สังคม

แค่มองหน้า? นักเรียนม.3 ถูกวัยรุ่นขี่จยย.ประกบคว้ามีดแทงสาหัส

โดย attapan_n

10 ก.พ. 2567

1.2K views

วันที่ 10 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต๊กตึ๊ง จุดแยกไทรม้า ได้โพสต์เรื่องราวเด็กวัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาขอความช่วยเหลือ หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นขับรถจยย.ตามประกบ และใช้มีดจ้วงแทงถูกที่แขนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 67 ตรวจสอบผู้บาดเจ็บคือนายแฮม (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และนายน๊อต (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี โดยนายแฮม มีอาการบาดเจ็บถูกแทงเข้าที่โคนแขนด้านขวา เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันปฐมพยาบาลทำแผลเบื้องต้น ก่อนนำส่งต่อไปรักษาที่รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์ บางใหญ่

ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. ทีมข่าวเดินทางไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุพบว่าอยู่บนถนนนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี มุ่งหน้าไปทางสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งเด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บได้ขับรถย้อนกลับมาขอความช่วยเหลือจากร้านซ่อมรถจักรยายนต์ พบรอยคราบเลือดตกอยู่ที่พื้นหลายจุด โดยทางช่างซ่อมให้ข้อมูลว่า น้องขับรถเข้ามาสองคนสภาพเลือดโชกตัว เข้ามาขอความความช่วยเหลือ และพยายามแอบกลัวถูกคู่กรณีตามมาทำร้าย หลังจากเห็นว่าปลอดภัยน้องก็ขับรถออกไป

จากนั้นผู้สื่อเดินทางเข้าพบ น.ส.ก้อย (นามสมมุติ) มารดาของ ด.ช.แฮม (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนมัธยมชื่อดัง เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย ด.ช.แฮม ผู้บาดเจ็บยังนอนรักษาตัวอยู่ในรพ.ให้ข้อมูลว่า ตนไปซื้อของที่ตลาดนกฮูก หลังจากซื้อเสร็จได้ขับรถจยย.เพื่อจะกลับบ้านขณะขับรถออกมาสังเกตเห็นเหมือนมีคนขับตามออกมา เมื่อรถจยย.มาใกล้เขาตะโกนบอกให้ตนจอดแต่พวกตนไม่จอด และได้ขับรถหนี ซึ่งเพื่อนในกลุ่มของตนถูกคนร้ายที่ขับตามมาเอาหมวกแก๊ปไปด้วย

ส่วนตนขับแยกออกมา 1 คัน คนร้ายได้ขับรถตามรถตนมา 2-3 คันซึ่งตนไม่รู้จักกลุ่มคนร้าย จนกระทั่งมาถึงหน้ากระทรวงพาณิชย์ คนร้ายได้บอกให้จอดอีกแต่ตนไม่จอด คนร้ายเลยใช้มีดแทงตน พอเขาแทงเสร็จได้ขับหนีไป ตนก็ขี่รถจยย.กลับเพื่อไปหาโรงพยาบาลแต่ก็หาโรงพยาบาลไม่เจอ ตนไปตลาดนกฮูกครั้งนี้เป็นครั้งที่2 ก่อนหน้านั้นตนไม่ได้เคยไป และไม่มีเรื่องหรือมองหน้าใคร ไม่ทราบว่าพวกเพื่อนตนไปมีเรื่องมองหน้าใครหรือเปล่า เพราะพวกเพื่อนก็ไม่ได้บอกอะไรให้ทราบ

ด้านนางก้อย (นามสมมุติ) กล่าวว่า ลูกตนขอบอกว่าเลิกเรียนจะไปตลาดนกฮูก ตนก็เลยบอกว่ารอด้วยแม่จะไปด้วย แต่เพราะตนยังติดธุระอยู่จนกระทั่งเขาออกไปเวลาประมาณ 19.00 น. ก็เลยถามลูกว่าจะกลับกี่โมง จึงบอกลูกว่าต้องกลับถึงบ้านไม่เกิน 22.00 น. และตนเองก็ดู GPS ลูกตลอดว่าอยู่ตรงไหนทำอะไรและคุยกันเป็นระยะ ลูกอยู่ตลาดก็ถ่ายรูปให้ดูว่ายังดูเสื้ออยู่ที่ตลาด ยังส่งข้อความมาบอกแม่ขอตังค์หน่อยจะซื้อเสื้อ ก็เลยโอนตังค์ให้ไป

จนกระทั่งเวลา 22.20 น.ลูกยังไม่ถึงบ้านก็เลยดู GPS และคุยแชทถามลูกว่าจะกลับบ้านเมื่อไร จากนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามา เป็นเบอร์ลูกชาย แต่เพื่อนเป็นคนโทรมาบอกว่าแม่ใจเย็นๆก่อนนะ แม่อย่าเพิ่งว่าอะไรนะ ลูกชายโดนแทง ตนก็ตกใจจึงถามไปว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนเป็นอะไรบ้าง เขาบอกว่าตอนนี้อยู่กับกู้ชีพแล้ว ตนเลยบอกว่าให้กู้ชีพพาส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด จากนั้นตนก็มารอลูกที่โรงพยาบาล ทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าจะเกิดกับลูกของตนเอง เพราะกล้าพูดได้เต็มปากว่าลูกไม่ใช่เด็กเกเร ตนเลี้ยงมาเองกับมือ ไม่ใช่เด็กช่างไม่ใช่เด็กเกเรลูกชายเรียนห้อง English program เรียนวิทย์ - คณิตไม่ได้เกเร ไม่เคยมีปัญหากับใคร ส่วนเรื่องของคดีก็ปล่อยให้ตำรวจเป็นคนจัดการ เพราะตำรวจบอกว่าขอเวลาไม่เกินวันอังคาร กำลังไล่กล้องตรวจสอบอยู่ แต่ตนบอกเลยว่าไม่ยอมแน่นอน ต้องติดคุกอย่างเดียว เพราะแผลลูกชายถูกแทงลึกมาก ลึกไปถึงกระดูก มาถึงโรงพยาบาลเลือดยังไม่หยุดไหลเลย หมอต้องเอาเข้าห้องผ่าตัดเอกซเรย์ 2 รอบ

เรื่องนี้ตนไม่ยอม ให้ตายก็ไม่ยอม ตนกำลังจะเอาลูกไปเรียนเพื่อสอบโรงเรียนเตรียมทหาร ก็เลยกลัวห่วงเรื่องนี้มากเพราะลูกถูกแทงบริเวณกล้ามเนื้อด้านขวาของแขนด้วย ซึ่งตนก็ได้สอบถามหมอจะมีผลไหมหมอก็บอกขอเวลาสัก 2-3 เดือน เพื่อให้กล้ามเนื้อฟื้นฟู แต่บาดแผลไม่ได้โดนเส้นอะไร เพราะแผลตรงต้นแขนขวาเป็นช่วงกล้ามเนื้อไม่มีเส้นเอ็น แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงว่าลูกชายจะหมดสิทธิ์ ตรงที่ว่าช่วงนี้เพื่อนสอบกันหมดแล้ว ลูกชายก็ต้องรอเวลาไปอีกถึงจะได้เรียน ตนจึงบอกว่าเรื่องนี้ไม่ยอม ให้ตายก็ตนไม่ยอมเด็ดขาด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังเกิดเหตุได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี หารูปพรรณคนร้ายและรถจยย. เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ