สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 30 ม.ค.67 จิรัฏฐ์โต้ปมหนีทหาร-นร.วัย 14 แทงคอเพื่อนดับ-ผัวฝรั่งสารภาพฆ่าเมียไทย

โดย thichaphat_d

30 ม.ค. 2567

71 views

1.นักเรียนวัย 14 แทงคอเพื่อนเสียชีวิตกลางโรงเรียน อ้างถูกเพื่อนแกล้ง

2.แม่-พี่ชายน้องภูมิ ยืนยันน้องไม่ได้แกล้งใคร คาใจเด็กที่ก่อเหตุพกอาวุธ

3.ทนายอธิบดีกรมการข้าวแฉ นักการเมือง ป.อดีตผู้บริหาร ก.เกษตรฯ อยู่เบื้องหลัง

4.นาทีระทึก รถฉุกเฉินโรงพยาบาลขับฝ่าไฟแดง ถูกกระบะชนกลางสี่แยก

5.เจ้าอาวาสโหดตีหมาจนตาแตก เข้ามอบตัวแล้ว

6.ผัวฝรั่งสารภาพฆ่าอรมัย เมียชาวไทย อ้างทะเลาะกันแล้วพลั้งมือบีบคอ



เรื่องเล่าการเมือง

-ผบ.นรด. จ่อแจ้งความ จิรัฏฐ์ ชี้สด.43 ที่โชว์ ไม่ใช่เอกสารราชการ


เป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง กรณี สส.จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ จากพรรคก้าวไกล ซึ่งถูกยื่นตรวจสอบว่าหนีทหารหรือไม่ เมื่อวานนี้ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดง ชี้ชัด ว่าเอกสารที่ สส.จิรัฏฐ์ นำมาโชว์ ไม่ใช่เอกสารที่ราชการออกให้ และบอกว่า ภายใน 1-2 วันจะไปแจ้งความเอาผิดตามกฎหมาย

เรื่องนี้ต่อเนื่อง หลังนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ถูกยื่นตรวจสอบว่าได้หนีการเกณฑ์ทหารหรือไม่ จนเจ้าตัวได้นำใบสด.43 มายืนยัน ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการของเครือมติชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ยอมรับว่ารายงานตัวล่าช้า และไปเสียค่าปรับที่ศาล ก่อนมาจับใบดำใบแดงตามกระบวนการ

ทำให้เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร จับพิรุธ สด.43 ดังกล่าว โดยเฉพาะกรณีที่ไม่มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ ว่าเป็นเอกสารปลอมหรือไม่

เมื่อวานนี้ พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) นำทีมตั้งโต๊ะแถลง หลักๆ ก็อธิบายขั้นตอนการได้มาซึ่งใบ สด.43 ว่ามีอยู่ 2 แบบ คือ 1.ผู้ที่ผ่านการตรวจเลือกจับใบดำใบแดง และ 2.กรณีผู้ที่ผ่อนผัน ก็จะได้สด.43 กลับไป แต่ในช่องจะเขียนคำว่า "ผ่อนผัน" ติดไปด้วย

ประเด็นแรกที่สำคัญ ก็ย้ำกรณี “หากบอกว่าวันนั้นไม่มา อาจติดอะไรก็ตาม แล้วมาวันหลัง แล้วมาจับได้ใบดำใบแดงใบสด43 กลับไป อันนี้ไม่มีโดยกระบวนการ" รวมทั้ง กรณีคนที่ถูกดำเนินคดี เมื่อศาลตัดสินแล้ว ก็ต้องเป็นทหารเลย ซึ่งเงื่อนไขที่กำหนดมีเพียงเท่านี้

ส่วนอีกประเด็น ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ได้นำใบ สด.43 ที่ถูกต้อง มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวเห็นรายละเอียด ก็บอกว่าหัวใจหลัก มีอยู่ 2 อย่าง คนต้องเซ็นครบ คือ ประธานและกรรมการ 5 คน ครบทุกช่อง และต้องรับจากมือประธานกรรมการตรวจเลือกวันเดียว

ส่วนคนที่เข้ากระบวนการ ไม่ว่าจะจับได้ใบดำหรือใบแดง จะต้องมีการพิมพ์ลายนิ้วมือด้วย ดังนั้น “เอกสารจะต้องผ่านกระบวนการนี้เท่านั้น ถ้าไม่เป็นไปตามที่บอก ก็จะไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการออกให้ ซึ่งมีหลักฐานต้นขั้วที่แยกเป็นหลายส่วน เพื่อป้องกันการทุจริต และสามารถตรวจสอบได้หลายทาง

ในการแถลง พล.ท.ทวีพูล พยายามเลี่ยงไม่พูดถึงตัวบุคคล แต่อธิบายขั้นตอน และกระบวนการ จนถึงช่วงที่เปิดให้นักข่าวได้ซักถาม ก็มีการสอบถามกรณีเอกสารสด.43 ที่นายจิรัฏฐ์ ได้นำมาโชว์เพื่อยืนยันผ่านการตรวจเลือกทหารแล้ว พล.ท.ทวีพูล ย้ำว่า สด. 43 ที่ถูกต้อง “ลายเซ็นต้องครบ - ลายนิ้วมือต้องพิมพ์ ถ้าองค์ประกอบพวกนี้ไม่ครบก็ไม่ใช่ของจริง”

ก็บอกว่า กองทัพบกอยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน คาดภายใน 1-2 วันจะไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากกองทัพบก เปิดเผยว่าจาก การตรวจสอบ ไม่พบใบต้นขั้วสด.43 ที่ตรงกับสส.จิรัฏฐ์ และ ในช่วงที่ถูกเรียกให้มารายงานตัวเข้ารับการตรวจเลือกทหาร ใช้ชื่อว่า นวรินทร์ ทองสุวรรณ์ หากมีการเปลี่ยนชื่อภายหลัง ต้องนำใบเปลี่ยนชื่อ จากที่ว่าการอำเภอหรือเขตมาแสดงต่อ สัสดี เพื่อเปลี่ยนชื่อให้ตั้งแต่ตอนแรก ก่อนออกใบ สด.43 เนื่องจากหากลงชื่อในใบสด.43 ไปแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชื่อได้



-จิรัฏฐ์ โต้กองทัพ ยัน สด.43 ของจริง 100% ไม่หวั่นหลุด สส.

ขณะที่ สส.จิรัฏฐ์ ก็ออกมาตอบโต้ทันที ยืนยันว่า สด.43 เป็นของจริง 100% เพราะรับมาจากมือเจ้าหน้าที่ในสถานที่ราชการ และตั้งคำถามกลับว่า นี่เป็นการเบี่ยงประเด็นที่ตนกำลังตรวจสอบกองทัพหรือไม่

นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส. ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลัง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ตั้งโต๊ะแถลง กรณีใบ สด.43 ที่นำมาโชว์ยืนยัน ว่าไม่ครบองค์ประกอบ และเตรียมรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี ยืนยัน ว่าเป็นเอกสารจริงแน่นอน 100% เพราะตนรับมาจากมือเจ้าหน้าที่ในสถานที่ราชการ และก็มีลายเซ็นรับรองความถูกต้องของ 5 พันโท-พันเอก ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าปี 2554 ใครมาประจำที่เขตนี้

ทั้งนี้ไม่กังวล ว่าเรื่องนี้จะทำให้หลุดจากตำแหน่ง สส. และหากบอกว่าเอกสารของตนเป็นของปลอม ก็ต้องไปถามจากทั้ง 5 คน ว่า เขาปลอมเอกสารมาให้ตนหรือไม่

ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าตนไม่ได้ไปจับใบดำใบแดงหรือไม่ สส.จิรัฏฐ์ ระบุว่า ตนยืนยันตามที่พูดไปหมดแล้ว ว่าได้ใบ สด.43 มาอย่างไร “ไม่ได้โกหก” ก็บอกว่า “โรงพักก็ไม่ได้ไกลจากบ้าน ถ้าหนีทหาร เขาต้องมาจับแล้ว” ก็บอกว่า ยินดีให้ตรวจสอบ แต่ถามกลับว่านี่กำลังเบี่ยงประเด็นที่ตนกำลังตรวจสอบกองทัพหรือไม่



-เอกนัฏ ชี้เจ๋ง ดอกจิก ร่วมประชุม พีระพันธุ์ ในนามส่วนตัว

สืบเนื่องจากคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์ จาก อธิบดีกรมการข้าว และมีนายเจ๋ง ดอกจิก คณะทำงานเขตตรวจราชการ ชุดของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ถูกกล่าวหาด้วยนั้น

เมื่อวานนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันว่า ทางพรรคพร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนการทำงานของเจ้าพนักงาน เพื่อดำเนินคดีกับคนที่ทำผิด ซึ่งพรรคจะไม่ปกป้องคนผิด และมาตรการของพรรคคือถ้าสมาชิกพรรคคนใดไปกระทำความผิด คณะกรรมการบริหารพรรค จะดำเนินการขับออก โดยในการประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันนี้ พรรคจะให้คณะรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมาธิการ และ สส.ทุกคนของพรรค ไปตรวจสอบเพื่อทำรายงานว่ามีการตั้งใครเป็นคณะที่ปรึกษาส่วนตัวบ้าง ถ้ามีบุคคลเหล่านี้ไปเกี่ยวข้องก็จะให้ปลดออกทั้งหมด ถือเป็นโอกาสกวาดบ้านตัวเอง

ส่วนที่เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ อ้างว่าได้มีการปลด นายเจ๋ง ดอกจิก พ้นคณะทำงานไปตั้งแต่ ธ.ค.2566 ก่อนเกิดเหตุนั้น พบว่า นายเจ๋งได้โพสต์เฟชบุ๊ก เมื่อ 26 ม.ค. บอกว่าร่วมประชุม ในฐานะที่เป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งถือเป็นการย้อนแย้งกัน

ซึ่งนายเอกนัฏ ปฏิเสธว่าไม่ใช่การย้อนแย้ง และหลังเกิดเหตุได้สอบถามไปยังนายพีระพันธุ์ ได้แจ้งว่าได้มีการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 จริง ซึ่งการที่นายเจ๋ง ดอกจิกไปประชุมนั้นไม่ได้ไปในฐานะที่ถูกแต่งตั้ง แต่ไปเป็นการส่วนตัว

ส่วนที่ยังมีการตั้งข้อสงสัยว่าทำไมยังมีป้ายชื่อเป็นคณะทำงานอยู่นั้น นายเอกณัฏ ชี้แจงว่า น่าจะเป็นการไปนั่งอยู่ในกลุ่มของคณะทำงาน ส่วนการให้พ้นจากตำแหน่งในวันที่เท่าไหร่ของเดือนธันวาคมนั้น ต้องให้ไปถามนายพีระพันธุ์เอง



-เจ๋ง ระทึก! เลขา ป.ป.ช. ชี้มีสถานะเป็น จนท.รัฐ โทษสูงสุดประหารชีวิต

ขณะที่ เลขาธิการ ป.ป.ช. ก็ สั่งให้มีการตรวจสอบแล้วว่า มีการยกเลิกคำสั่งแต่งตั้ง นายเจ๋ง ดอกจิก จริงหรือไม่ เพราะตำแหน่งดังกล่าวถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หากทำความผิด มีโทษสูง

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึง กรณีที่นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ได้รับการแต่งตั้ง จากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้เป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 นั้น ตำแหน่งดังกล่าวถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมาย ป.ป.ช. กรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด เรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด หากพิสูจน์แล้วว่ากระทำความผิดจริงจะมีโทษสูงกว่าบุคคลทั่วไป

ซึ่งตามกฏหมาย ป.ป.ช. มาตรา 173 ระบุต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5ปี ถึง20ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000 - 400,000 บาท

และถ้าไปดู ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000 - 400,000 บาทหรือประหารชีวิต

ส่วนบุคคลอื่นที่เป็นเอกชน ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถ้าร่วมกระทำความผิด จะมีโทษฐานสนับสนุนการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องรับโทษจำนวน 2ใน3

ส่วนที่กรณีที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ อ้างว่า ได้มีการยกเลิกการแต่งตั้ง นายเจ๋งไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 นั้น เลขา ป.ป.ช. บอกว่า ป.ป.ช. ก็ต้องไปตรวจสอบว่ามีการยกเลิกจริงหรือไม่ เพราะตอนที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ไม่ได้มีคำสั่งยกเลิก

หรือจะมีการยกเลิกย้อนหลัง ถ้ายกเลิกย้อนหลังก็ต้องดูว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า เป็นการยกเลิกย้อนหลังเพื่อช่วยเหลือไม่ให้บุคคลดังกล่าวต้องโทษฐานกระทำความผิดในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ เพราะหากยกเลิกหลังกระทำความผิดแล้ว ก็ยังถือขณะทำผิด ยังเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/jE8Yve0TesU

คุณอาจสนใจ

Related News