เลือกตั้งและการเมือง

“ไอติม” ห่วงเสรีภาพสื่อถดถอย ปมตำรวจจับกุม “ผู้สื่อข่าว-ช่างภาพ”

โดย paranee_s

13 ก.พ. 2567

49 views

วันนี้ (13 ก.พ. 2567) ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง จับกุมตัวผู้สื่อข่าวภาคสนาม และช่างภาพอิสระ ในข้อกล่าวหาว่า “เป็นผู้สนับสนุนทำให้โบราณสถานเสียหายจากการขีดเขียนข้อความ”


โดยนายพริษฐ์ ระบุว่า ได้ทราบจากข่าว ว่าขณะนี้ทั้งสองคนถูกคุมตัวข้ามคืนที่ สน. ซึ่งคาดว่าสาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะนักข่าวและช่างภาพไปรายงานข่าวเท่านั้น จึงต้องพิจารณาดูข้อเท็จจริงว่าทั้งสองคนถูกจับกุมเพียงเพราะแค่ไปรายงานข่าวจริงหรือไม่ เพราะถือเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก


นายพริษฐ์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้ขัดต่อหลักการสำคัญในการทำงานของสื่อมวลชนที่ว่าการรายงานข้อเท็จจริงไม่ได้เท่ากับสนับสนุนการกระทำที่เป็นเนื้อหาสาระสำคัญของข่าว และเสรีภาพของสื่อมวลชนก็เป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย


แต่ถ้าดูจากการวัดระดับเสรีภาพของสื่อมวลชนประเทศไทย เมื่อเทียบกับทั่วโลกใน World Press Freedom Index 2023 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ร้อยกว่าจากสองร้อยประเทศที่มีการวัดผล ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีมากนัก และหากเหตุการณ์จับกุมสื่อมวลชนมีเหตุผลตามที่คาดการณ์กันจริง ก็จะยิ่งทำให้เสรีภาพสื่อยิ่งถดถอย


ในส่วนของพรรคก้าวไกลเอง นางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองโฆษกพรรคก้าวไกล ที่รับผิดชอบในประเด็นสื่อมวลชน และเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนรวมของประชาชน ด้วย ก็จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ กมธ. ในวันพฤหัสบดีนี้ และอาจเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อหาทางออก


ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าการดำเนินคดีครั้งนี้ คือการใช้กฎหมายปิดปาก เพื่อสร้างความหวาดกลัวในการนำเสนอข่าว นายพริษฐ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะสื่อมวลชนมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการรายงานข้อเท็จจริงทุกเหตุการณ์ และเป็นการรับประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนด้วยการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างครบถ้วนรอบด้าน


"แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่สื่อมวลชนต้องหวาดระแวง ระมัดระวัง ในการทำหน้าที่รายงานข้อเท็จจริงก็ถือเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงมากต่อประชาธิปไตยของประเทศไทย และหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น ขอให้รัฐบาลรีบสืบค้นข้อเท็จจริงและหาทางแก้ไขโดยด่วน" นายพริษฐ์ กล่าว


สำหรับกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติเตรียมเสนอญัตติด่วน เกี่ยวกับการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของขบวนเสด็จฯ ในวันพรุ่งนี้นั้น นายพริษฐ์ ระบุว่า ต้องมาดูรายละเอียดของญัตติก่อน ว่าที่มาที่ไปของเหตุผลในการประกอบญัตติเป็นเช่นไร แต่โดยเบื้องต้น เห็นว่าเป็นประเด็นที่มีความแตกต่างกันทั้งในและนอกสภาฯ และเป็นหัวข้อที่ละเอียดอ่อน ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่ถูกนำมาพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา และมีเหตุมีผล จากตัวแทนที่มีความคิดเห็นแตกต่างหลากหลาย ในพื้นที่ของสภาผู้แทนราษฎร


อย่างไรก็ตาม นายพริษฐ์ คาดการณ์ว่าญัตติดังกล่าว ประกอบด้วยสองโจทย์

1. จะออกแบบมาตรการเรื่องขบวนเสด็จฯ อย่างไรเพื่อหาสมดุล ระหว่างการรักษาความปลอดภัย ควบคู่กับความพยายามลดผลกระทบที่อาจจะมีต่อประชาชนผู้สัญจรไปมา

2. เป็นโจทย์ที่กว้างกว่า คือการจะบริหารความขัดแย้งในสังคมอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง หรือขยายช่องว่างทางความเข้าใจและความคิดที่แตกต่าง ด้วยกระบวนการประชาธิปไตย ส่วนตัวมองว่าสิ่งสำคัญเร่งด่วนที่สุดตอนนี้ คือไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคม


เมื่อถามว่าการกระทำของกลุ่มนักกิจกรรม มองว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ นายพริษฐ์ ตอบว่าหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้เคยตอบเรื่องนี้ไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าความเห็นที่แตกต่างในสังคมเป็นเรื่องปกติ และสังคมจะมองทั้งเนื้อหาสาระที่มีการเรียกร้องและวิธีการเรียกร้องควบคู่กันไป แต่ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่กับเนื้อหาสาระและวิธีการ เราจำเป็นต้องไม่ยึดหลักการใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหา เพื่อหาทางคลี่คลายผ่านความเห็นที่แตกต่างผ่านกระบวนการสันติวิธีให้ได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ