รวบพระปลอมตระเวนเรี่ยไรเงินผ้าป่าชาวบ้าน พบไม่มีเอกสาร ตรวจปัสสาวะสีม่วง

ที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพระสงฆ์รูปหนึ่ง ที่มีการออกวางถังผ้าป่า เรี่ยไรเงินและมีการกำหนดมาเก็บถังคืน โดยระบุชื่อวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี


ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกับวัดที่โดนอ้าง พบว่าทางวัดไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการเรี่ยไรเอง ทั้งนี้ยังผิด พ.ร.บ.เรี่ยไร และข้อบังคับในพระธรรมวินัยเกี่ยวกับการเรี่ยไรเงินทำบุญ ทางคณะสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงมีมติให้วัดดังกล่าวหยุดการจัดงานทอดผ้าป่าไว้ก่อน


ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (1 ก.พ.67) พบว่าได้มีพระสงฆ์รูปหนึ่ง ตระเวนเก็บถังผ้าป่าอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ขุนทะเล พร้อมอาสาสมัครกู้ภัย พระวินยาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักพุทธศาสนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว นายพยอม อายุ41ปี ชาวอำเภอบางระจันทร์ จังหวัดสิงห์บุรี ในขณะที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ไว้ได้ พร้อมกับหญิงวัยกลางคนอีก 2 ราย


โดยทั้งสามได้ขับขี่รถยนต์ โตโยต้า สีดำ ป้ายทะเบียนจังหวัดนครสวรรค์ ขณะที่กำลังแวะเก็บถังผ้าป่า ในพื้นที่ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยถังผ้าป่าใบฎีกาและเงินจำนวนหนึ่ง โดยเมื่อนายพยอม เห็นพระวินยาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางมาถึง ก็ได้เดินเข้าไปแสดงความเคารพ พร้อมทั้งได้กล่าวขอความเมตตาจากพระวินยาธิการไม่ให้เอาเรื่อง อ้างว่า เป็นพระบวชใหม่ไม่ถึง 1 พรรษา แต่พระวินยาธิการ ได้ตอบปฏิเสธพร้อมทั้งให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายพยอม ไปตรวจสอบเอกสารการบวช ที่สำนักงานเจ้าคณะตำบลขุนทะเล พร้อมทั้งระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการทำให้วงการสงฆ์เสื่อมเสีย


ในขณะที่นายพยอม อ้างว่า ตนได้บวชเป็นพระสงฆ์จริง เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2566 โดยมีพระรูปหนึ่งเป็นพระอุปปัชชา และบวชจากวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี แต่เมื่อพระวินยาธิการตรวจสอบไปยังวัดดังกล่าว เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้บวชให้ และเมื่อปี 2566 ไม่มีการบวชพระที่วัดนั้น และพระที่นายพยอมอ้างว่าเป็นพระอุปัชชา ท่านได้มรณภาพตั้งแต่พ.ศ. 2562


นอกจากนี้ที่ตัวนายพยอม ยังไม่มีหนังสือสุทธิ ซึ่งเป็นเอกสารยืนยันการบวช และจากการตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนราษพบว่า นายพยอมไม่เคยทำบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งหากบุคคลทำการบวชได้นั้น จะต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนและผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงจะได้รับการอนุมัติจากสำนักพุทธศาสนาให้บวชได้


ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้นายพยอมเปลี่ยนจากการห่มจีวร มาใส่เสื้อผ้าธรรมดา และตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด เมทแอมเฟตามีนอยู่ในปัสสาวะ จึงได้ควบคุมตัวนายพยอมส่งดำเนินคดีในข้อหา เสพสารเสพติด พร้อมทั้งข้อหาร่วมกันหลอกลวงประชาชน และพ.ร.บ.เรี่ยไร ดำเนินคดีพร้อมกับหญิงทั้งสองราย