ผัวหลอนยา คิดว่าเมียมีชู้ คว้ามีด-ขวานปาดคอดับคาบ้าน ต่อหน้าหลาน 7 ขวบ

ตำรวจคุมตัวทำแผนรับสารภาพ ชายวัย 58 ปี เสพยาบ้า 3 เม็ด หลอนคิดว่า ภรรยาจะมีชายอื่น ใช้ทั้งมีดทั้งขวานทำร้ายภรรยา หลาน 7 ขวบโทรศัพท์บอกแม่ตาจะฆ่ายาย สุดท้ายมาไม่ทัน เสียชีวิตนอนจมกองเลือดในห้องนอน



ความคืบหน้าคดีนาย ทองสุข สมอหอม อายุ 58 ปี ใช้อาวุธมีดและขวานทำร้ายร่างกาย นางบัวหวาน สมีกลาง อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นภรรยาเสียชีวิตในห้องนอนบ้านตัวเอง ที่บ้านเลขที่ 77 บ้านหนองดู่ หมู่ที่ 3 ตำบล ป่าปอ อำเภอ บ้านไผ่ จังหวัด ขอนแก่น เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 17 ก.พ.25678 ที่ผ่านมา



ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 ก.พ.2567 พ.ต.อ.ปรัชญามาศ ไชยสุระ ผกก.สภ.บ้านไผ่ พร้อมด้วย พ.ต.ท.มนตรี สุปะตำ รอง ผกก.สืบสวน สภ.บ้านไผ่ ร.ต.อ.เสกสรรค์ อุดมทรัพย์ รองสว.(สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ คุมตัวนาย ทองสุข สมอหอม อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในบ้าน ซึ่งก่อเหตุในห้องนอนภายในบ้าน โดยนายทองสุขให้การว่า ช่วงเช้าที่ภรรยา ซึ่งเป็นประธาน อสม.จะไปร่วมกิจกรรมกับอำเภอ นายทองสุขได้เข้าไปทำร้ายภรรยาจนเสียชีวิต ก่อนจะนำมีดไปล้างในห้องน้ำแล้วทิ้งบริเวณหลังบ้าน ก่อนจะควบคุมตัวขึ้นรถของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย



โดยผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามถึงสาเหตุที่ลงมือฆ่าภรรยาตัวเอง แต่ผู้ต้องหามีสีหน้าที่เรียบเฉยไม่ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด และนายทองสุขยังได้สารภาพกับทางตำรวจชุดสืบสวนอีกด้วยว่า ก่อนลงมือก่อเหตุนั้นได้เสพยาบ้าจำนวน 3 เม็ดที่เถียงนาตัวเอง กระทั่งช่วงเช้ามีปากเสียงกับภรรยา คิดไปเองว่า ภรรยามีชู้และลงมือก่อเหตุดังกล่าว



โดยภายหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ น.ส.ปันฑิตา สมอหอม อายุ 31 ปี ลูกสาวของผู้ก่อเหตุและเสียชีวิต ซึ่งมีลูกสาววัย 7 ขวบอยู่ในเหตุการณ์และเป็นคนโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือกับแม่ โดยลูกสาวผู้เสียชีวิตได้เข้ามาเก็บเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ โดยลูกสาวเข้ามาเก็บเอกสารของพ่อกับแม่ทั้งน้ำตา ร้องไห้กับกองเสื้อผ้าแม่ที่เต็มไปด้วยเลือดจนเปียกชุ่ม ญาติๆและชาวบ้านต้องเข้ามาประคอง และช่วยกันเคลียร์พื้นที่ทำความสะอาด และจัดเตรียมสถานที่สำหรับตั้งศพผู้เสียชีวิตที่บ้านหลังเกิดเหตุ



โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์และเข้าไปห้ามผู้ก่อเหตุภายในบ้าน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลังรู้ว่านายทองสุขมีปากเสียงทำร้ายภรรยา ก็พากันเข้าไปช่วยกับชาวบ้าน ถีบประตูพังสำเร็จ เห็นนาทองสุขมีอาวุธในมือ ทั้งมีด และขวาน ส่วนภรรยานายทองสุขนอนนอนจมกองเลือดแน่นิ่งไปแล้ว พอเห็นว่านายทองสุขมีมีดและขวานในมือจึงพากันวิ่งออกมาจากบ้านกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้ามา



น.ส.ปันฑิตา สมอหอม อายุ 31 ปี ลูกสาวของผู้ก่อเหตุและเสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเช้าประมาณ 06.00 น. ลูกสาว 7 ขวบซึ่งอยู่กับตายาย คือผู้ก่อเหตุและเสียชีวิต โทรศัพท์มาบอกว่า แม่รีบกลับมาได้ไหม ตาจะฆ่ายาย ตนเองจึงรีบมาที่บ้านพ่อกับแม่ทันที แต่ก็ไม่ทันแม่เสียชีวิตแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาควบคุมตัวพ่อไป ตนเองอู่อาศัยที่บ้านอีกหลัง แต่ลูกสาวจะอยู่กับพ่อแม่ ที่ผ่านมาพ่อแม่ก็มีทะเลาะกันบ้างแต่ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงเหมือนครั้งนี้ และสาเหตุที่ทำให้พ่อเป็นแบบนี้ก็มาจากยาเสพติด แม้ว่าจะไม่เห็นกับตาแต่ก็ทุกคนรู้ โดยเฉพาะกัญชา แต่สาเหตุที่แท้จริงส่วนตัวก็ยังไม่ได้พูดคุยกับพ่อ



ขณะที่ นาย ชาญ วรรณประเข อายุ 52 ปี อยู้บ้านเลขที่ 1/1 ม.3 ต.ป่าปอ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อนบ้านที่เข้าไปเกลี้ยกล่อมให้นายทองสุขยอมวางอาวุธและมอบตัวกับตำรวจ ภายหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาในห้องนอนแล้ว ซึ่งด้วยความที่คุ้นเคยกันดีก็ได้พายามพูดคุยกับนายทองสุขถึงสาเหตุว่าเพราะอะไร โดยนายทองสุขบอกเพียงคำเดียว มันหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่พูดอะไรต่อ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาควบคุมตัวเอาไว้ได้ ที่ผ่านมานั้นทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่นายทองสุขนั้นจะมีพฤติกรรมที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ชาวบ้านหลายๆคนจะทราบดี และมักจะคิดไปเองตลอดว่าภรรยา ซึ่งเป็นประธาน อสม.ในหมู่บ้านมีชายอื่น ทั้งที่ฝ่ายหญิงไม่เคยมีประวัติเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้แม้แต่นิดเดียว