สังคม

ลูกชายห่วงแม่บอกไม่สบาย โทรผิดแจ้ง 191 ตร.เข้าช่วยพบแม่ถูกแฟนทำร้ายน่วม-ขังในห้อง

โดย paranee_s

15 ก.พ. 2567

3K views

วันที่ 14 ก.พ.67 เมื่อเวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ว่า มีเหตุหญิงถูกทำร้ายร่างกายและถูกกักขังตัวอยู่ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง มาแล้ว 2 วัน หลังรับแจ้งเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจจำนวนหนึ่ง เดินทางไปตรวจสอบยังบ้านเช่าหลังหนึ่ง ภายในซอยสามัคคี 49 แยก 2 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี


จากการเข้าตรวจสอบที่ห้องเช่าชั้นล่างของบ้าน พบ น.ส.ศศินา อายุ 49 ปี ผู้ดูแลบ้านเช่า อยู่ในสะบักสะบอม ตามใบหน้าและร่างกายถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง นอกจากนี้ยังพบนายเอ (นามสมมุติ) แฟนหนุ่มของ น.ส.ศศินา นอนอยู่ในห้องพักด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ช่วยเหลือนำตัว น.ส.ศศินา ออกมาจากห้องพักเพื่อนำตัวไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ก่อนจะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป หลัง น.ส.ศศินา ระบุว่าคนที่ลงมือทำร้ายร่างกายจนใบหน้าปูดบวมคือนายเอ แฟนหนุ่มรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่า ส่วนสาเหตุมาจากนายเอเสพยาบ้าเข้าไปแล้วหลอนยา ระแวงว่าตนจะแอบไปคุยกับชายอื่น จึงจับตนซ้อม ทำร้ายร่างกายอยู่ในห้องมา 2 คืนติดแล้ว


ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเอ แฟนหนุ่มที่ยังอยู่ในอาการเมายาเสพติดไปยังโรงพักเพื่อทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดต่อไป


จากการสอบถาม นางพร อายุ 67 ปี ชาวบ้านในซอยดังกล่าวเปิดเผยว่า นายเอ มีพฤติกรรมเมายาแล้วซ้อมเมียเป็นประจำ ยิ่งมาในช่วงหลังอาการจะหนักมา ถึงกับปิดล็อกประตูไม่ให้ น.ส.ศศินาออกจากห้องไปขายของจนกลายเป็นที่เอือมระอาของคนที่มาเช่าห้องและชาวบ้านในซอยแห่งนี้ บางครั้งก็มาขอยืมเงิน 100 บาท เพื่อเอาไปซื้อยามาเสพ


ตนยังเคยบอกให้ น.ส.ศศินาเลิกกับนายเอไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ผล นายเอเป็นอย่างนี้มานานเป็นปีแล้ว ไม่ยอมทำมาหากิน เกาะหนึบ แถมยังขยันซ้อมเมียตั้งแต่เช้ายันเย็น พอเมียไม่มีเงินให้ไปซื้อยามันก็ซ้อม ตนเคยเปิดเข้าไปดูเห็นตัวเขียวช้ำน่วมไปทั้งตัว


อย่างปกติเมียเขาจะต้อง ออกไปขายลูกชิ้นย่าง แต่นายเอก็ไม่ให้ออกไปขาย เพราะหลอนยาแล้วระแวงว่าเมียจะไปมีคนใหม่ บางครั้งก็ถึงกับตามไปตบไปตีที่กน้าร้าน จนทำให้คนไม่กล้ามาซื้อของแล้วเพราะนายเอไปนั่งเฝ้าอยู่ด้วย


นางพร กล่าวอีกว่า ชาวบ้านแถวนี้ไม่มีใครกล้าโทรแจ้งตำรวจ เพราะมันเคยบอกไว้ว่าถ้าใครโทรแจ้งตำรวจจะโดนมันเล่นงานแน่ จนไม่มีใครกล้าไปยุ่งเพราะกลัวถูกทำร้าย


ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงพัก สภ.รัตนาธิเบศร์ โดยได้พบกับ น.ส.ศศินา อายุ 49 ปี เปิดว่า ตนถูกนายเอแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบกันมาได้ปีกว่า ทำร้ายร่างกายด้วยการเตะเข้าที่หัวกับใบหน้า มาตั้งแต่คืนวันที่ 12 - 13 ก.พ. และถูกบังคับขังไว้ในห้องไม่ให้ตนออกจากห้องไปไหน โชคดีที่ตอนค่ำลูกชายของคนอายุ 13 ปี ที่ตนฝากยายข้างห้องเลี้ยง มาเคาะประตูเรียกตน ตนจึงบอกกับลูกชายไปว่า แม่ไม่สบายมากช่วยโทรตามหมอให้แม่ที


ลูกชายตนจึงออกไปโทรศัพท์เพื่อจะขอความช่วยเหลือจากศูนย์การแพทย์คือเบอร์ 1669 แต่ลูกชายตนกลับโทรไปที่เบอร์ 191 แทน เมื่อตำรวจสอบถามลูกชายตนจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่ตนถูกซ้อมให้ฟัง ทางตำรวจ 191 จึงประสานตำรวจในพื้นที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ โดยมาตนมาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายเอาไว้ก่อนและจะพาส่งโรงพยาบาลรักษาตัวต่อไป


น.ส.ศศินา เปิดเผยอีกว่า ตนเคยพยายามจะเลิกรากับแฟนหนุ่มรายนี้ไปครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมเบิกไม่ยอมไปไหน เพราะอยู่กับตนก็สบายไม่ต้องทำงานอะไร เอาแต่ขอเงินใช้ไปวัน ๆ พอให้ไปก็เอาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ พอเสพแล้วก็หลอนบ้างหวาดระแวงบ้าง แล้วก็มาลงมือทำร้ายตนเป็นประจำ ให้เงินก็โดน ไม่ให้ก็โดน ขนาดว่าเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่าน เขาถูกจับในข้อหาเสพยาติดไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ติดคุกได้เพียงเดือนเดียวพอพ้นโทษออกมา ก็มาอยู่กับตนและก็ทำร้ายตนอีก


กระทั่งล่าสุดไปมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นแล้วโดนฟันแขนขวา ก็ระแวงกล่าวหาว่าตนไปจ้างกลุ่มวัยรุ่นมารุมทำร้ายเขาอีก ทุกวันนี้ตนต้องอาศัยเก็บค่าเช่าห้องกินเพียงอย่างเดียว ออกไปขายของไม่ได้เลย เพราะเขาหึงหวงกลัวว่าตนจะไปพูดคุยกับผู้ชายคนอื่น ซึ่งอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้เด็ดขาดไปเลย ไม่ใช่จับตัวไปในแค่ข้อหาเสพยาเท่านั้น ติดคุกแปปเดียวก็ออกมาอาละวาดอีก


ส่วนอาการบาดเจ็บของตน จากการถูกเตะเข้าที่ศีรษะกับใบหน้าจนหน้าบวมหัวบวมนั้น ก่อนหน้านี้ตนถูกเตะจะเตะตามลำตัวก็ยังพอทนได้ แต่ช่วงมาเน้นเตะแต่หัวตน จนไม่รู้ว่ามันข้างในมันสะเทือนไปถึงไหน ตนเป็นห่วงเรื่องที่หัวมาก คงต้องไปให้หมอตรวจดูอีกครั้ง นี่ขนาดแขนขวาที่เขาถูกฟันมายังเป็นแผลพันผ้าอยู่จนเหลือแขนเดียวตนยังถูกทำร้ายร่างกายเตะหัวเตะหน้าได้ขนาดนี้ ถ้าแขนเขาดี ๆ ทั้งสองข้างตนคงถูกทำร้ายร่างกายหนักกว่านี้


ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายเอถึงสาเหตุที่ลงมือทำร้ายร่างกายแฟนสาว ซึ่งนายเอยังอยู่ในลักษณะเหมือนคนเมายา ตอบว่า ที่ลงมือทำร้ายร่างกายแฟนสาวนั้น เพราะตนจับได้ว่าแฟนสาวคุยกับชายอื่น ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ก็ในเมื่อแฟนสาวอยู่ขังอยู่ในห้องพักเพียงสองคนกับนายเอ แถมโทรศัพท์มือถือก็ถูกยึดไปด้วย แฟนสาวจะแอบไปคุยกับชายอื่นได้ยังไง ซึ่งนายเอตอบว่า ตนได้ยินเสียงกระซิบพูดคุยของผู้ชายในห้องอยู่ข้างหูตนตลอดเวลา จึงเชื่อว่าแฟนสาวตนแอบคุยกับชายคนอื่น


ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายเอ เพื่อเตรียมตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ