อาชญากรรม

รวบแล้ว 3 ใน 9 โจ๋ก่อเหตุแทงนศ.หน้าสถาบันย่านปทุมวัน อ้างไปถ่ายรูปเล่น ก่อนเจออริจึงยั่วยุ-วิวาท

โดย paranee_s

30 ม.ค. 2567

237 views

ภายหลังจากควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ มาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหา


ซึ่งช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การว่า ได้ไปถ่ายรูปเล่นหน้าสถาบันฝั่งตรงข้าม โดยอ้างว่า คิดว่าสถาบันปิด


จากนั้น พลตำรวจตรีนพศิลป์ ได้สอบถามรายบุคคลถึงพฤติการณ์ในการก่อเหตุ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ตอบว่า “ชกต่อย” เหมือนกันหมด ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา บอกว่า เพราะไปต่อยท้องผู้เสียชีวิตแล้วมือไปโดนมีดจนนิ้วเกือบขาด


พลตำรวจตรีนพศิลป์ ถามต่อว่า ปัญหาเกิดจากพวกเราเองหรือเกิดจากใคร ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายตอบว่า “พวกเรา”


หลังสอบปากคำ พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุม โดยกล่าวว่า จากคดีน้องหยอด นักศึกษาอุเทนฯ ที่ถูกนักศึกษาปทุมวันยิงเสียชีวิต จนมาถึงคดีนี้ ที่นักศึกษาปทุมวัน ถูกนักศึกษาอุเทนฯ แทงจนเสียชีวิต ก็ถูกสังคมตั้งคำถามว่า “มันแก้ไม่ได้แล้วใช่หรือไม่”


โดยปัญหาระหว่าง 2 สถาบันนี้ มีมานานพอสมควร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก็สั่งการให้มีการวางแผนป้องกันและปราบปราม ก่อนหน้านี้ มีการไล่ล่ามือปืนที่ยิงน้องหยอด และกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาหลายจุด ยังอยู่ระหว่างดำเนินคดี ยังไม่เสร็จสิ้น ก็มีเกิดเหตุการณ์นี้อีก


โดยภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ จะเห็นว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรวม 9 คน ได้พากันมาถ่ายรูปหน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน โดยมีพฤติกรรมยั่วยุ ปีนรั้ว ชูนิ้วกลาง จนนักศึกษาปทุมวันที่อยู่ด้านในสถาบันฯ ต้องเดินออกมา จนมีการทะเลาะวิวาทกัน และนักศึกษาปทุมวัน ถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิต


ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ โดยบอกว่า ได้ซ่อนอาวุธมีดไว้ในรองเท้า เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นจับกุม โดยมีการรวมตัวกันในสถาบันตัวเองจนถึงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม อาจารย์ให้ออกจากสถาบัน จึงจะพากันไปย่านบรรทัดทอง และพากันมายั่วยุ ทำคอนเทนต์ที่หน้าสถาบันฝั่งตรงข้าม จนเกิดเหตุขึ้น ส่วนผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บที่แขน อ้างว่าได้ชกต่อยผู้เสียชีวิต และโดนอาวุธมีดของผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บ


พลตำรวจตรีนพศิลป์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวน พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 9 คนที่ถูกออกหมายจับ มีเพียง 2 คนที่ยังเป็นนักศึกษาปัจจุบัน ส่วนอีก 7 คนนั้นพ้นสภาพการศึกษาไปแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเคยเปิดเผยว่า อดีตนักศึกษาที่พ้นสภาพไปแล้วของทั้ง 2 สถาบัน จะพยายามสร้างโลกเสมือน โดยการชักจูงพวกนักศึกษาที่พ้นสภาพไปแล้วด้วยกัน มารวมตัวกัน แล้วไปชักชวนรุ่นน้องที่ยังศึกษาอยู่ มาสร้างค่านิยมผิดๆ สร้างการยอมรับ เปิดเซฟเฮ้าส์รวมตัวกัน มีการรับน้อง สั่งสมความคิดที่ผิด


โดยขณะนี้ ชุดสืบสวนยังเร่งไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือ แต่ได้รับรายงานจากผู้กำกับการ สน.ปทุมวันว่า ทนายความของกลุ่มผู้ต้องหาได้ติดต่อมาว่า จะพาผู้ต้องหาที่เหลือเข้ามอบตัวที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลในเวลา 13.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค. 67) แต่ตำรวจยืนยันว่าจะไม่หยุดไล่ล่า และขอเตือนไปยังบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือทุกกรณี ก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กระทำการซ่องสุม ก็ต้องถูกกวาดล้างทั้งหมด ไม่ว่าสถาบันใด


ส่วนที่ไปตรวจค้นเจอแหล่งซ่องสุม ถือว่ามีพฤติกรรมใกล้เคียงกับที่เคยตรวจค้นเจอเซฟเฮ้าส์ของนักศึกษาปทุมวันก่อนหน้านี้ โดยพบว่ามีการลงขันบริจาคเงิน รวมกลุ่มกันอยู่ไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งเป็นแนวทางที่รุ่นพี่สอนรุ่นน้องว่า ให้ป้องกันตัวเอง รวมกลุ่มกันอยู่


โดยในวันที่ 1 ก.พ. 67 นี้ จะมีการจัดงานครบรอบวันสถาปนาของอุเทนถวาย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้มีการเฝ้าระวัง วางมาตรการเข้มงวดตั้งแต่วันนี้ ทั้งการตั้งจุดตรวจค้นและเฝ้าระวังพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นจุดก่อเหตุ ซึ่งคาบเกี่ยวไปถึงพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ด้วย ซึ่งจากการที่มีการโพสต์ยั่วยุกันในโซเชียลว่าจะมีการเอาคืนนั้น ตำรวจยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้


และนอกจากสถาบันทั้ง 2 แห่งนี้ ตอนนี้ยังมีกลุ่มนักเรียนขาสั้นที่เริ่มมีพฤติกรรมแบบเดียวกันมากขึ้น จึงได้แจ้งไปยังผู้กำกับการทุกสถานีตำรวจแล้วว่าให้เพิ่มความเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัย ป้องกันเหตุนักเรียนตีกัน


ส่วนคดีนี้ หลังจากนี้จะมีการรวบรวมหลักฐานขยายผลต่อไป เพราะเชื่อว่าการรวมตัวกันมายั่วยุถึงสถาบันฝั่งตรงข้าม ต้องไม่ได้มีแค่ 9 คนที่เกี่ยวข้องแน่นอน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ