อาชญากรรม

แม่เด็ก ม.5 หวั่นไม่ปลอดภัย บ้านจน ผู้ก่อเหตุเป็น ‘ตำรวจ’ ซ้ำครูทักแชทหา ลูกสภาพจิตใจย่ำแย่

โดย chutikan_o

31 ม.ค. 2567

145 views

คุมตัว “รองสารวัตร” ฝากขัง เจ้าตัวเดินคอตกขอโทษสังคมข่มขืนนักเรียน ม.5 แลกค่าปรับ โดนฟันข้อหาหนัก ขณะที่แม่ของเด็กหวั่นไม่ปลอดภัย บ้านยากจน คู่กรณีเป็นตำรวจ ซ้ำครูในรร.ทักแชทตอกย้ำ ลูกสภาพจิตใจย่ำแย่ อยากให้ลูกย้ายรร.

กรณีแม่ของนักเรียนหญิง ม.5 ผู้เสียหาย ถ่ายคลิปขอความช่วยเหลือไปที่เพจสายไหมต้องรอด มีใจความว่า "ช่วยหนูด้วยค่ะ ลูกสาวหนูไปโรงเรียน เมื่อเช้าของวันนี้ แล้วทีนี้น้องไม่มีใบขับขี่กับหมวกกันน็อก มันระยะไปโรงเรียน 6 กิโล แล้วทีนี้ตำรวจเขาจะเอา 2,000 น้องไม่มีตังจ่าย ตำรวจก็เลยบอกว่า ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ตำรวจเอาเด็กไปขืนใจค่ะ ช่วยหนูด้วย"

เบื้องต้นแม่ของน้องผู้เสียหาย เล่าว่า ลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ม.5 ที่จังหวัดยโสธร ตอนเช้าของวันที่ 29 มกราคม ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียนกับน้องสาว แล้วเจอด่านตำรวจ แต่ไม่ได้ตั้งด่านเป็นกลุ่ม แยกกันอยู่คนละจุด มีตำรวจนายหนึ่ง โบกให้น้องจอดรถ แล้วก็ดึงกุญแจรถออก โดยบอกว่า น้องไม่มีใบขับขี่ และไม่สวมหมวกกันน็อก ก่อนถามว่า มีเงิน 2,000 ไหม จะต้องจ่ายค่าปรับ แต่ลูกสาวบอกว่า ไม่มี แล้วโทรหาแม่ ซึ่งแม่ก็ไม่ได้รับโทรศัพท์

ตำรวจจึงบอกให้ลูกสาวตามตำรวจไป โดยพาไปที่ห้องแห่งหนึ่ง อยู่ติดกับอำเภอและโรงพัก จากนั้นก็พยายามบอกน้องว่า ต้องเอาเงิน 2,000 มาจ่ายค่าปรับวันนี้ ซึ่งน้องบอกว่า ไม่มี เขาก็ขู่ว่าถ้าไม่มีเงิน ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยน สุดท้ายเขาก็ขืนใจลูกสาว หลังเกิดเรื่อง ลูกสาวก็นำเรื่องไปบอกยาย ยายจึงพาไปแจ้งความ แต่แม่กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นตำรวจ สภ.ป่าติ้ว ด้วย จึงมาร้องเพจสายไหมต้องรอด พร้อมยืนยัน จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

พันตำรวจเอก สานิตย์ ไชยสถิตย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ในฐานะโฆษกของตำรวจภูธรจังหวัด ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ตำรวจคนที่ก่อเหตุ เป็นตำรวจจราจร ยศรองสารวัตร ในระหว่างที่ขี่รถออกตรวจบริการจราจร แล้วไปเจอน้องขี่รถมา จึงได้ขี่แซงแล้วเรียกให้น้องจอดรถ ก่อนพูดคุยดูข้อหา พบว่า ไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่มีใบขับขี่ โดยยอมรับว่า พาน้องไปก่อเหตุจริง

ซึ่งน้องผู้เสียหาย ได้มาแจ้งความเมื่อวานนี้ ก็ได้รับร้องทุกข์ไว้แล้ว พร้อมส่งน้องไปตรวจร่ายกาย ตำรวจ สภ.ป่าติ้ว ได้สอบปากคำแม่ และส่งน้องผู้เสียหาย ไปสอบปากคำกับสหวิชาชีพ ที่ตัวเมืองยโสธร

ส่วนตำรวจที่ก่อเหตุ ถูกแจ้งข้อหา พรากผู้เยาว์ อายุเกินกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยใช้กำลังขู่เข็ญ โดยใช้กำลังประทุษร้าย จากนั้นจะส่งไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดยโสธร วันนี้ พร้อมให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะผิดอาญา และตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับน้อง และครอบครัวด้วย รับปากว่า จะดำเนินการกับตำรวจที่กระผิดขั้นเด็ดขาด

หลังจากนั้นตำรวจ สภ.ป่าติ้ว ได้พาสื่อมวลชนไปดูห้องที่เกิดเหตุ พบว่า อยู่ในพื้นที่ของห้องสมุดประชาชน ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพักแค่ 100 เมตร ในห้องที่เกิดเหตุเหมือนอยู่ระหว่างรอการปรับปรุง

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางเข้าพบ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อประสานขอความช่วยเหลือ

ขณะที่แม่เด็กกลัวความไม่ปลอดภัย เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน และคู่กรณีเป็นนายตำรวจระดับรองสารวัตร มีผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมาก อีกทั้งคู่ในโรงเรียนยังพิมพ์แชทในกลุ่มไลน์นักเรียนถามว่าคนถูกกระทำคือใคร จึงขอให้นายเอกภพ ช่วยประสานกระทรวงศึกษาธิการ ขอย้ายน้องทั้ง 2 คน ม.5 และ ม.3 จาก จ.ยโสธร มาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ

นายเอกภพ เปิดเผยว่า กรณีนักเรียนชั้น ม.5 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจข่มขืน ตนได้ประสานพลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการภาค 3 มีการตั้งคณะกรรมการสอบ และดำเนินคดีไปแล้ว โดยไม่ให้ประกันตัว

ด้าน นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แสดงความห่วงใยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสั่งให้ สพฐ. เข้าไปดูแลช่วยเหลือเยียวยาแล้ว




รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/X_LlcZKJGqw

คุณอาจสนใจ