บุกรวบคาหม้อ บุกจับพ่อค้าน้ำกระท่อม พบเคยถูกจับมาแล้ว 17 ครั้ง

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567  เวลาประมาณ 17.20 น. พล.ต.ต.เสกสันต์  ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา  พ.ต.อ.ปิยภัทร ทองพันเลิศกุล ผกก.สภ.เมืองยะลา  ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองยะลา พร้อมปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มความมั่นคง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองยะลา ได้เข้าทำการร่วมกันตรวจสอบซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการจับกุมได้ที่ร้านใบโคคา ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา และจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เปิดร้านจำหน่ายน้ำใบกระท่อมได้ 2 ราย

พร้อมด้วยของกลางทั้งสิ้นจำนวน 14 รายการ เช่น น้ำกระท่อมน้ำหนักประมาน89กิโลกรัม ยาแก้ไอจำนวน 200 ขวด กัญชา 600 กรัม เงินสด

โดยเจ้าหน้าที่ชุดเข้าจับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า  

1.ร่วมกันจำหน่ายอาหารที่มีพืชกระท่อมเป็นส่วนผสมโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.ร่วมกันจำหน่ายอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้าหรือจำหน่ายโดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข (กระท่อม) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ( ฉบับที่ 430 ) พ.ศ.2564 ออกตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายตามบัญชีแนบท้ายประกาศลำดับที่ 52 (กระท่อม) อันเป็นความผิดตามมาตรา 6 (8) ประกอบมาตตรา 50 ของพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522
3. ร่วมกันมียาแผนปัจจุบัน ( ยาแก้ไอ ) ซึ่งเป็นยาอันตราย ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต
4.ร่วมกันจำหน่ายสมุนไพรควบคุม ( ช่อดอกกัญชา ) โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2565

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำผู้ถูกจับกุม พร้อมของกลางดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ทางด้าน นายอุกฤษฏ์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในครั้ง เปิดเผยว่า ตนเองถูกจับกุมในคดีค้าน้ำกระท่อม มาถึง 17 ครั้งแล้ว ก็อยากจะขอวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่มีการปลดล็อกพืชกระท่อมแล้ว ก็อยากให้มีการปรับมาตรการควบคุมให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชน โดยที่ผ่านมา หลังตนเองถูกจับดำเนินคดีแล้ว และหลังจากรับโทษออกมาแล้ว จะให้ตนเองไปทำงานอย่างอื่น ก็ไม่มีงานให้ทำ ไม่มีใครรับเข้าทำงาน ก็ต้องมาขายน้ำกระท่อมแปรรูปขาย ซึ่งตนเชื่อว่า เฉพาะน้ำกระท่อมอย่างเดียว คงไม่ทำให้เกิดเหตุร้าย แต่ส่วนใหญ่ที่เป็นข่าว ก็มักโยนความผิดกับน้ำกระท่อม แต่จริงๆ แล้ว ตนเองมีความคิดเห็นว่า ทุกครั้งที่มีการจับกุมผู้เสพน้ำกระท่อมนั้น ก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบสารเสพติดอย่างอื่นด้วย