สังคม

'บิ๊กโจ๊ก' ยันถูกแต่งนิทานใส่ร้ายเอี่ยวเว็บพนันมินนี่ เตือนคนเซ็นชื่อในสำนวน ระวังติดคุก

โดย panwilai_c

19 ก.พ. 2567

70 views

'บิ๊กโจ๊ก' ยันไม่มีเอี่ยวเว็บพนันมินนี่ ย้ำถูกกลั่นแกล้งดิสเครดิต แต่งนิทานใส่ร้าย เตือนพนง.ที่เซ็นชื่อในสำนวน ระวังติดคุก



โดยวันนี้ (19 ก.พ. 67) บิ๊กโจ๊ก เข้ามาที่สโมสรตำรวจ พร้อมเปิดใจ คดีเว็บพนันมินนี่ ไม่มีความผิดเชื่อมโยงถึงตัวเอง ครั้งนี้เป็นการแต่งนิทานเพื่อดิสเครดิต



ประมาณบ่ายโมงครึ่งที่ผ่านมา หลังนายกสมาคมพนักงานสอบสวนแถลงจบไปราว 2 ชั่วโมง พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็เดินทางมาที่สโมสรตำรวจ พร้อมอธิบายเรื่องที่ถูกดำเนินคดีเว็บพนัน "มินนี่" ว่า เป็นการโยงคดีเว็บพนันมาถึงลูกน้องทั้ง 8 คน ของเขา ซึ่งทั้ง 8 คนถูกดำเนินคดี และตอนนี้สำนวนอยู่ในชั้นอัยการแล้ว พนักงานสอบสวนไม่สามารถสอบเพิ่มเติมได้ เว้นแต่จะมีคำสั่งจากอัยการ แต่ปรากฏว่าตอนนี้มีความเห็นสั่งสอบเพิ่มเติมของพนักงานอัยการถูกปล่อยหลุดออกมาอยู่ตลอด



ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการปล่อยความลับในสำนวน ดังนั้น หัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็นใคร ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นการที่ทำให้กระบวนการสอบสวนเสียหาย ซึ่งลูกน้องทั้ง 8 คน ได้ยื่นฟ้องคดีอาญาฐานทุจริตไปแล้ว เป็นระดับพลตำรวจเอก 2 คน ไปจนถึงคณะพนักงานสอบสวน และได้มีการร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการ และวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ. 67) 1 ใน 8 ตำรวจ ก็จะไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินคดีอาญา 157 กับผู้กำกับการท่านหนึ่งที่มีการโทรศัพท์ไปโน้มน้าวให้ให้การอย่างใดอย่างหนึ่ง



พร้อมบอกว่าเรื่องนี้ เหมือนเป็นการเล่านิทาน พอเอาเว็บพนันมาผูกกับลูกน้องทั้ง 8 คนของเขา ก็พยายามจะโยงหาเขาต่อ ซึ่งการที่จะมีความผิดเกี่ยวกับเว็บพนัน เส้นทางการเงินก็ต้องเป็นเงินที่มาจากการทำเว็บพนัน ไม่ใช่การโอนเงินไปมาในชีวิตประจำวัน แล้วมาบอกว่าเป็นเงินเว็บพนัน ที่สำคัญเขาไม่ได้ดูแลด้านไซเบอร์ ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการปราบปรามเว็บพนัน แต่ดูเรื่องค้ามนุษย์ ในเมื่อไม่มีผลประโยชน์ แล้วใครจะมาจ่ายเงินค่าเคลียร์ให้เขาและลูกน้อง แถมยังฝากถึงพนักงานสอบสวนที่เซ็นชื่อในสำนวน ระวังจะติดคุก ส่วนเรื่องนี้ ใครเป็นผู้ประพันธ์นิทานที่ได้ประโยชน์นั้น ก็ขอให้สื่อย้อนกลับไปดูเอง



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ตำรวจทะเลาะกันเอง แต่ชาวบ้านมองแล้วเค้าสมเพช ว่าทำไมถึงไม่เอาเวลาเหล่านี้ไปทำงานปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน แต่กลับเอาเวลาทำงานมานั่งทำสิ่งที่ไม่สมควรทำ พร้อมเปรียบเทียบว่า เขาเป็นเหมือนรถ 1 คัน ที่ขับไปบนถนน พอเจอตำรวจจราจรก็ถูกโบกเรียก ขอตรวจใบขับขี่ พอมีแสดงให้ดูถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจจราจรก็เปลี่ยนใหม่ ขอเดินดูรถรอบคันเพื่อดูว่าจะมีตรงไหนผิดกฎหมายหรือไม่



ส่วนกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีการแถลงว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีผู้ต้องหาในกลุ่มลูกน้องตน 8 คน ไปคุกคามพนักงานอัยการนั้น เท่าที่ตนได้พูดคุยยืนยันว่าไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ยืนยันว่าไม่ทิ้งลูกน้อง แต่เรื่องคดีก็ให้เอาความจริงไปต่อสู้ด้วยตัวเอง ส่วนการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้เซ็นให้ออกจากราชการ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของพันตำรวจเอก ภาคภูมิ พิศมัย นั้น ไม่ได้มีการมาปรึกษาตนก่อน แต่ถ้ารู้ก่อนก็จะไม่ให้ยื่น เพราะมองว่าไม่จำเป็น ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่มีการคุยกัน



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังทิ้งท้ายฝากถึงสื่อต่างๆ ว่าถ้าจะลงอะไร ขอให้ลงดีๆ ถ้ามีการฟ้อง มันจะผิดใจกัน การเป็นสื่อ สามารถแสดงความเห็น วิเคราะห์ได้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าเป็นเรื่องจริงไหม ไม่ใช่แชร์ไปเรื่อย มันทำให้เสียหายหลายคน


https://youtu.be/b8Vm5N9CesM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ