สังคม

แจ้ง 2 ข้อหาหนัก รองสารวัตรจราจร ขืนใจเด็ก ม.5 แลกค่าปรับจราจร ผบ.ตร.สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

โดย paranee_s

30 ม.ค. 2567

647 views

จากกรณีแม่ของนักเรียนหญิง ม.5 ผู้เสียหาย ถ่ายคลิปขอความช่วยเหลือไปที่เพจสายไหมต้องรอด มีใจความว่า "ช่วยหนูด้วยค่ะ ลูกสาวหนูไปโรงเรียน เมื่อเช้าของวันนี้ แล้วทีนี้น้องไม่มีใบขับขี่กับหมวกกันน็อก มันระยะไปโรงเรียน 6 กิโล แล้วทีนี้ตำรวจเขาจะเอา 2,000 น้องไม่มีตังค์จ่าย ตำรวจก็เลยบอกว่า ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ตำรวจเอาเด็กไปขืนใจค่ะ ช่วยหนูด้วย"


โดยเพจสายไหมต้องรอด โพสต์ข้อความ ห๊ะ! นักเรียนหญิง ม.5 ขับจักรยานยนต์ไปเรียนกับน้อง ถูกตำรวจเรียกตรวจ พบไม่มีใบขับขี่ ตำรวจเรียน 2,000 น้องไม่มีจ่าย จึงถูกพาไปข่มขืนข้างโรงพัก


เบื้องต้นแม่ของน้องผู้เสียหาย เล่าว่า ลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ม.5 ที่จังหวัดยโสธร ตอนเช้าของวันที่ 29 มกราคม ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียนกับน้องสาว แล้วเจอด่านตำรวจ แต่ไม่ได้ตั้งด่านเป็นกลุ่ม แยกกันอยู่คนละจุด มีตำรวจนายหนึ่ง โบกให้น้องจอดรถ แล้วก็ดึงกุญแจรถออก โดยบอกว่า น้องไม่มีใบขับขี่ และไม่สวมหมวกกันน็อก ก่อนถามว่า มีเงิน 2,000 ไหม จะต้องจ่ายค่าปรับ แต่ลูกสาวบอกว่า ไม่มี แล้วโทรหาแม่ ซึ่งแม่ก็ไม่ได้รับโทรศัพท์


ตำรวจจึงบอกให้ลูกสาวตามตำรวจไป โดยพาไปที่ห้องแห่งหนึ่ง อยู่ติดกับอำเภอและโรงพัก จากนั้นก็พยายามบอกน้องว่า ต้องเอาเงิน 2,000 มาจ่ายค่าปรับวันนี้ ซึ่งน้องบอกว่า ไม่มี เขาก็ขู่ว่าถ้าไม่มีเงิน ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยน สุดท้ายเขาก็ขืนใจลูกสาว หลังเกิดเรื่อง ลูกสาวก็นำเรื่องไปบอกยาย ยายจึงพาไปแจ้งความ แต่แม่กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นตำรวจ สภ.ป่าติ้ว ด้วย จึงมาร้องเพจสายไหมต้องรอด พร้อมยืนยัน จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด


ด้าน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว พบว่า เป็นความจริง เบื้องต้นมีผู้ก่อเหตุ 1 คน เป็นตำรวจยศ ร้อยตำรวจเอก ตำแหน่งรองสารวัตร ของ สภ.ป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ตอนนี้ได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และกำชับให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ให้ลงไปติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้หลังเสร็จภารกิจ ตนเองจะรีบลงพื้นที่ไปติดตามคดีนี้ทันที เนื่องจากตนเองกำกับดูแลเกี่ยวกับสิทธิเด็กและสตรี รวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กด้วย และครั้งนี้ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ ทำให้รับไม่ได้


ขณะที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการด่วนให้ พลตำรวจโท ฐากูร นัทธีศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เพื่อขยายผลดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย


โดยเมื่อช่วงบ่าย พันตำรวจเอก สานิตย์ ไชยสถิตย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ในฐานะโฆษกของตำรวจภูธรจังหวัด ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เผยว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ คือ เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ตำรวจคนที่ก่อเหตุ เป็นตำรวจจราจรยศรองสารวัตร ได้ขี่รถออกตรวจบริการจราจร แล้วไปเจอน้องขี่รถมา ก็ได้ขี่แซงแล้วเรียกให้น้องจอดรถ ก่อนพูดคุยพบว่า ไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่มีใบขับขี่ จากการสอบถามเบื้องต้น รองสารวัตรจราจร ยอมรับว่า พาน้องไปจริง


ซึ่งน้องผู้เสียหาย ได้มาแจ้งความเมื่อวานนี้ ก็ได้รับร้องทุกข์ไว้แล้ว พร้อมส่งน้องไปตรวจร่างกาย วันนี้แม่ของน้องเดินทางมาจากกรุงเทพฯ อยู่ระหว่างให้ปากคำกับตำรวจ สภ.ป่าติ้ว ส่วนน้องผู้เสียหาย จะถูกส่งไปสอบปากคำกับสหวิชาชีพ ที่ตัวเมืองยโสธร


สำหรับตำรวจที่ก่อเหตุ เบื้องต้น ถูกแจ้งข้อหา พรากผู้เยาว์ อายุเกินกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยใช้กำลังขู่เข็ญ โดยใช้กำลังประทุษร้าย จากนั้นจะส่งไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดยโสธรวันนี้


พร้อมให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะผิดอาญา และตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับน้อง และครอบครัวด้วย รับปากว่า จะดำเนินการกับตำรวจที่กระทำผิดขั้นเด็ดขาด


หลังจากนั้นตำรวจ สภ.ป่าติ้ว ได้พาสื่อมวลชนไปดูห้องที่เกิดเหตุ พบว่า อยู่ในพื้นที่ของห้องสมุดประชาชน ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพักแค่ 100 เมตร

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ