กต.ประสานทางการเมียนมา เร่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมตามแนวชายแดน

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมผลักดันการค้าชายแดนไทย เมียนมา ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หวังสถานการณ์ในเมียนมาสงบ และห่วงปัญหาอาชกรรมคอมพิวเตอร์ และค้ามนุษย์ ที่เป็นภัยคุกคามใหม่ เตรียมหาความร่วมมือระหว่างประเทศ



เมืองชเวก๊กโก่ ในรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมากำลังขยายตัวมากขึ้นมีการสร้างอาคารใหม่อีกหลายแห่ง โดยนักลงทุนจีน และเป็นพื้นที่ที่มีการร้องเรียนขอความเช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์และถูกหลอกลวงไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ซึ่งล่าสุด พบว่ามี 80 คน เป็นต่างชาติ และคนไทย 8 คน ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง กำลังดำเนินการส่งกลับประเทศไทย



นายปานปรีย์ ยอมรับว่า ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดนไทย​-เมียนมา ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไข ถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ไม่สามารถละเลยได้ จนทำให้ปัญหาคาสิโนกลายเป็นเรื่องเล็ก ไทยจะต้องปราบปรามอย่างจริงจัง โดยจะทำงานร่วมกับประเทศที่เกี่ยวข้อง เพราะมีต่างชาติอยู่ด้วยจำนวนมาก โดยเฉพาะในระดับพื้นที่หากพบมีผู้สนับสนุนการกระทำที่ผิดกฏหมายก็ต้องหยุดยั้ง



นายปานปรีย์ ยอมรับว่าหลังจาการปราบปรามการค้ามนุษย์ในเมืองเล่าก์ก่าย ทางรัฐฉานเหนือ และพบว่ามีแหล่งที่กระทำการในลักษณะเดียวกันใเนมือง ชเวก็กโก่ ฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก แต่พบว่ามีคนไทยลดลงเพราะหวาดกลัวที่จะถูกหลอกลวงมากขึ้น แต่มีต่างชาติ ที่พบว่าเดินทางมาไกล แต่ไม่ได้ใช้ไทยเป็นทางผ่าน และกำลังสร้างปัญหาให้เมียนมาเช่นกัน จึงเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันปราบปราม



นายปานปรีย์ ได้ลงพื้นที่ตลาดริมเมย อ.แม่สอด ซึ่งผู้ประกอบการได้ขอให้ปรับภูมิทัศน์จุดเชคอิน สุดประจิมที่ริมเมย เพราะเป็นแลนด์มาร์คการท่องเที่ยว และอยากให้รัฐส่งเสริมการค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแม่สอด เช่นพลยทับทิมซึ่งซบเซาตั้งแต่สถานการณ์โควิดและการสู้รบ จึงคาดหวังให้เมียนมาเกิดความสงบเพื่อการส่งเสริมการค้าชายแดน



อีกหนึ่งเมืองใหม่ที่กลุ่มธุรกิจจีนเทา ได้มาสร้างอาณาจักร คือที่ เคเคปาร์ค ซึ่งมองจากฝั่งไทยสามาถเห็นอาคารต่างๆได้ชัด และมีขนาดใหญ่มาก จากการตรวจสอบพบว่า มีการขยายจาก เคเคเปาร์ค 1 ไปถึงเคเคปาร์ค 4 กินเนื้อที่นับพันไร่ และยังมีเขตเศรษฐกิจของกลุ่มทุนจีนไปตั้งในรัฐกะเหรี่ยง โดยการสนับสนุนของกองกำลังบีจีเอฟ อีกหลายแห่ง ไม่นับรวมถึงบ่อนคาสิโน ที่มีไม่ต่ำกว่า 30 แห่ง คาดว่าจะมีคนไปทำงานหลายหมื่นคน นอกจากคนไทย ยังมีต่างชาติทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินเดีย ซึ่งที่น่าตกใจพบว่ามีชาวเคนยา จากทวีปแอฟริกา รวมอยุ่ด้วยโดยมีรายงานว่า เคยได้รับการช่วยเหลือเพราะถูกหลอกลวงมาทำงานในเคเคปาร์ค ไม่ต่ำกว่า 20 คนแล้วจากจำนวนหลายร้อยคน นี่จึงเป็นภัยคุกคามใหม่ที่ไทยไม่อาจละเลยได้เพราะตั้งอยู่ติดชายแดนไทย และจะส่งผลกระทบโดยตรงกับไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้