สามีต่างชาติพบตำรวจขอพาสสปอร์ตคืน ยันไม่เกี่ยวภรรยาหายตัวกว่า 20 วัน ยังหวังภรรยากลับมา

ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.อรทัย ภรรยาชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับเงินมรดกจากสามีเก่าที่เสียชีวิตไปเมื่อปี พ.ศ.2564 จำนวนกว่า 13 ล้านบาทไทย แล้วแต่งงานใหม่กับชายชาวสวิตเซอร์แลนด์อีกคน ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ประเทศไทย ที่บ้านโคกแขวน หมู่ที่ 5 ต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้ประมาณ 2 ปีเศษ แต่มาหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.67 ที่ผ่านมา หลังจากที่เกิดมีปากเสียกับสามีใหม่ ผ่านมาจนถึงวันนี้เป็นเวลา 21 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเบาะแสใดๆ ที่จะนำไปสู่การพบตัว น.ส.อรทัย แต่อย่างใด


ล่าสุดวันนี้ (29 มกราคม 2567) นายโรแลนด์ สามีชาวต่างชาติของ น.ส.อรทัย ผู้สูญหาย ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรครบุรี พร้อมกับ นายไชย เพื่อนสนิทชาวไทย เพื่อติดต่อรับหนังสือเดินทางคืน หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดเก็บพาสปอร์ตของนายโรแลนด์เอาไว้ก่อนหน้านี้


นายไชย เปิดเผยว่า วันนี้ได้พานายโรแลน์เดินทางมาที่ สภ.ครบุรี เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการยึดพาสปอร์ตของนายโรแลนด์ไว้ เพราะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของภรรยา ซึ่งตัวนายโรแลนด์เองก็ยังยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของภรรยา และเขาก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร กังวลเพียงเรื่องเดียวคือ เมื่อไรภรรยาของเขาจะกลับมา


และตัวเขาก็ได้นำหลักฐานมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูว่า เขาไม่ได้มีปัญหาทะเลาะกันรุนแรงหรือทำร้ายร่างกายภรรยาแต่อย่างใด ส่วนเรื่องคลิปจากกล้องวงจรปิดที่เห็นคนเดินไปมา และหยิบก้อนอิฐที่วางอยู่ภายในบ้านไปนั้น นายโรแลนด์บอกว่า ทำไมไม่ถามคนในบ้านเป็นคนให้คำตอบ ไม่ใช่ให้เขาเป็นคนให้คำตอบ


ส่วนเรื่องที่มีภาพเห็นตัวนายโรแลนด์ถือกระเป๋าเดินทางนั้น นายโรแลนด์ไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้ เพราะเขาบอกว่ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ถ้ามีคนอยู่ด้านในกระเป๋ามันต้องมีน้ำหนัก ไม่ใช่จะถือได้แบบสบายๆ


ส่วนการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผู้กำกับการ สภ.ครบุรี ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่ที่รับแจ้งว่า น.ส.อรทัย หายตัวไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสืบหาข่าว และติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวนายโรแลนด์ สามีใหม่ ที่อยู่กินกับ น.ส.อรทัย ก็เรียกมาสอบปากคำ และให้ข้อมูลหลายครั้ง


ล่าสุดก็ได้เชิญตัวมีเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอเอาไว้แล้ว ซึ่งนายโรแลนด์ยังยืนยันว่า ตลอดทั้งคืนวันที่ 8 ม.ค. 67 ซึ่งเป็นวันที่มีคนพบ น.ส.อรทัย ครั้งสุดท้าย ตัวเองไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน ส่วนกล้องวงจรปิดภายในบ้านที่จับภาพคนขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้านพักในคืนนั้น ก็ยืนยันว่าไม่ใช่ตัวนายโรแลนด์ เพราะตัวนายโรแลนด์นอนอยู่ในบ้าน


อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีความเป็นไปได้ทุกอย่าง ทั้ง น.ส.อรทัย อาจจะเสียชีวิตไปแล้ว หรือ ยังมีชีวิตอยู่ ถูกอุ้ม หรือถูกฆาตกรรม ก็เป็นไปได้ทั้งหมด


ล่าสุดมีรายละเอียดเพิ่มเติมจากการตรวจสอบสมุดบัญชีธนาคารของ น.ส.อรทัย ว่ามีการโอนเงินไปยังบัญชีของนายโรแลนด์ เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 8 ม.ค.67 จำนวนเงิน 25,000 บาท ทำให้ในบัญชีดังกล่าวเหลือเงินอยู่ทั้งบัญชีไม่ถึง 2,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่น้องสาว น.ส.อรทัย ได้เห็นหน้าพี่สาวครั้งสุดท้าย แต่จากการสอบปากคำนายโรแลนด์ ให้การว่า น.ส.อรทัย เป็นผู้โอนให้เองผ่านทางแอปธนาคารเพื่อใช้หนี้ที่ยืมไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บันทึกถ้อยคำเอาไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนบัญชีธนาคารอื่นที่เหลืออีก 1 บัญชี กำลังอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจสอบจากทางธนาคารส่งมา และข้อมูลทั้งหมดจะนำไปเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และแนวทางการสืบสวนต่อไป