อัยการสูงสุดยัน ‘ทักษิณ’ ป่วยวิกฤต นัด 10 เม.ย.ชี้คดี 112 - 'ภูมิธรรม' ซัดคนวิจารณ์ป่วยทิพย์ หัดเห็นใจคนอื่นบ้าง

อัยการสูงสุด แถลง กรณีทักษิณ  ชี้ ป่วยหนักขั้นวิกฤติ เสียงไม่มีเดินไม่ไหว ให้ประกัน 5 แสนไร้เงื่อนไข - ด้านภูมิธรรมซัด คนวิจารณ์ป่วยทิพย์ หัดใจกว้า เห็นใจคนอื่นบ้าง  ยันอดีตนายกฯป่วยจริง เอ็นหัวไหล่ขาด 

เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.67)  ที่ห้องประชุม 100 ปี  ชั้น 4 สำนักงานอัยการสูงสุด  นายปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการ  สำนักงานคดีอาญา พร้อมด้วยนายประยุทธ เพรชคุณ (เพ็ด ชะ ระ คุน) รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด  นายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกฯ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกฯ / และนายวิพุธ บุญประสาท อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8  ร่วมกันแถลงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้กล่าวหาในคดี ม.112

นายประยุทธ กล่าวว่า วานนี้ (19 ก.พ.67)  เวลาประมาณ 8.30 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ได้นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาส่งให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา โดยมีนายปรีชา สุขสงวน อธิบดีอัยการ และนายวิพุธ บุญประสาท อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นผู้รับตัวจากพนักงานสอบสวน ปอท.

โดยคดีนี้ นายทักษิณได้ร้องขอความเป็นธรรม ผ่านพนักงานสอบสวนตั้งแต่วันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ขณะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาที่โรงพยาบาลตำรวจ  ล่าสุด อัยการได้พิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมแล้วเห็นว่าคดีมีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม ตามหนังสือที่ร้องขอความเป็นธรรม จึงมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม และนัดให้มาฟังคำสั่งทางคดีในวันที่ 10 เมษายนนี้ เวลา 9 โมง ที่สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 8 อัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก

นายประยุทธ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  นายทักษิณ ได้รับการปล่อยตัวจากกรมราชทัณฑ์ ในคดีอาญาเรื่องอื่น  เนื่องจากได้รับการพักการลงโทษ  ทางพนักงานสอบสวน ปอท. ได้ไปรับตัวนายทักษิณ ตามหนังสืออายัดตัวของพนักงานสอบสวนลงวันที่ 28 สิงหาคม 2566 และเมื่อรับตัวมาแล้วพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราวไปในวันเดียวกัน

ส่วนหลักประกันที่นายทักษิณใช้ในการประกันตัว เป็นหลักทรัพย์ในสมุดบัญชีที่ได้รับการรับรองจากธนาคารมีเงินจำนวน 500,000 บาท  ซึ่งทางอัยการจะอายัดบัญชีดังกล่าวไว้   เมื่อถามว่ามีเงื่อนไขในการปล่อยตัวหรือไม่  นายปรีชาบอกว่า สำหรับอัยการไม่มีเงื่อนไข แต่เงื่อนไขที่กรมคุมประพฤติกำหนดนั้น ตนไม่สามารถตอบได้ว่านายทักษิณจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรระหว่างพักโทษ

นายปรีชา ยังเล่าถึงบรรยากาศขณะที่รับตัวนายทักษิณ  ว่า หลังจากที่ตำรวจนำตัวมาส่ง  ตนได้พูดคุยกับนายทักษิณ  ซึ่งจากสภาพที่เห็น  มองว่านายทักษิณมีอาการป่วยขั้นวิกฤต เพราะต้องนั่งรถวีลแชร์มา เดินไม่ไหว และพูดไม่ค่อยมีเสียง  ดูท่าทางมีการป่วยหนัก และมีการสวมที่ดามคอมา  และนายทักษิณเดินทางมากับคนสนิท ไม่ได้มากับนางสาวแพทองธาร  ส่วนนายประกันนั้นก็ไม่ใช่ลูกสาว แต่จะเป็นใครนั้น นายปรีชาตอบว่า ไม่ทราบ รู้แค่ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นนายประกัน และขั้นตอนการเซ็น รายงานตัว และเข้าพบอัยการ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก่อนที่นายทักษิณจะกลับ

ส่วนการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 10 เม.ย.นี้  นายปรีชา ระบุว่า เป็นการนัดฟังคำสั่งทางคดีว่าจะมีคำสั่งอย่างไร จะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง หรือเลื่อนนัด ซึ่งจะต้องแจ้งให้ตัวนายทักษิณทราบในวันนั้น   โดยนายประยุทธ์ ได้กล่าวเสริมในประเด็นดังกล่าวว่า สำนวนเดิมที่มีคำสั่งเห็นควรสั่งฟ้อง เป็นคำสั่งแรกตั้งแต่นายทักษิณยังไม่กลับเข้าประเทศไทย แต่เมื่อนายทักษิณ กลับเข้าประเทศไทยและมีการแจ้งข้อกล่าวหากันไปแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.67 รวมถึงมีการส่งหนังสือร้องขอความเป็นธรรม  ทำให้ทางคณะพนักงานสอบสวนได้มีการสอบสวนสำนวนใหม่ จึงทำให้วันที่ 10 เมษายนนี้ ตัวนายทักษิณจะต้องมารับฟังคำสั่งด้วยตนเอง ว่าทางอัยการจะเห็นสมควรสั่งฟ้องทางคดีหรือไม่ โดยคำสั่งจะแบ่งออกเป็น 3 แนวทาง คือ

1.สั่งฟ้อง  หากอัยการมีคำสั่งฟ้อง จะต้องนำตัวนายทักษิณเข้าสู่กระบวนการศาลทันที

2.ไม่สั่งฟ้อง  หากมีคำสั่งไม่ฟ้อง จะถือว่าสิ้นสุดในชั้นอัยการ ไม่ต้องส่งสำนวนไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้พิจารณาเหมือนกับคดีอื่นๆ  เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักรที่อัยการสูงสุดมีอำนาจสอบสวนและพิจารณาเด็ดขาด  

3.เลื่อนนัดฟังคำสั่ง ถ้าหากสำนวนที่สอบเพิ่มเติมนั้นยังไม่ครบถ้วน  

ส่วนในหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่นายทักษิณร้องมา  มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง นายประยุทธ์ไม่สามารถตอบได้

ส่วนการตั้งข้อสงสัยจากสังคม ว่ามีการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกทางด้านคดีให้กับนายทักษิณหรือไม่นั้น  นายประยุทธ์ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า  คดีนี้อำนาจเด็ดขาดอยู่ที่อัยการสูงสุด  จึงขอให้ไปดูประวัติการทำงานของอัยการ ว่ามีการทำงานไปในทิศทางใดและขอให้สังคมมั่นใจในกระบวนการพิจารณาของอัยการ แม้ว่าคดีดังกล่าวจะมีผู้ต้องหาเป็นบุคคลสำคัญที่สังคมให้ความสนใจ

-----------------------------------

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรม หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับพักโทษจะมีผลอะไรกับรัฐบาลหรือไม่  นายภูมิธรรม ระบุว่า เขายังมองย้อนอดีตมากไป ตนคิดว่าระบบยุติธรรมปัจจุบันนี้ได้ดำรงอยู่ และเราพยายามจะแก้ไขปรับปรุง ทั้งกระบวนการนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ  ต้องมองให้กว้าง อย่าไปยึดติดกับเคสใดเคสหนึ่ง ไม่งั้นเป็นปัญหาที่ติดจมอยู่  จึงอยากให้พิจารณากันให้ถ่องแท้จริงๆ ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความเป็นจริงที่เป็นปัญหา หรือเกิดจากอคติ

ถามว่าตนอยากไปเยี่ยมหรือไม่  ก็อยากไปเยี่ยม เพราะท่านเป็นคนที่เรารักเคารพ ซึ่งตนก็ได้โพสต์เฟซบุ๊คไปถึงความรู้สึกแบบนั้น ท่านมาด้วยพลังแห่งความรักของคนที่ยังรักและเคารพท่าน  มาจากพลังรักของครอบครัวที่มีอยู่  เพราะฉะนั้นเวลานี้เป็นเวลาที่พบกับครอบครัว ใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน คงต้องปล่อยให้เป็นเวลาที่ท่านใช้กับครอบครัวให้มาก หลังจากที่หายไปถึง 17 ปีไม่เคยเจอลูกหลานในบ้านของตัวเอง ครอบครัวก็คงมีความรู้สึกที่ดี เราก็คงเหมือนกัน มีความรู้สึกกับคนที่รักเคารพ ถ้ามีเวลาที่เหมาะสมเป็นไปได้ก็อยากไปเยี่ยม ก็จะเข้าไปเยี่ยมเหมือนกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการกลับมาของนายทักษิณ จะทำให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็งขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเข้มแข็งอยู่แล้ว บนฐานที่ทำงานดูแลเอาใจใส่พี่น้องประชาชน  ดังนั้นที่พรรคเพื่อไทยบอกมาตลอดว่า เราแข่งกับตัวเอง ความเข้มแข็งหรือไม่เข้มแข็ง ของพรรคเพื่อไทยไม่ได้อยู่กับใคร นอกจากคนที่กังวลไม่สบายใจกับการเติบโตและความเข้มแข็งของรัฐบาลก็อาจจะกังวล คับข้องหมองใจไปบ้างเป็นเรื่องธรรมดา

ส่วนภาพที่ออกมา  หลายคนไม่เชื่อว่านายทักษิณป่วยจริง  นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ป่วยจริงได้ไง  ตนถามมา พบว่าเส้นเอ็นไหล่ขาด ซึ่งตนและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก็เคยอยู่ในสภาวะนี้ คนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ใช้ชีวิตมานาน จะมีเส้นเอ็นที่ขาดของตนก็ขาดต้องผ่าตัดมันยุ่ยไปหมด ต้องอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลและห้อยแขน 6 ถึง 7 เดือนกว่าจะคืนมาได้ และตนต้องหยุดตีกอล์ฟหยุดออกกำลังกายไประยะหนึ่ง  เพราะมันต้องระมัดระวัง พร้อมกันนี้นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า คนเจ็บป่วยให้กำลังใจเขาบ้างเถอะ อย่าไปมองแต่เขาจะสร้างภาพ ถ้ายังวัยสัก 10 ปี แล้วมาห้อยแขนใส่เฝือกต้นคอ อาจจะบอกได้ว่ามันผิดปกติ แต่คนอายุ 70 ปีทำเรื่องแค่นี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ในกรีณีนี้ โดยประเมินสถานการณ์หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการปล่อยตัว  แต่มีคนบางส่วนต่อต้านและจะไปร้องเรียนหน่วยงานรัฐว่า คงจะมีอยู่บ้าง ซี่งกลุ่มที่ไม่ชอบก็มี แต่ไม่มาก แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากให้บรรยากาศมีความขัดแย้ง ดังนั้นคงจะไม่มีแนวร่วมขยายตัว เพราะคนเหนื่อยกับเศรษฐกิจ อยากให้แก้ไขเศรษฐกิจ  จึงเชื่อว่าจะค่อยๆ สงบลง  

ทั้งนี้ จากที่เห็นภาพนายทักษิณ ใส่เฝือกที่คอและแขน ก็รู้สึกสงสาร เพราะที่ผ่านมา มีแต่คนเห็นภาพนายทักษิณ องอาจแข็งแรง พอเห็นแบบนี้ก็สงสาร แต่การกลับมาได้ในวันนี้ก็ไม่ง่าย และเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน

ส่วนอีกมุมมองที่เห็นว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง และการกลับมาครั้งนี้ คนจะโฟกัสไปที่นายทักษิณ มากกว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนั้น นายสุทิน กล่าวว่า โดยพื้นฐานมันทำให้เชื่ออย่างนั้น คนก็จะคล้อยเชื่อตาม ว่าความอยากมา ก็จะต้องสร้างสตอรี่ว่าไม่ป่วย แต่ทำให้ป่วย แต่ความจริงเป็นอย่างนั้น (ป่วยจริง) ซึ่งเราก็ต้องเชื่อแพทย์ เชื่อกรมราชทัณฑ์ เพราะแพทย์และราชทัณฑ์คงไม่เสี่ยง

“กระดูกหักนี่ ผมเห็นหักจริงนะ ไปทำล้อเล่น ไปทำเป็นสร้างภาพไม่ได้ และโดยตัวท่าน ท่านก็มีโรคอยู่ ผมเชื่อว่าป่วยจริง”

นายสุทิน ยังเชื่อว่า การกลับมาของนายทักษิณ น่าจะมีผลในเชิงความเป็นผู้นำทางจิตวิทยา ความเป็นที่ปรึกษา ให้แนวทางที่ดีกับพรรคเพื่อไทย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0MvUuWQ-6RE