สังคม

วุ่นรักที่โรงพัก! ‘หนุ่มพบรักสาวริมทาง’ วันเดียวลึกซึ้ง-ตกเย็นเงินหาย เคลียร์กันวุ่น ตร.ต้องห้ามศึก

โดย paweena_c

19 ก.พ. 2567

54 views

เรื่องวุ่นๆ ของวัยรุ่นพบรักริมทาง “ชายวัย 38” พบรัก “สาววัย 25” ที่ศาลาข้างทาง คุยกันถูกใจ ซื้อเหล้าเลี้ยง พาไปเปิดรีสอร์ทรักกันหวานฉ่ำ ตบท้ายจะพาไปเลี้ยงหมูกระทะ แต่เงินหายเสียก่อน ทำทะเลาะกันกลางถนน จนชาวบ้านต้องแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ

เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ตำรวจ 191 อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงวิ่งตัดหน้ารถไปมา บนถนนมิตรภาพ ใกล้ด่านชั่งน้ำหนัก ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี โดยมีผู้ชายขี่มอเตอร์ไล่ตาม ไม่แน่ใจว่า เป็นเรื่องผัวเมียทะเลาะวิวาท หรือ ผู้หญิงถูกหลอกมา

ผ่านไปไม่นาน มีคนโทรแจ้ง 191 อีกครั้ง บอกว่า เจอหญิงสาววิ่งตัดหน้ารถแถวปั๊มน้ำมันที่ ต.หนองไผ่ อ.เมืองอุดรธานี จึงรีบประสานสายตรวจ สภ.โนนสูง ของอำเภอเมือง ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงก็ไปเจอสายตรวจรถยนต์ของ สภ.กุมภวาปี และ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม อยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว โดยพบว่า เป็นเหตุเดียวกัน เกิดขึ้นในพื้นที่คาบเกี่ยวของ 3 พื้นที่

โดยไปพบชายคนหนึ่งขี่บิ๊กไบค์ สีแดงดำ จอดริมทาง มีสีหน้าเคร่งเครียด ทราบชื่อ นายเมฆินทร์ อายุ 38 ปี หรือ เม ชาว อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี บอกว่า เครียดมาก ถูกน้องกิ๊ก อายุ 25 ปี เป็นผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกันที่ศาลาริมทางขโมยเงินไป โดยฉกเงินในกระเป๋าเสื้อไปประมาณหมื่นกว่าบาท ขณะพานั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์จะไปกินหมูกระทะในตัวเมือง แต่พอถูกตนเองจับได้ว่า ขโมยเงิน น้องกิ๊กก็กระโดดหนีจากรถ วิ่งข้ามไปมาระหว่างถนน 4 เลน ตนเองก็ขี่รถไล่ตาม ทำให้คนอื่นตกใจนึกว่าตนทำร้ายเขา

ตนมีอาชีพเก็บของเก่าขาย เพิ่งรู้จักน้องกิ๊กช่วงเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ศาลาริมทาง พอได้พูดคุยกันก็รู้สึกถูกคอ ถูกใจ เลยซื้อเหล้ามากินด้วยกัน จากนั้นพาไปนอนรีสอร์ท มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง แล้วกะว่าจะสานต่อสายสัมพันธ์ ให้ความรักหวานฉ่ำมากขึ้น ช่วงบ่ายจึงพาน้องกิ๊กไปกินหมูกระทะในตัวเมือง แต่พอขับมาถึงด่านชั่งน้ำหนัก อ.กุมภวาปี สังเกตว่า เงินในกระเป๋าเสื้อหาย จึงจอดรถถามน้องกิ๊ก แต่สาวเจ้าบอกว่า ไม่ได้เอาไป แล้วก็วิ่งหนี จนก็ขี่รถไล่ตาม

ซึ่งเงินที่หายไปหมื่นกว่าบาท เป็นเงินที่เก็บเล็กผสมน้อย จากการเก็บของเก่าขาย กว่าจะได้ สาวนี้เอาไปได้ยังไง อยากกินเหล้าก็ซื้อให้กินแล้ว แถมเขาไม่ยอมรับ อ้างว่าเป็นเงินของเขาหยอดกระปุกเอาไว้ ซึ่งตนเองไม่ยอมเสียเงินก้อนนี้เด็ดขาด

ต่อมาตำรวจ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม พาทั้ง 2 คน ไปที่โรงพัก โดย น.ส.กิ๊ก ได้บอกกับตำรวจว่า ขอแจ้งความ เพราะตนเองไม่ได้ขโมยเงินผู้ชายคนนี้ ตอนนั้นกำลังเดินอยู่ริมถนน แต่เจอผู้ชายคนนี้จะมาวิ่งราว และดึงกระเป๋าไป ส่วนเงินในกระปุก เป็นเงินที่เก็บออมหยอดกระปุก กว่าจะได้เงินในกระปุก ซึ่งมีประมาณ 7,000-8,000 บาท ยืนยัน ว่าไม่ได้ซ้อนท้ายรถเขา ไม่ได้ฉกเงินเขา และไม่ได้มีอะไรกับเขา เขาพูดแบบนี้ทำให้ตนเองเสียหาย ตนขอไม่ยอม จึงแจ้งความตำรวจขอปรับนายเมเป็นเงิน 500 ล้านบาท

แต่นายเม ก็โต้เดือด ถึงขั้นชี้หน้า น.ส.กิ๊ก บอกว่า มึงมาทำแบบนี้ได้ไง เงินกู คุยกันตอนแรกบอกจะให้คืน แต่กิ๊กก็ไม่ยอมแพ้ เถียงกลับไฟแลบ ว่า เธอมาปรักปรำฉันได้อย่างไร ทำร้ายฉันด้วย ไปดูบรรยากาศช่วงนี้

ตำรวจต้องห้ามทัพ พร้อมขอตรวจสอบเงินในกระปุกออมสินของ น.ส.กิ๊ก โดยเรียกช่างมาตัดกระปุก ซึ่งเป็นกระปุกเหล็ก นำเงินออกนับ พบว่า มีเงินประมาณ 6,004 บาท แต่เหมือนเป็นเงินที่ใส่ลงไปแค่ครั้งเดียว โดยเมื่อวานนี้ ก็ยังตกลงไม่ได้ว่าใครเป็นเจ้าของเงิน

ล่าสุดเช้าวันนี้ พันตำรวจโท นิรันดร์ ปัสสาโท สารวัตรสอบสวน สภ.ประจักษ์ศิลปาคม แจ้งว่า สุดท้ายทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้แล้ว คือ ตำรวจได้คืนเงิน 6,004 บาท ให้กับ น.ส.กิ๊ก โดยที่ฝ่ายชายยินยอม ไม่เอาเรื่องฝ่ายหญิงแล้ว แต่บอกอีกนิดว่า รู้จัก น.ส.กิ๊ก จริงๆ หลังมีอะไรกัน ได้ขอเงินค่าตัวสักพัน สองพัน ได้ไหม แต่ น.ส.กิ๊ก ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ไม่รู้จัก และไม่เคยไปหลับนอนด้วย

ขณะที่ น.ส.กิ๊ก มีอาการบาดเจ็บ จากการวิ่งหกล้มขณะข้ามถนน ตำรวจได้พาไปรักษาตัวที่ รพ. พร้อมจ่ายเงินให้เรียบร้อย จากนั้นพาไปส่งที่ บขส.กุมภวาปี โดยเจ้าตัวบอกว่า จะขึ้นรถทัวร์ไปหาพ่อ ที่ทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนนายเม ก็ขี่รถกลับบ้านที่ อ.โนนสะอาด เรียบร้อยแล้ว


https://youtu.be/erC4OfK3M8c

คุณอาจสนใจ