สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 13 ก.พ.67 นายกฯ แจงปมยาบ้า 5 เม็ด-เซเลบสาวแจ้งจับไฮโซหนุ่มขืนใจ-พ่อเลี้ยงโต้ทำร้ายเด็ก14

โดย thichaphat_d

13 ก.พ. 2567

40 views

1.เซเลบสาวแจ้งจับหนุ่มไฮโซลูกนักการเมืองดัง ล่อลวงพยายามขืนใจ

เซเลบสาววัย 25 ปี แจ้งความดำเนินคดีลูกชายนักการเมืองดัง ยึดโทรศัพท์ ถือโอกาสตอนเมา หลอกว่าจะพาไปหาแฟนหนุ่มอีกร้าน แต่กลับพาไปบ้านพัก ฉุดกระชากพยายามบังคับข่มขืนใจ ฝ่ายหญิงวิ่งหนีออกจากบ้านถึง 3 รอบ แต่ยังถูกลากตัวกลับไปไม่มีใครช่วย สุดท้ายเจอเด็กชายวัย 13 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา เข้าช่วยเหลือ จึงรอดมาได้ ยืนยันจะเอาเรื่องฝ่ายชายให้ถึงที่สุด

ขณะที่ตำรวจออกหมายเรียกฝ่ายชายให้มารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย / หน่วงเหนี่ยวกักขัง และอนาจาร ส่วนอภิชัย เตชะอุบล โต้กลับ ทุกเรื่องไม่เป็นความจริง ยอมรับเป็นคนเอาโทรศัพท์ไปคืนฝ่ายหญิง เพราะเจอถูกทิ้งไว้ในห้อง เตรียมเปิดหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ของลูกชายและดำเนินคดีกลับ ชี้อีกฝ่ายเป็นแก๊งทำลายชื่อเสียง

2. พ่อเลี้ยงโต้ ไม่ได้ทำร้ายเด็กชายวัย 14 เผยเด็กป่วยจิตเวช ชอบกุเรื่อง

กัน จอมพลัง พาเด็กชายวัย 14 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยง ทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำ จนต้องหนีออกจากบ้าน ไปหาปู่ที่บวชพระอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ พ่อแท้ๆ ออกจากคุกจึงตามหาลูกจนพบ โผกอดทั้งน้ำตา หลังทราบชะตากรรมของลูก

ด้านพ่อเลี้ยง ยืนยันไม่เคยทำร้ายร่างกายเด็กเลยสักครั้ง บาดแผลทั้งหมดเกิดจากเด็กทำร้ายตัวเอง หนีออกจากบ้านบ่อยครั้งเพราะอยากใช้ชีวิตอิสระ จนถูกขอทานเจ้าถิ่นทำร้าย เคยรักษาจิตเวชเมื่ออายุ 5 ขวบ แต่ไม่ยอมกินยา มีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ ชอบกุเรื่อง ทำร้ายตัวเอง ตอนนี้ครอบครัวเลี้ยงไม่ไหวแล้ว หากพ่อแท้ๆ อยากได้กลับไปเลี้ยง ก็ยินดี

3. นาทีเฉียดตาย หนุ่มซิ่งกระบะเสียหลักฟาดราวเหล็ก

เร็ว เกินต้านทาน หนุ่มซิ่งกระบะจนฝุ่นตลบ บนถนนเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี เกือบพุ่งใส่พนักงานร้านขายรถจักรยานยนต์ริมทางแบบเฉียดฉิว ต้องพากันกระโดดหนีตายกันชุลมุน ส่วนกระบะต้นเหตุ เสียหลักไปฟาดกับราวเหล็กกั้นร่องเกาะกลางถนน ทำคนขับกระเด็นออกจากรถ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถยังไม่สิ้นฤทธิ์ หมุนคว้างกลางถนนแล้วไถลไปพุ่งชนบ้านประชาชน เสาหัก ประตูกระจกแตก ท่อประปาพัง

ตำรวจคุมตัวคนขับกระบะวัย 29 ปี ส่งโรงพยาบาล เตรียมตรวจแอลกอฮอล์ในร่างกาย เพื่อดำเนินคดี พร้อมให้เจ้าของบ้านและตัวแทนกรมทางหลวง มาแจ้งความเพื่อให้คนขับกระบะชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

4. ศาลจำคุก 5 ตำรวจ ตม. 15 ปี คดีอุ้มนักธุรกิจจีน

ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาคดี 5 ตำรวจตม.และ 1 พลเรือนคนชี้เป้า / รีดเงิน 2 ชาวจีน 10 ล้าน / แลกไม่ดำเนินคดีเป็นบุคคลต่างด้าว มีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทยโดยมิชอบ จำคุก 5 ตำรวจฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน 15 ปี และพลเรือนฐานเป็นผู้สนับสนุน เป็นเวลา 10 ปี

5. พยายามขั้นสุด หนุ่มตระเวนขโมยชุดชั้นในมานาน 20 ปี สะสมได้ 588 ตัว

หนุ่มวัย 38 ตระเวนขโมยชุดชั้นในผู้หญิงมานาน 20 ปี สุดท้ายจนมุม หลังตำรวจสืบจากกล้องวงจรปิด เจอตัวคนร้ายชัดเจน ตามจับได้คาห้องพัก พร้อมของกลางกองเป็นภูเขา ทั้งกางเกงใน เสื้อชั้นใน รวม 588 ตัว สารภาพก่อเหตุมาตั้งแต่อายุ 18 ปี เพราะชื่นชอบชุดชั้นในผู้หญิง กลางวันทำงานก่อสร้าง กลางคืนออกล่าชุดชั้นใน เอามาทำอนาจารแล้วสะสมไว้ ก่อนพบ 10 ปีก่อนเคยถูกจับ แต่ยังไม่สำนึก ก่อเหตุซ้ำ ล่าสุดสัญญา หากพ้นโทษจะเลิกพฤติกรรมแบบนี้

6.นายกฯ แจงปมยาบ้า 5 เม็ด หากไม่เหมาะสมเปลี่ยนได้

นายก แจงดรามา 5 เม็ด บอกลองดูก่อน หากไม่เหมาะสมพร้อมเปลี่ยนแปลงใหม่ ลั่นเดินหน้าแก้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ชี้ จะ 5 เม็ดหรือเม็ดเดียวไม่ควรมี ก่อนระบุว่ากฎหมายมีการแก้ไขปรับปรุงตลอดเวลา หมอชลน่าน แถลงเดือดจวกอินฟลูเอนเซอร์เข้าใจคลาดเคลื่อน ทำคลิปมียาเสพติดไม่ผิดกฎหมาย จนคนในสังคมเข้าใจผิด ยืนยันยาเสพติดกี่เม็ดก็ผิดกฎหมาย กำหนดปริมาณเพื่อให้ผู้เสพสามารถเข้ารับการบำบัดเป็นบทลงโทษ

7. ผบ.ตร.ขอ 2 วันรวมหลักฐานแจ้งข้อหา-ถอนประกัน

บิ๊กต่อ ขอเวลา 2 วัน รวมหลักฐานแจ้งข้อหากลุ่มทะลุวัง พร้อมขอถอนประกัน เชื่อ มีขบวนการในประเทศหนุนหลัง ส่วนจะเป็นนักการเมืองหรือไม่ ยังไม่ขอเปิดเผย ขอเวลาอีก 2 วัน จะแจ้งข้อหาและออกหมายจับแน่นอน พร้อมเตรียมพิจารณาถอนประกันตัวด้วย ยืนยันตำรวจทำคดีอย่างละเอียดรอบคอบ

ด้านบิ๊กโจ๊ก เตรียมพิจารณาใช้มาตรา 116 กับกลุ่มพยายามคุกคามสถาบัน ในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยอมรับกับพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ ขณะที่ตะวันพร้อมพวกยื่นหนังสือ ขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาคดีขวางขบวนเสด็จ อ้างติดเรียนมาพบตามนัดเมื่อวานนี้ไม่ได้ ล่าสุด 3 สน. ปทุมวัน นางเลิ้ง สำราญราษฎร์ ยื่นอัยการขอศาลเพิกถอนการประกันตัวแล้ว



เรื่องเล่าการเมือง

-นักเรียนนายร้อย จปร. จัดกิจกรรม ถวายพระพรชัยมงคล "กรมสมเด็จพระเทพรัตนฯ"


บรรยากาศนักเรียนนายร้อย จปร. และบุคคลากร กว่า 1600 คน ได้จัดกิจกรรมถวายความจงจักภักดี ในพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

กิจกรรมจัดขึ้น เมื่อวานนี้ ที่หอประชุม โรงเรียนนายร้อย จปร. มีนักเรียนนายร้อย จปร. / ศิษย์เก่า / ข้าราชการ / ส่วนราชการในจังหวัดนครนายก และโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง เข้าร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของ พลเอกหญิงสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุุดา สยามบรมราชกุมารี

มีกิจกรรมอาเศียรวาทถวายพระพรชัยมงคล / การอ่านทำนองเสนาะถวายพระพร / การทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย แจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ และร่วมกันขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนจะเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ ดังกึกก้อง

พันตรีวิสิทธิ์ เสนารักษ์ ทหารประสานงานเส้นทางเสด็จถนนสายจงรักภักดี ระบุถึง วัตถุประสงค์การจัดงาน 3 ข้อ ข้อแรก คือ เพิ่มยาชูกำลังที่จะถวายให้พระองค์ท่าน โดยช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ปรากฏทางโซเชียลมีเดียด้วย



-นายกฯ ย้ำการอารักขาขบวนเสด็จ เป็นเรื่องสำคัญ เตือนไม่ควรมีใครให้ท้ายกลุ่มป่วน

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น กับขบวนเสด็จจนสร้างความไม่สบายใจกับทุกฝ่าย เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันว่า ความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด และไม่ควรมีใครให้ท้าย กับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พูดถึงการหารือกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการอารักขาขบวนเสด็จ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องให้การดูแลบุคคลสำคัญ และกำชับให้สำนักงานข่าวกรอง ดูแล ไม่ให้มีการปะทะกันเกิดขึ้น อยากให้ประเทศอยู่กันด้วยความสามัคคี

เรื่องที่เกิดขึ้นต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ขอวิงวอนเรื่องของการใช้ความรุนแรง เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ และยืนยันว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วย

โดนได้เน้นย้ำกับ ผบ.ตร. ว่า ต้องระมัดระวังไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความปลอดภัยของ ราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนประเด็นที่พรรคก้าวไกล มองว่าเป็นความคิดเห็นทางการเมือง ควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรม นายกรัฐมนตรี บอกว่า ตนไม่เคยมองไปไกลขนาดนั้น และไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของการเมืองด้วย เราต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีผู้ใหญ่ให้ท้าย อยากจะขอความร่วมมืออย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี บอกว่า “ไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่ที่ไหนให้ท้าย แต่เรื่องนี้ไม่ควรมีใครให้ท้าย ไม่ควรมีขบวนการอยู่ข้างหลัง"



-ก้าวไกล ปัดอยู่เบื้องหลังกลุ่มทะลุวัง หนุนใช้สภาหาทางออก

ส่วนอีกด้าน สส.พรรคก้าวไกล ที่เป็นอดีตนักกิจกรรมทางการเมือง ก็ออกมาแสดงความเห็นต่อกรณีการกระทำของตะวัน และการปะทะกันของ 2 ฝ่ายจากกรณีดังกล่าว โดยนายรังสิมันต์ โรม ย้ำว่าพรรคก้าวไกล ไม่ได้อยู่เบื้องหลังใคร

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พูดถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกล เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุวัง โดยย้ำว่าการเป็นนายประกัน เพื่อให้สิทธิบุคคลเหล่านั้นในการต่อสู้คดีตามกฎหมาย ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไปประกันตัวจะเห็นด้วยกับการกระทำ

และยืนยันว่าพรรคก้าวไกล ไม่ได้อยู่เบื้องหลังใคร และไม่มีใครอยู่หลังเรา แต่พรรคมีจุดยืนเรื่องสิทธิเสรีภาพ และการแสดงความคิดเห็น ซึ่งไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง เพราะเป็นการสร้างสังคมแห่งความหวาดกลัว อย่างที่ประเทศไทยมีบทเรียนมาแล้ว

ขณะที่โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคก้าวไกล และ อดีตแกนนำกลุ่มวีโว่ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า "กรณีเรื่องขบวนเสด็จที่ลุกลาม ผมคิดว่าในฐานะ สส. ควรใช้พื้นที่สภา เพื่อหยุดสถานการณ์อันนำไปสู่การไล่ล่า การคุกคาม และข่มขู่ ประชาชนผู้คิดต่างกัน โดยผมจะปรึกษาหารือกับประธานสภาฯ ไปถึงนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 15 ก.พ.นี้"

ด้าน น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก เนื้อหาโดยรวม ระบุกรณีที่สส.จากหลากหลายพรรค ตำหนิ ไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์แสดงออกของตะวันต่อขบวนเสด็จ

ก็บอกว่า "หน้าที่ของผู้แทนราษฎร คือ การสร้างสมดุลทางอำนาจระหว่างประชาชนกับรัฐผ่านการตรวจสอบถ่วงดุล รวมถึงสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ปชช. ไม่ใช่การพิพากษาตัดสิน ด่วนสรุป หรือชี้ถูกชี้ผิด และต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าการกระทำนั้นผิดกฎหมาย

มิเช่นนั้นแล้ว การแสดงความเห็นเหล่านั้น ก็จะเป็นเพียงการดับเทียนไขให้บรรยากาศแห่งความกลัวในการแสดงออกทางความคิดของประชาชนยิ่งมืดดับขึ้นไปอีก หนำซ้ำยังเป็นการเปิดช่องและสร้างความชอบธรรมให้รัฐใช้กฎหมายเป็นนิติสงครามคุกคามประชาชนอยู่ร่ำไป”



-นายกฯ แถลงคืบหน้าแก้หนี้ ย้ำต้องจบในรัฐบาลนี้

ขณะที่อีกความเคลื่อนไหวของนายกฯเมื่อวานนี้ ได้นำแถลงข่าวคืบหน้าในการแก้หนี้ทั้งระบบ ที่สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า 57% มูลหนี้ลดลงกว่า 670 ล้านบาท ก็ย้ำว่าต้องแก้ให้จบในรัฐบาลนี้

เมื่อวานนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้นำแถลงผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ ที่ทำเนียบ ก็ได้รายงานความคืบหน้า ซึ่งกำหนดว่า เป็นวาระแห่งชาติ

นายกฯ ได้แจกแจงตัวเลข ตั้งแต่ตัวเลขผู้มาลงทะเบียนทั้งหมด / มูลหนี้ / จนถึงจำนวนที่ไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว ซึ่งคิดเป็น 57 เปอร์เซ็นต์ของยอดการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ทำให้มูลหนี้ลดลงกว่า 670 ล้านบาท แต่ย้ำว่า ยังมีภารกิจที่ท้าทายที่รัฐบาลต้องทำต่อไป และต้องทำเรื่องนี้ให้จบให้รัฐบาลนี้

ขณะที่ช่วงหนึ่ง นายกฯ ได้พูดถึงบทบาทของธนาคารรัฐ ว่า "อยากให้นำเงินกลับไปช่วยเหลือพี่น้องที่ยากลำบากมากกว่ากอดผลกำไรไว้ ขณะที่หลายครอบครัวกำลังทนทุกข์กับหนี้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายกำหนด"


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/fsoIqM_ptkU


คุณอาจสนใจ

Related News