สาวไม่ชินทาง ขับตาม GPS พาหลงขึ้นสะพานสลิง ล้อติดกลางทางช่วยกันวุ่น ชาวบ้านยืนลุ้นเกือบ 2 ชม.

หวาดเสียว! สาวไม่ชินทาง ให้ GPS นำทาง พาหลงขับขึ้นสะพานสลิงเก่าที่ จ.แพร่ รู้ตัวอีกทีอยู่กลางแม่น้ำ ล้อรถติดกลางสะพาน เจ้าหน้าที่ระดมช่วยกันวุ่นเกือบ 2 ชม. ชาวบ้านยืนลุ้นท่ามกลางสายฝน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (28 ม.ค. 67) เกิดเหตุทางเข้าหมู่บ้านที่ไม่เคยมาพาหลงไปข้ามสะพานสลิงเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว จนทำให้ไม้พื้นสะพานหัก ล้อรถติดอยู่กลางสะพานน้ำยมน่าหวาดเสียว ต่อมา นายมะกัน อินจันทร์ ผญบ.ม.2 ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีรถเก๋งติดค้างอยู่กลางสะพานสลิงข้ามน้ำยม ระหว่าง ม.2 และ ม.9 ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จึงประสาน ร.ต.ท.ลาวิน อินจันทร์ สายตรวจ ต.เวียงทอง หน่วยกู้ภัยสูงเม่น ออกตรวจสอบและช่วยเหลือตามที่ได้รับแจ้ง

ที่เกิดเหตุเป็นสะพานสลิงโบราณ ยาวประมาณ 120 เมตร ข้ามน้ำยม ระหว่าง ม.2 และ ม.9 ต.เวียงทอง โดยที่ฝั่ง ม.9 ห่างจากเสาสะพานมา ประมาณ 15 เมตร พบรถเก๋งสีขาว ทะเบียนจังหวัดเชียงราย จอดอยู่ระหว่างสะพานด้านล่างเป็นน้ำยมดูน่าหวาดเสียว โดยล้อหน้าด้านซ้าย หลุดลงไม้พื้นสะพานที่หัก ทำให้รถติดค้างบนสะพาน ไม่สามารถขับออกมาได้ เบื้องต้นทราบว่าคนขับเป็นคนต่างอำเภอ ไม่เคยเข้าพื้นที่มาก่อน เป็นผู้หญิง อายุ 38 ปี เจ้าตัวได้ลงจากรถมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน


จากการสอบถามคนขับทราบว่า เป็นคน อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ไม่เคยเข้าพื้นที่ ต.เวียงทอง มาเป็นครั้งแรก เพื่อจะมาหาเพื่อน โดยเพื่อนปักหมุดบ้านให้แถว หัวสะพานเวียงทอง จึงขี่รถมาตาม GPS ซึ่งขึ้นว่าหากข้ามสะพานแล้วจะถึงจุดหมาย จึงขับข้ามสะพานสลิงมาตาม GPS แต่เมื่อข้ามมาถึงพบว่า เป็นสวนเป็นป่า ไม่มีทางขึ้น จึงกลับรถหัวสะพาน แล้วขับจะข้ามกลับมาจุดเดิม แต่เมื่อมาได้ 15 เมตร ไม้หักล้อรถตกสะพานดังกล่าว

ตนเองมัวแต่มอง GPS โดยไม่เห็นว่า ยังมีสะพานปูนอยู่ข้างๆ ห่างไป 30-40 เมตร จึงขับรถข้าม ตอนข้ามก็เห็นว่ามันแข็งแรงและน่าจะมีคนข้าม โดยไม่ได้มองข้างๆ เลย จนกระทั่งมาประสบเหตุ ก็ตกใจ เพราะจุดที่เกิดเหตุอยู่กลางน้ำยม กลัวรถตกลงน้ำยม จึงออกจากรถมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งตนเองเป็นคนต่างถิ่นไม่รู้เส้นทาง จึงไม่รู้ว่ามีสะพานใหม่อยู่ข้าง และไม่รู้ว่า สะพานเส้นนี้ ห้ามไม่ให้รถใหญ่ข้าม จึงอยากให้มีการเขียนป้ายติดไว้ห้ามเข้า กลัวคนอื่นจะเป็นแบบตนเอง


ต่อมาฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกับพลเมืองดี นำรถไถ จำนวน 2 คัน เข้าทำการช่วยเหลือ โดยการชักลากให้ถอยกลับมานยังฝั่งตลิ่ง ม.9 ก่อนจะลากจูงรถผ่านสวนของชาวบ้านขึ้นมาบนถนนได้สำเร็จใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ท่ามกลางกองเชียร์ที่ดูเหตุการณ์อยู่เต็มสะพานและของตลิ่ง

โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เผยว่า เห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับไปอย่างหวาดเสียวจะบอกก็ไม่ทัน เพราะมาเห็นตอนที่ข้ามไปกลางสะพานแล้ว เมื่อเห็นจะข้ามกลับมาจึงขี่รถจะไปบอกว่าข้ามไม่ได้ก็ไม่ทัน จนรถตกร่องไม้พื้นสะพานจึงไปบอกเจ้าตัวทราบและทำการช่วยเหลือ ตามปกติสะพานแห่งนี้จะไม่ให้ใครผ่าน เพราะสร้างมาเกือบ 40 ปี แล้ว จะมีแค่รถซาเล้งเท่านั้นที่ข้ามไป จนวันนี้มีรถเก๋งข้ามก็ตกใจ เดชะบุญที่ไม่เกิดเหตุอะไรขึ้นมากมาย และจะได้ประสานฝ่ายปกครอง ทำป้ายเตือนว่าห้ามข้ามสะพานแห่งนี้ เพื่อว่ามีคนอื่นที่อยู่นอกพื้นที่ ตาม GPS มา แล้วข้ามไปอีกแบบวันนี้ได้