกำลังจะแก้ปัญหาคือต้องทำความสะอาดบ้านของผมให้เรียบร้อย ในขณะที่เรากำลังจะทำประโยชน์ให้พี่น้องเกษตรกรก็เกิดปัญหาแบบนี้ เป็นปัญหาที่กระทรวงเกษตรฯต้องแก้ไขในส่วนของสำนักงานปฏิรูปที่ดิน


ขณะเดียวกันการทำงานของรัฐบาลที่รัฐมนตรีมาจากกระทรวงเดียวกันไม่อยากให้เข้าใจว่าเป็นประเด็นการเมือง แต่มาจากความผิดพลาดที่ไม่ได้คุยกัน ซึ่งจากนี้ปลัดทั้ง 2 กระทรวงต้องคุยกันซึ่งเป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้มอบไว้ ปัญหาที่มีต้องแก้ำขร่วมกัน อีกทั้งเราก็มีกรรมการกลางคือกรมแผนที่ที่จะเข้ามาร่วมแก้ปัญหาเรื่องนี้


เมื่อถามว่าพื้นที่ที่มีปัญหามีจำนวนเท่าไหร่ ร้อยเอกธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ต้องเร่งแก้ปัญหาที่เป็นปัญหาทางสังคมก่อน ในห้าแปลงที่พี่น้องประชาชนเข้าไปทำกิน ซึ่งตนได้สั่งการให้ตรวจสอบความถูกต้อง สำคัญที่สุดต้องมีจิตสำนึกว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่า เข้าไปจัดที่ดินทำกินได้อย่างไร ซึ่งตนก็ไม่เห็นด้วยแต่เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่อุทยานที่มาชี้แจงที่โคราช และจากการลงพื้นที่ตนก็ได้เห็นสภาพความเป็นจริง เนื่องจากพี่น้องประชาชนไม่ได้เข้าไปทำกินมานานสภาพกลายเป็นป่า จิตสำนึกจึงไม่ควรจัดให้กับเกษตรกร ตนจึงจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนแน่นอน หากมีมูลความผิดจะดำเนินคดีอาญา


เมื่อถามถึงกรณีที่เกษตรกรเข้าทำกินมาแล้วต้องทำอย่างไร ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า หากเป็นพื้นที่ทำการเกษตรอยู่แล้วต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไป กรมอุทยาน และ ส.ป.ก. ต้องนั่งคุยกันและตนมีนโยบายอยู่แล้วว่าไม่ควรจัดพื้นที่ที่เป็นแนวกันชน เพราะอย่างน้อยเราก็จะได้ช่วยกันอนุรักษ์พื้นที่ป่าไว้ สำหรับพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทตนได้ปรึกษาหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว และปลัดกระทรวงทรัพย์ฯแล้วว่า หากเป็นพื้นที่ส.ป.ก. จะทำเป็นพื้นที่ป่าชุมชนเพื่อรักษาป่า



เมื่อถามถึงกรณีที่มีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. จำนวน 7 ราย เลขาฯ ส.ป.ก. กล่าวว่า การดำเนินการเป็นไปตามระเบียบราชการอยู่แล้ว กรณีมีความโปร่งใสในการทำงาน เราต้องตั้งคณะกรรมการในการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งข้าราชการรายใดที่อยู่ในข่ายที่จะต้องถูกสอบ ก็จำเป็นจะต้องย้ายออกจากหน้าที่ตนเอง เพื่อให้การสอบสวน มีความโปร่งใส เพื่อแสดงให้สังคมเห็นว่าไม่ได้มีการเอื้อกันและมีปัญหาเรื่องการทำลายเอกสารราชการ ซึ่งเป็นนโยบายนายกรัฐมนตรีที่เน้นย้ำเรื่องความโปร่งใส ตนจึงจำเป็นต้องสั่งให้เจ้าหน้าที่ทั้ง7 ราย ย้ายมาทำงานในกรมเพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างยุติธรรม



ต่อมานายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ระบุว่า จากกรณีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณเขาใหญ่ ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนเพราะกระทบต่อพี่น้องประชาชนหลายภาคส่วน ผมจึงเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมอุทยาน เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และเจ้ากรมแผนที่ทหาร มาพูดคุยเพื่อมาหาทางออกร่วมกัน โดยในเบื้องต้นหน่วยงานทหารจะเข้าไปสำรวจแผนที่ที่เป็นมาตรฐานของรัฐแผนที่เดียว เพื่อให้ยุติข้อพิพาทก่อน ซึ่งจะใช้เวลาสำรวจประมาณ 3 สัปดาห์ ส่วนกรมอุทยาน และเลขาธิการ ส.ป.ก. จะทำบันทึกข้อตกลง ให้มีความร่วมมือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับที่ดินของรัฐทุกประเภทในการเข้าทำการสำรวจพื้นที่พิพาทร่วมกัน


ด้านกระทรวงเกษตรฯ จะประกาศยกเลิกไม่ให้มีการแบ่งที่ดินในแนวเขตกันชน (พื้นที่คาบเกี่ยว) ระหว่างกรมอุทยาน และส.ป.ก. เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาวครับ”

คุณอาจสนใจ

Related News