เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ลงพื้นที่สกลนคร 2 วัน ยกยุคคอมมิวนิสต์ เตือนความทรงจำคนไทย ขออย่าซ้ำรอยความขัดแย้ง

โดย attapan_n

18 ก.พ. 2567

59 views

วันที่ 18 ก.พ.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการลงพื้นที่จังหวัดนครพนมและสกลนคร ว่า โดยรวมเราดูกันเรื่องของโอกาส คงไม่ปฏิเสธว่าจังหวัดสกลนคร ที่ติดอันดับ 1 ใน 20 จังหวัด ที่มีจีดีพีต่ำที่สุดในประเทศไทย แต่เมื่อมาแล้วตนก็เห็นโอกาส ที่จะสามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น

ทั้งนี้หากมองย้อนกลับไป จุดที่ได้ลงพื้นที่ ภูพาน จังหวัดสกลนครในวันนี้ เมื่อ 40 - 50 ปีก่อน มีปัญหาเรื่องกลุ่มคอมมิวนิสต์เกิดขึ้น รวมถึงปัญหาความไม่สงบ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงก็มีการบริหารจัดการเรื่องดังกล่าวได้ดีมาก จนปัญหาเรื่องความไม่มั่นคงและความแตกแยก ได้จบลงแล้ว ฉะนั้นวันนี้ เราก็มาสู้กับปัญหาความยากจน พร้อมย้ำว่าตนเชื่อเรื่องสันติสุข เป็นอะไรที่จะนำรอยยิ้มมาให้ประชาชนทุกคน ถึงแม้เงินในกระเป๋าจะมีน้อยแต่มีรัฐบาลที่ใส่ใจ และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนต่อไป แต่ตนเชื่อว่าเหนือสิ่งอื่นใด เราไม่อยากกลับไปสู่ความขัดแย้ง ที่เห็นเมื่อ 40 - 50 ปีก่อน อย่างเช่นเรื่องกลุ่มคอมมิวนิสต์เกิดขึ้น

“พระองค์ท่าน อยากเห็นคนไทยมีความรัก มีความสมัครสมานสามัคคี ถ้ามีความเห็นต่าง ก็อยู่ด้วยกันได้ ใช้เวทีที่มีความปลอดภัยถกเถียงพูดคุยกัน เพื่อแก้ไขปัญหา ใช้วงนักวิชาการในการพูดคุยกัน สื่อสารกันอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ถือเป็นเรื่องที่ดี”

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า หากย้อนกลับไป เมื่อเรื่องของกลุ่มคอมมิวนิสต์จบไปที่ภูพาน ก็มีโครงการภูพานในพระราชดำริ ซึ่งวันนี้ทุกคนก็ได้ไปดูมาและเห็นว่ามีศักยภาพสูงมาก ทั้งเรื่องการแปรรูปสินค้าเกษตร ปศุสัตว์ เช่น พันธุ์ไก่ดำ กระต่าย เนื้อโคขุนที่มีมูลค่าสูง 5,000 -6,000 บาทต่อชิ้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถือเป็นโอกาสที่รัฐบาลต้องช่วยสนับสนุน และเชื่อมโยงภาคเอกชนให้มาช่วยสนับสนุนสินค้าเหล่านี้ ไปขายในห้างสรรพสินค้าไทย หรือขายในต่างประเทศได้ และนำความหวังมาให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งขณะนี้ภาคเอกชนหลายภาคส่วนก็มีความตื่นตัว ไม่ใช่แค่การลงพื้นที่ครั้งนี้แค่ครั้งเดียว อย่างที่เชียงใหม่ก็เช่นเดียว ก็มีนักธุรกิจรายใหญ่ให้ความสนใจ กับสินค้าที่จะนำไปขายในที่ต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่การเขียนเช็คให้และสั่งซื้ออย่างเดียว

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าเรื่องความยากจนสามารถแก้ไข รัฐบาลจะตั้งใจแก้ไขปัญหานี้ต่อไป ปัญหาของเกษตรกรคือการเปิดตลาด ดังนั้นหากเจ้าสัวหรือนักธุรกิจหลายๆรายช่วยเปิดตลาดได้ก็จะดีมาก ซึ่งสินค้าหลายอย่างหากเราแปรรูปให้มีคุณภาพได้ ก็จะสามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น

นายเศรษฐา กล่าวย้ำอีกว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ใช่การเชื่อมภาคเอกชนและเกษตรกร แต่ก็ มาดูในเรื่องของการบริหารจัดการพื้นฐาน อย่างน้ำท่วมน้ำแล้ง โลจิสติกส์ การเชื่อมโยงระบบคมนาคม ก็มีการทำควบคู่กันไปเพียงแต่ขอเวลา ฉะนั้นระหว่างนี้หากมีความเห็นต่างหรือไม่เห็นด้วย ก็ควรใช้เวทีที่ปลอดภัยในการพูดคุยกันจะดีกว่า เพราะอย่าลืมว่าสันติสุขเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เรื่องเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งจากการลงพื้นที่ 2 วันที่ผ่านมา ตนมองว่าเป็นโอกาส แต่หากจะเอาหน้าประวัติศาสตร์มาพูดว่าเรามีวันนี้ได้ เป็นเพราะอะไร เราจะได้ไม่ย้อนกลับไปสู่วังวนเดิมๆที่ไม่มี และไม่มีสันติสุข ซึ่งวันนี้เราอยากเห็นรอยยิ้ม

เมื่อถามย้ำว่า การลงพื้นที่ 2 วัน นายกรัฐมนตรีพูดถึงเรื่องความเห็นต่างได้รับสัญญาณใดมาหรือไม่นั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกฯระบุว่าไม่มี อย่างวันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกับนายเสริมศักดิ์ พงศ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเคยเป็นอดีตนายอำเภอหลายพื้นที่ ได้วาดภาพให้ตนเห็นว่าเห็นว่า สมัยก่อนไม่มีเรื่องของความปรองดองหรือเรื่องคอมมิวนิสต์ที่เกิดขึ้น มันโหดร้าย วันนี้เราก้าวข้ามตรงนั้นมาแล้ว ประชาชนมีความถึงจุดๆหนึ่งแล้ว แล้ววันนี้การมาลงพื้นที่ภูพาน ก็ถือเป็นการเตือนความจำว่าเคยเกิดปัญหานี้ ฉะนั้นไม่อยากกลับไปอยู่ในจุดที่เราเคยมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ซึ่งทุกท่านก็ทราบดีอยู่ ว่ามีความขัดแย้งขึ้น แต่ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม พี่มีคนหลากหลายรุ่น หลากหลายความคิดเข้ามา แต่ตนเชื่อว่าระบบการปกครองของเรา มีพื้นที่ที่ปลอดภัยให้กับทุกคน สามารถพูดคุยกันได้







คุณอาจสนใจ

Related News