เปิดนาทีกลุ่มทะลุวังชกต่อยกับกลุ่มศปปส. - นายกฯ ลั่นถึงขั้นตอนดูแลขบวนเสด็จ เป็นเรื่องสำคัญ

เกิดเหตุกลุ่มทะลุวัง ได้ชกต่อย กับกลุ่มศูนย์รวมประชาชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. โดยเกิดขึ้นที่บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าสยาม ซึ่งในวันนี้กลุ่มทะลุวัง และนักกิจกรรมอิสระ นำโดย นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ จัดกิจกรรมโพลขบวนเสด็จฯ

ขณะเดียวกัน ศปปส. นัดรวมกลุ่มแสดงความไม่พอใจกับกิจกรรมดังกล่าว จนมีปากเสียงและชกต่อยกันขึ้น


เหตุการณ์ชุลมุนนานกว่า 20 นาที แม้ว่าก่อนหน้านี้ ตำรวจ สน.ปทุมวัน จะมีการตรึงกำลัง และเจ้าหน้าที่ของทางห้างฯ จะมีการนำรั้วเหล็ก มากั้นไว้เพื่อป้องกันทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุขึ้น



ต่อมานางสาวทานตะวัน และมวลชน เดินทางมารวมตัวที่หน้า สน.ปทุมวัน และได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่ระหว่างนั้นก็เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย เพราะมีมวลชนเข้าไปหวิดปะทะกับตำรวจนอกเครื่องแบบเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่ม ศปปส.แต่ตำรวจได้เข้าห้ามปรามได้ทัน



ต่อมากลุ่ม ศปปส. ก็เดินทางเข้ามาที่ สน.ปทุมวันด้วยเช่นกัน ทำให้ตำรวจ ได้มีการนำแผงเหล็กมาปิดหน้าทางเข้าออกสน. และตรึงกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยไว้

นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่ม ศปปส. เปิดเผยว่ากลุ่ม ศปปส. ไปเพื่อสังเกตการณ์ และไม่ได้อยากใช้ความรุนแรง แต่ไม่เห็นด้วยกับการทำกิจกรรมของกลุ่มทะลุวัง และยังจงใจมาจัดกิจกรรมที่สยามพารากอนหลายรอบ



เหตุการณ์ครั้งนี้ตนกับพวกรวม3 คน ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนี้จะไปแจ้งความที่ สน.บางรัก เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มทะลุวัง

ขณะที่นางสาวทานตะวัน กล่าวภายหลังแจ้งความเสร็จสิ้นว่า ขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ขอยืนยันว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามและแสดงออก แต่การที่ตนเองจัดทำโพลในครั้งก่อน กลับถูกดำเนินคดี ม.112 และยังถูกตอบโต้ด้วยความรุนแรงในวันนี้ซึ่งกลุ่มของตนได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 12 คน

มีรายงานว่านอกจากผู้ชุมนุม 2 กลุ่มจะได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังมี สิบตำรวจโทวิภพ ทองประเทือง ผบ.หมู่กลุ่มงานสืบสวน บก.น. 6 ได้รับบาดเจ็บคิ้วข้างขวาแตกด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ กล่าวถึงการปะทะกันระหว่างกลุ่มทะลุวังกับ ศปปส. ว่า มายังไม่ทราบเรื่อง



เมื่อถามว่า มีการปะทะกันกลางศูนย์การค้าสยามพารากอน และเหมือนเป็นการขัดแย้งระหว่างผู้รักสถาบันกับกลุ่มทะลุวัง นายเศราฐา กล่าวว่า คิดว่าควรจะพูดคุยกันดีๆ ไม่น่าจะใช้กำลัง เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ดี และวันนี้เป็นวันปีใหม่ เป็นวันที่มีการท่องเที่ยว ในสายตาต่างชาติก็อาจจะมองไม่ดี ควรที่จะมีการระมัดระวังให้ดี หลังจากนี้จะสอบถาม ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร



เมื่อถามว่าจำเป็นต้องกำชับฝ่ายความมั่นคงหรือไม่เ พราะมันกลายเป็นการปะทะกันระหว่างผู้เห็นต่าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเรื่องของความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย รวมถึงประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องสำคัญที่สุด อยากให้บรรยากาศที่มีความขัดแย้งพูดจากันได้ในพื้นที่ปลอดภัย



เมื่อถามว่ากลุ่มที่เห็นต่าง เขาไม่พอใจที่ "ตะวัน" ก่อกวนขบวนเสด็จ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันมีขั้นตอนในการที่จะปกป้องดูแลผู้นำของประเทศ และพระราชวงศ์ ในเรื่องของขบวนเสด็จ ก็ควรที่จะต้องทำตามกฎ



เมื่อถามว่า การกำชับเจ้าหน้าที่แล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ก็กำชับมาตลอด"

ด้าน “พิธา” ย้ำจุดยืน “กังวลใจ แต่เข้าใจ” ปม “ตะวัน” วอนสังคมตั้งสติหาทางออกร่วมกัน ชี้ยิ่งผลักออกไปไม่เป็นผลดี สร้างความแตกแยก ย้ำเป็น ”นายประกัน“ คนละเรื่อง ต้องแยกออกเป็นกรณี ยันไม่ได้สนับสนุนอย่าเหมารวม





นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่เป็นนายประกันให้ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน นักกิจกรรมทางการเมืองว่า ตนคิดว่าไม่สำคัญ ในฐานะที่เป็นนักการเมืองและคนไทยคนหนึ่ง ก็กังวลถึงสถานการณ์บ้านเมือง และอนาคตของคนรุ่นใหม่ด้วย จึงอยากเชิญชวนทุกคนตั้งสติ เข้าใจว่ามีหลายฝ่ายไม่สบายใจ กังวลใจ และต้องการความเข้าใจ ตนก็อยากให้ทุกฝ่ายคลี่คลายสถานการณ์ไม่ให้แตกร้าวไปมากกว่านี้



อีกทั้งมองว่า การผลักเยาวชนคนรุ่นใหม่ออกไป ไม่น่าจะเป็นผลดีต่อภาพรวม ตนอยากจะให้ร่วมมือกัน หาทางออก ยํ้าว่าไม่อยากให้เกิดความรุนแรงไปมากกว่านี้



เมื่อถามต่อว่า กรณีที่ส.ส.พรรคก้าวไกล หรือนายพิธา มีการประกันตัวให้กับนักกิจกรรมซึ่งอาจถูกมองว่า เป็นการสนับสนุน นายพิธากล่าวว่า คงไม่ได้เป็นการสนับสนุน เพราะแม้จะเป็นนายประกันตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสนับสนุน จำเป็นที่จะต้องแยกเป็นกรณีไปไม่สามารถเหมารวมได้ แต่มองว่าควรจะใช้ความละมุนละม่อม หาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่เป็นการผลักใครคนใดคนหนึ่งออกไปให้แตกแยกขึ้นกว่าเดิม



เมื่อถามว่า หลายฝ่ายเรียกร้องให้นายพิธา ดูแลตะวันและแบม เช่นวันนี้ที่เกิดความรุนแรงหลังทั้ง 2 คนปรากฎตัวที่สยาม และมีการปะทะกับกลุ่มศปปส. นายพิธา ย้ำว่า เรื่องนี้ขอให้คนไทยทุกคนช่วยกันตั้งสติ อยากให้ทุกภาคส่วนช่วยกันหาทางออกไม่ให้เกิดความขัดแย้ง



เมื่อถามย้ำว่า จุดยืนของนายพิธา ต่อการกระทำของ น.ส.ทานตะวัน เป็นอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า "กังวลใจ แต่เข้าใจ"



เมื่อถามว่า จะมีการยื่นประกันตัวกลุ่มเยาวชนคดี มาตรา 112 หรือไม่ เพราะในพรรคก้าวไกล ก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยก สิทธิในการประกันตัว ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน ส่วนการอารักขาบุคคลสำคัญของประเทศ ก็เป็นอีกเรื่อง แต่การแสดงออกก็เป็นอีกเรื่องเช่นกัน อย่าไปผูกรวม จะทำให้การแก้สถานการณ์ไม่ได้ และแตกแยก ไม่เป็นผลดีต่อสังคมไทย