สังคม

ผู้โดยสายร้อง เจอแท็กซี่โกงมิเตอร์ ขับไปไม่ถึงกิโล เลขพุ่ง 105 บาท แถมหนีบเมียมาด้วย

โดย paranee_s

31 ม.ค. 2567

70 views

เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 6 โพสต์คลิปจากผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง เป็นคลิปที่ถ่ายบนรถแท็กซี่ ระบุข้อความว่า แบบนี้มิเตอร์ปกติไหม ขึ้นจาก บีทีเอส แยก คปอ. รถแล่นได้ไม่ถึงโล มิเตอร์ปาไป 105 บาท แถมเอาเมียมานั่งขับด้วย ชุดแท็กซี่ไม่ใส่ ใครจะขึ้นแท็กซี่ที่สถานีแยก คปอ. ระวังด้วยนะ


คุณโม อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ตอนประมาณบ่ายสาม ตนนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาจากช่องนนทรี มาลงที่สถานี แยก คปอ. แล้วจะต่อรถแท็กซี่กลับบ้านแถวตลาดรังสิต โดยปกติจะใช้บริการแอปพลิเคชัน แต่วันนั้นมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ จึงตัดสินใจขึ้นรถแท็กซี่เลย ซึ่งตอนนั้นมีรถแท็กซี่จอดอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้าประมาณ 2-3 คัน แล้วก็มีคนขับผู้ชายคนหนึ่ง ตัวท้วม ผิวเข้ม ใส่เสื้อสีดำ ไม่ได้สวมยูนิฟอร์มคนขับแท็กซี่ ยืนรอเรียกลูกค้าขึ้นรถอยู่ พอเห็นตนก็เข้ามา แล้วช่วยยกกระเป๋าเดินทางพาไปขึ้นรถ


พอตนขึ้นรถ ก็เห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ คนขับก็บอกว่าเป็นแฟนเขาเองไม่เป็นไร ตนก็ไม่ได้ติดอะไร จากนั้นคนขับก็กดมิเตอร์ ขึ้นราคา 35 บาทตามปกติ พอนั่งไปสักพัก ตนก็เล่นโทรศัพท์ เงยหน้ามาอีกที ปรากฏว่าราคามิเตอร์ขึ้นไปที่ 105 บาท จากระยะทางที่ขับมาเพียงแค่ประมาณ 3 กิโลเมตร และรถไม่ได้ติดเลย ตนจึงมองว่ามันผิดปกติ ตนจึงถามไปว่า มิเตอร์ปกติไหม คนขับก็รีบบอกว่า “มันเป็นมิเตอร์เก่า งั้นน้องให้ราคาเหมา 100 บาทแล้วกัน”


จังหวะนั้น ตนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายมิเตอร์ ซึ่งคนขับน่าจะรู้ตัว หลังจากนั้นเลยเปลี่ยนพฤติกรรมทันที จากตอนแรกที่บริการดี ช่วยถือกระเป๋า พอถามเรื่องมิเตอร์ปุ๊บ ก็ขับรถหวาดเสียว และด่ารถคันอื่นบนถนนแบบหยาบคาย อารมณ์ร้อน ซึ่งตนมองว่าเหมือนเป็นการทำกิริยาประชดตน โดยตอนนั้นยอมรับว่า รู้สึกกลัว เพราะมาคนเดียว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร


พอรถขับมาถึงช่วงเซียร์ รังสิต ราคามิเตอร์ก็พุ่งไปที่ 121 บาท ตนก็ถ่ายคลิปอีก ตอนนั้นคนขับเลยบอกให้ผู้หญิงที่นั่งข้างๆ กดปิดมิเตอร์ แล้วไปส่งตน แต่ส่งไม่ตรงกับจุดที่บอก ให้ตนเดินต่อเอง


ทั้งนี้ จากการสังเกตในรถแท็กซี่คันดังกล่าว พบว่าไม่มีการติดป้ายบอกชื่อคนขับ เหมือนแท็กซี่ทั่วไป ตอนจะจ่ายเงิน ตนจึงต้องการจะโอนจ่าย เพราะอยากทราบชื่อนามสกุลของคนขับ แต่คนขับก็บอกว่ารับแต่เงินสด พอตนบอกว่าไม่มีเงินสด คนขับจึงให้โอนเข้าบัญชีของผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ แล้วพอตนจะลงรถก็พบว่า ประตูรถไม่สามารถเปิดจากด้านในเองได้ คนขับได้บอกให้ผู้หญิงลงจากรถมาเปิดประตูให้ตนจากด้านนอกด้วย


ผู้เสียหาย ระบุอีกว่า ตนเองเคยใช้บริการรถแท็กซี่ในเส้นทางนี้ ระยะทางเดียวกัน ขนาดช่วงที่รถติด ราคามิเตอร์ก็จะอยู่ที่ประมาณ 80-90 บาท แต่วันเกิดเหตุ รถโล่งไม่ติดเลยด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าตนไม่ทักท้วง ก็คาดว่า น่าจะต้องจ่ายราคาไม่ต่ำกว่า 200-300 บาท จึงนำเรื่องนี้มาโพสต์เตือนภัย และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบด้วย


โดยหลังจากที่โพสต์คลิปไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น บอกว่า แท็กซี่ตรงจุดดังกล่าว เป็นแท็กซี่เจ้าถิ่น ถ้าเวลาเรียกรถจากแอปพลิเคชัน ต้องเดินออกไปขึ้นตรงจุดอื่น ซึ่งตนก็เคยเรียกรถจากแอปพลิเคชันตรงจุดนั้น คนขับบางคันก็จะบอกให้ไปรอตรงอื่นจริงๆ


ทีมข่าวลงพื้นที่มายังบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส แยก คปอ. ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เสียหายเรียกใช้บริการรถแท็กซี่จากจุดนี้ แล้วคาดว่าน่าจะถูกโกงมิเตอร์ ซึ่งพบว่าตรงบริเวณทางลงสถานีรถไฟฟ้าจะมีจุดสำหรับจอดรถแท็กซี่อยู่ ซึ่งมีรถแท็กซี่จอดอยู่ประมาณ 3-4 คัน


ที่น่าสนใจคือ จุดที่จอดรถแท็กซี่ มีการตั้งโต๊ะเก้าอี้ลักษณะคล้ายเป็นวิน และบนโต๊ะได้มีกระปุกใส่เงินวางไว้ โดยกระปุกดังกล่าวเขียนเอาไว้ด้วยว่า “ค่างวดแท็กซี่”


ทีมข่าวสอบถามคนที่อยู่ใกล้จุดดังกล่าว บอกว่า ไม่ค่อยได้คุยกับกลุ่มคนขับแท็กซี่ แต่รู้ว่าตรงนี้มีการตั้งวิน แต่ไม่รู้รายละเอียด เคยได้ยินว่ามีการเก็บเงินรถที่เข้ามาจอดคันละ 20 บาท และมีการติดสติกเกอร์แสดงสัญลักษณ์ แต่ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่


ขณะที่หนึ่งในคนขับแท็กซี่ที่จอดอยู่ ยืนยันกับทีมข่าวว่า วินตรงนี้มีการลงทะเบียนกับเขตอย่างถูกต้องและไม่มีการเก็บเงินในการมาจอดรับผู้โดยสารแต่อย่างใด โดยมีรถแท็กซี่ลงทะเบียนอยู่ประมาณ 20 กว่าคัน ซึ่งเป็นการตั้งวินเพื่อจัดคิวให้เป็นระเบียบเท่านั้น และยืนยันว่ารถทุกคันมีการกดมิเตอร์อย่างถูกต้อง หากมีการถูกโกงมิเตอร์จากการขึ้นแท็กซี่ที่จุดนี้ ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นรถแท็กซี่จากที่อื่นที่มาจอดรับผู้โดยสาร ไม่ใช่รถของสมาชิกแน่นอน


ส่วนกระปุกเงินที่วางอยู่เอาไว้สำหรับจ่ายค่าน้ำ โดยจะตั้งถังใส่น้ำเอาไว้ เวลาที่คนขับแท็กซี่จะซื้อน้ำ ก็ให้เอาเงินมาใส่ไว้เองเท่านั้น โดยคนขับแท็กซี่คนดังกล่าว ก็ไม่ได้สวมชุดยูนิฟอร์มสีฟ้า ทีมข่าวจึงสอบถามว่าต้องใส่หรือไม่คนขับก็ยืนยันว่าต้องใส่ทุกคันอยู่แล้ว เพียงแต่วันนี้ตนเพิ่งออกมาจากบ้าน จึงยังไม่ได้ใส่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ