สังคม

ป.ป.ช.ชี้มูลผิด “เสน่ห์ ทองศักดิ์” ที่ปรึกษาเมืองตรัง ยูไนเต็ด ยื่นทรัพย์สินเท็จ 58 ล้าน สมัยนั่งนายก อบต.

โดย paranee_s

29 ม.ค. 2567

41 views

วันที่ 29 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ได้ตรวจสอบการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของนายเสน่ห์ ทองศักดิ์ กรณีพ้นจากตำแหน่งตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง นั้น


ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 111/2566 วันที่ 27 ตุลาคม 2566 ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่าจากการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของ นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง กรณีพ้นจากตำแหน่ง


โดยการตรวจสอบเชิงลึก ปรากฏว่ากรณีผู้ยื่นไม่แสดงรายการเงินฝาก รายการที่ดินและรายการยานพาหนะ ยังไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 114


แต่สำหรับกรณีที่นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ ไม่แสดงรายการทรัพย์สินเงินในส่วนของการให้กู้ยืมแก่ บริษัท เอสดีที พาราวู้ด จำกัด จำนวน 58,050,495.00 บาท ซึ่งตนเป็นกรรมการผู้จัดการ และรายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง บ้า 2 ชั้น จำนวน 1 หลัง ในพื้นที่ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ของคู่สมรส


คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่านายเสน่ห์ ทองศักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขากอบ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น


กรณีพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 114 ให้เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และขอให้ลงโทษทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) มาตรา 81 และมาตรา 167 ประกอบมาตรา 188 รวมทั้งมอบหมายคณะผู้ว่าคดี ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการดำเนินคดี การช่วยเหลือในทางคดี และการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดี พ.ศ.2563 ข้อ 7 และข้อ 8 ต่อไป จึงแถลงมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน ซึ่งการไต่สวนคดีอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด


นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง กล่าวว่า การดำเนินการของ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง มีมาตรฐานเดียวกัน ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับผู้ใคร และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนกรณีดังกล่าวนี้เป็นการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ไม่ใช่เป็นการกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ แต่เป็นกรณีที่ปกปิดไม่แจ้งหรือแจ้งเท็จบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ผู้ถูกกล่าวหาในฐานะผู้บริหารท้องถิ่นมีหน้าที่ต้องยื่น ส่วนทรัพย์สินที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นกับทาง ป.ป.ช.เป็นจำนวนประมาณ 100 กว่าล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนายเสน่ห์ หรือผู้การฯเหน่ ที่คอการเมืองเรียกขานกัน ถือเป็นผู้กว้างขวางและมีชื่อเสียงใน จ.ตรัง ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจเจ้าของกิจการโรงงานแปรรูปส่งออกไม้ยางพารา และประธานสโมสรฟุตบอลเมืองตรังยูไนเต็ด และเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในระบบปาร์ตี้ลิสต์ มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย ดูแลพื้นที่ภาคใต้ และต่อมาหลังแพ้เลือกตั้งได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการนายก อบจ.ตรัง สมัยล่าสุดที่มีนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ เป็นนายก อบจ.ตรัง ก่อนตัดสินใจลาออกมาลงสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบต.เขากอบ อีกครั้ง เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าแพ้การเลือกตั้ง


และเมื่อวันพุธ ที่ 28 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ตรัง ก็ได้แถลงคำพิพากษาศาลอาญาทุจริตฯภาค 9 คดีเสน่ห์ ทองศักดิ์ นักการเมือง-นักธุรกิจชื่อดัง อดีตนายกอบต.เขากอบ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูล คดีบ่ายเบี่ยงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 กรณีสร้างบ้าน ปชช.-สั่งจำคุก 1 ปี ปรับ 4 หมื่น แต่รับสารภาพ เลยให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 2 หมื่น-ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี เหตุไม่เคยทำผิด และเมื่อปี พ.ศ.2562 ที่ผ่านมา เจ้าตัวยังเคยตกเป็นเป้าถูกตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินที่มีอย่างอู่ฟู่ ในเชิงลึกจากสำนักงาน ป.ป.ช.ตรัง จนกระทั่งมีมติถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดอีกครั้งขึ้นในวันนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ