สังคม

จับโรงงานผลิตน้ำกระท่อม เตรียมต้มขายกว่า 300 กก. ผงะ! สภาพโรงงาน น้ำเน่าเจิ่งนอง แมลงสาบวิ่งวุ่น

โดย petchpawee_k

16 ก.พ. 2567

85 views

กก.ดส.นำกำลังตรวจโรงงาน ลักลอบผลิตน้ำกระท่อมขนาดใหญ่ ย่านหัวหมาก แบ่งพื้นที่ต้ม-บรรจุขวด-จัดเตรียมวัตถุดิบ และเก็บวัตถุดิบ

วานนี้ (15 ก.พ.) กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี หรือ กก.ดส. เข้าตรวจค้นโรงงานลักลอบผลิตน้ำกระท่อมขนาดใหญ่ ย่านหัวหมาก 13 โดยโรงงานดังกล่าว มีการแบ่งพื้นที่เป็นพื้นที่ต้มบรรจุขวด จัดเตรียมวัตถุดิบ  และเก็บวัตถุดิบรวมทั้งเก็บขวดบรรจุภัณฑ์แบ่งไว้อย่างชัดเจน


แต่จากสภาพโดยรวมของโรงงานแล้ว ถือว่าค่อนข้างสกปรก โดยเฉพาะบริเวณที่ต้มน้ำและบรรจุขวด มีสภาพเจิ่งนองไปด้วยน้ำทิ้งจำนวนมาก ปรากฏคราบร่องรอยไหม้สกปรกตามผนังและพื้น ถังเก็บน้ำกระท่อมเป็นถังน้ำแข็งเก่าที่ค่อนข้างสกปรกและผ่านการใช้งานมานาน ส่วนใบกระท่อมนั้น พบว่าถูกบรรจุอยู่ในถุงมัดปากเอาไว้วางกองบนพื้นจำนวนมาก ส่วนบริเวณที่ขยี้ใบเตรียมวัตถุดิบนั้น มีสภาพไม่ต่างจากบริเวณที่ต้มน้ำ มีเศษขยะเกลื่อนบริเวณโรงงาน มีขวดน้ำบรรจุน้ำกระท่อมวางกองเป็นจำนวนมาก ตามหม้อต่างๆ ก็ยังคงพบการต้มใบกระท่อมทิ้งไว้ มีแมลงสาบอยู่ภายในโรงงาน ส่วนบริเวณทางออกของโรงงานพบกองขวดบรรจุภัณฑ์เปล่าและฝาจำนวนมากวางกองเอาไว้อยู่


สำหรับของกลางที่ตรวจพบ ประกอบไปด้วย น้ำกระท่อมแบบต้มบรรจุใส่ขวดพร้อมจำหน่าย จำนวน 543 ขวด  ขวดเปล่าเพื่อใส่บรรจุน้ำกระท่อมพร้อมฝา จำนวน 32,616 ขวด  ใบกระท่อม จำนวน 305 กิโลกรัม  และอุปกรณ์การต้มประกอบด้วย ถังแก๊ส 10 ถัง หัวแก๊ส 12 หัว หม้อสำหรับใช้ต้มน้ำกระท่อม 10 หม้อ และตราชั่ง จำนวน 2 เครื่อง


พร้อมกันนี้ ยังสามารถจับกุม Mr.Muang Tun อายุ 26 ปี สัญชาติเมียนมาร์ และชายไม่ทราบชื่อ อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ซึ่งไม่พบเอกสารแสดงตัวตน ในบริเวณพื้นที่โรงงาน จากการสอบถามคร่าวๆ ระบุเพียงแค่ว่า ทั้งโรงงานมีแค่ 2 คน ทำหน้าที่ต้มและบรรจุภัณฑ์ มีเจ้าของโรงงานเป็นชาวภาคใต้คอยจ่ายเงินให้ โดยทั้งสองคนจะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารที่มีพืชกระท่อมเป็นส่วนผสมตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 2 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท  ข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงานในราชอาณาจักร  และเข้าเมืองผิดกฎหมายตามกฎหมายคนเข้าเมือง


ทั้งนี้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางมาตรวจสอบของกลางที่โรงงานดังกล่าวด้วยตนเอง โดยได้ให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายลองสาธิตการบรรจุน้ำกระท่อมลงขวดจากถังน้ำแข็งที่ใส่น้ำกระท่อมต้มสุกแล้วให้ตำรวจและสื่อมวลชนได้ชม ก่อนที่ผู้บังคับบัญชาทั้ง 2 จะเดินทางกลับ


ด้าน พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส. ให้สัมภาษณ์ระบุว่า การเข้าตรวจค้นโรงงานผลิตน้ำกระท่อมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการจากควบคุมการลักลอบผลิตน้ำกระท่อมเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งยังถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและก่อให้เกิดปัญหาการนำไปบริโภคในทางที่ผิดโดยเฉพาะการนำน้ำกระท่อมไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด


ซึ่งการตรวจค้นโรงงานครั้งนี้นั้น เป็นการสืบสวนสอบสวนขยายผลจากการแกะรอยร้านขายน้ำกระท่อมริมถนนในบริเวณพื้นที่หัวหมากและรามคำแหง จนสืบทราบว่า มีต้นทางมาจากโรงงานแห่งนี้ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุม


จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นพบว่า โรงงานแห่งนี้ตั้งมาได้ 1 ปีกว่า เป็นการเช่าสถานที่ โรงงานร้างแห่งนี้ลักลอบผลิตน้ำกระท่อม โดยมีเป้าหมายในการส่งจำหน่ายให้แก่ร้านค้ารายย่อยริมถนนย่านหัวหมากและรามคำแหง พบว่าผลิตกันทุกวัน วันละ 1,000 ขวด โดยจะแบ่งเป็นรอบๆ รอบเช้า 500 ขวดและรอบบ่าย 500 ขวด โดยจะผลิตเป็นน้ำกระท่อมดิบเป็นหลัก อีกทั้งโรงงานแห่งนี้ไม่ได้รับมาตรฐาน และมีสภาพสกปรกตามที่สื่อมวลชนได้เห็นไป


หลังจากนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าของโรงงานและผู้ให้เช่าว่ารู้เรื่องหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบเปิดโรงงานแห่งนี้หรือไม่ รวมทั้งขยายผลถึงคนงาน แหล่งที่มาของใบกระท่อม และเส้นทางการเงินต่าง ๆ ต่อไป


พ.ต.อ.ศานติ กล่าวอีกว่า เนื่องจากข้อห่วงใยของทางรัฐบาลที่พบว่า เด็กและเยาวชนเข้าถึงน้ำกระท่อมได้ง่ายขึ้น รวมทั้งจะนำไปสู่การนำน้ำกระท่อมไปผสมยาอื่นๆ เพื่อเป็นสารเสพติด ทาง บช.น. จึงได้สั่งการให้ กก.ดส. ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลเกี่ยวกับโรงงานผลิตน้ำกระท่อมในกรุงเทพฯ ซึ่งนอกจากโรงงานแห่งนี้แล้ว ยังพบว่ายังมีโรงงานลักษณะแบบนี้อีกหลายพื้นที่ที่ลักลอบผลิตและจัดจำหน่ายให้แก่ร้านค้ารายย่อยในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งจะต้องดำเนินการกวาดล้างจับกุม รวมทั้งจะขยายผลไม่ถึงบรรดาพ่อค้ารายย่อยที่ขายน้ำกระท่อมริมถนนอีกด้วย นอกจากนี้ยังเปิดเผยอีกว่าเครือข่ายโรงงานลักลอบผลิตน้ำกระท่อมในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น มีทั้งเป็นโรงงานเอกเทศและโรงงานที่เป็นเครือข่าย โดยมีเจ้าของคนเดียวกัน ซึ่งจะต้องทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป


พ.ต.อ.ศานติ กล่าวย้ำอีกว่า ในทางกฎหมายแล้วแม้จะมีการปลดล็อคใบกระท่อมก็จริง แต่จะสามารถจัดจำหน่ายได้เฉพาะใบกระท่อมเท่านั้น ส่วนน้ำกระท่อมนั้นสามารถต้มบริโภคกินกันเองภายในครัวเรือนได้ แต่ไม่สามารถต้มเพื่อจัดจำหน่ายหรือแจกแจงได้ หากพบก็จะถือว่าผิดกฎหมายทันที แต่ตอนนี้ใช้เพียงกฎหมาย พ.ร.บ.อาหาร มาดำเนินการเท่านั้น ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะในเรื่องของใบกระท่อมมาควบคุม ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งข้อห่วงใยไปยังรัฐบาล เพื่อดำเนินการทบทวนหรือออกกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาควบคุมเรื่องการลักลอบผลิตน้ำกระท่อมแล้ว อย่างน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงและนำไปใช้เป็นสารเสพติด


ก่อนจะฝากย้ำทิ้งท้ายว่า น้ำกระท่อมไม่สามารถผลิตเพื่อจัดจำหน่ายได้ หากพบถือว่าฝ่าฝืนกฎหมายทันทีจะถูกจับดำเนินคดี เตือนไปยังบรรดาพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยที่ขายน้ำกระท่อมริมถนนว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมาย หากจะต้มน้ำกระท่อม ขอให้ต้มกินบริโภคเองภายในครัวเรือนเท่านั้น อีกทั้งยังฝากไปถึงผู้ที่ชอบบริโภคน้ำกระท่อมว่า หากเป็นไปได้ก็ขอให้ละเลิก ยิ่งน้ำกระท่อมมาจากโรงงานที่มีสภาพตามที่ทางตำรวจได้ตรวจค้นวันนี้นั้น จะเห็นได้ว่า ค่อนข้างสกปรกและไม่ได้มาตรฐาน จึงเสี่ยงอย่างมากที่บริโภคไปแล้วอาจจะปนเปื้อนเชื้อโรคหรือก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายได้


ด้าน พ.ต.ท.จักรี นารีผล สารวัตร.กก.ดส เปิดเผยว่า โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานที่รับจ้างผลิตน้ำกระท่อม ขายส่ง ให้กับผู้ค้านำไปขายต่อ โดยจะผลิตน้ำกระท่อมทั้งคืนพร้อมส่ง โดยวิธีการก็เริ่มมาตั้งแต่การนำใบกระท่อมรับซื้อมาจากต่างจังหวัดหลายพื้นที่ทั้งในพื้นที่มีนบุรี นครปฐม,ฉะเชิงเทรา จากนั้นก็จะนำมาล้างทำความสะอาดและลงต้มในแต่ละหม้อกวนให้ใบกระท่อมละเอียด และได้น้ำที่เข้มข้นมากที่สุด จากนั้นก็จะนำมาพักไว้ในถัง ซึ่งสภาพของถังรอกรอกนั้นมีสีดำสกปรกและคล้ายกับมีเชื้อราปะปนอยู่ จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการกรอกใส่ขวดผ่านสายยางสภาพที่ไม่ถูกสุขอนามัย เมื่อกรอกแล้วก็ปิดฝานำส่งจำหน่าย  


สำหรับโรงงานแห่งนี้พบว่ามีการลักลอบต้มน้ำกระท่อมจำหน่ายมานานกว่า 1 ปีแล้ว มีกำลังการผลิตวันละ 1,000 ขวด ราคาส่งขวดละ 35 บาท ขายตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนร้านสะดวกซื้อลูกค้าจะเข้ามารับซื้อครั้งละ 200- 300 ขวดเป็นการขายส่งตลอดทั้งคืน


ทีมข่าวได้ สอบถามข้อมูลกับลูกจ้างที่รับทำน้ำกระท่อม ให้ข้อมูลว่า ทำหน้าที่แค่ต้มน้ำกระท่อมแค่นั้นไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย ซึ่งตนเองเป็นคนต้มก็ไม่กล้ากิน โดยลูกค้าจะมารับน้ำกระท่อมตลอดทั้งวันทั้งคืน จะขายดีมากในช่วงเทศกาลต่างๆ ทั้งปีใหม่สงกรานต์และวันหยุดยาว


ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมเป็นคนต้มจึงไม่กล้าชิมน้ำกระท่อมที่ต้มเอง เจ้าตัวตอบว่าไม่กล้ากิน เพราะไม่ชอบน้ำกระท่อมและอุปกรณ์ต่างๆ ก็ไม่สะอาด 

ทั้งนี้ ทีมข่าวยังได้ได้พูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า โรงงานแห่งนี้นั้นเปิดมาได้ปีกว่าแล้ว เท่าที่เห็นจะพบว่าโรงงานแห่งนี้มีแรงงานชาวต่างด้าวประมาณ 6-7 ราย คอยผลัดเวรกันมาทำหน้าที่ต้มน้ำบรรจุขวดและไปส่งน้ำเอง ซึ่งพวกเขาจะไปส่งตามร้านค้ารายย่อยริมถนนในย่านหัวหมากและรามคำแหง นานๆ ทีจะพบรถกระบะคันใหญ่เข้ามารับน้ำกระท่อมด้วยตัวเอง ส่วนตัวไม่เคยเห็นว่าเจ้าของเป็นใครและไม่เคยซื้อบริโภคน้ำกระท่อมแห่งนี้ แต่ทราบเพียงว่า โรงงานแห่งนี้นั้นจะผลิตน้ำกระท่อม 2 แบบคือน้ำกระท่อมดิบ ซึ่งจะขายขวดละ 30-40 บาท และน้ำกระท่อมที่ผสมยาแก้ไอจะจำหน่ายราคาสูงถึง 70-80 บาท


นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านให้ข้อมูลกับทีมข่าวอีกว่า โรงงานน้ำกระท่อมแห่งนี้มักจะสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชาวบ้านในพื้นที่ในเรื่องของมลภาวะทางกลิ่น กลิ่นใบไม้และกลิ่นเน่าจะลอยมาจากโรงงานจนทำให้ลูกค้าร้านอาหารในพื้นที่ประสบปัญหาทางกลิ่นตลอด


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/wRwwjNfUF3Q


คุณอาจสนใจ

Related News