เลือกตั้งและการเมือง

'พิธา' เปิดใจ 'สรยุทธ' ร้องเพลง “หมอกหรือควัน” ก่อนเข้าสภาวันแรก บอกคิดถึงไออุ่นที่คุ้นเคย

โดย petchpawee_k

26 ม.ค. 2567

16 views

“พิธา” สีหน้าชื่นมื่น สวมชุดเดิมเข้าสภาในรอบครึ่งปี บอกคิดถึงไออุ่นที่คุ้นเคย เสียดายไม่ได้โหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ไม่ขอแก้ตัวเรื่องฉาว “ก้าวไกล” พร้อมขอโทษประชาชน ย้ำจะปรับปรุง-เรียนรู้ความผิดพลาด พร้อม เผยจับตา 3 นโยบายเรือธงรัฐบาล  “แลนด์บริดจ์-เงินดิจิทัล-ซอฟต์พาวเวอร์” ย้ำไม่ค้านรัฐบาลทุกเรื่อง 


เวลา 10.26 น. วานนี้  (25 ม.ค.67) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ  และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางกลับเข้าอาคารรัฐสภาเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน  หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 กรณีถือหุ้นไอทีวี ก่อนจะมีคำวินิจฉัยว่า ไม่พ้นสภาพ สส.เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยการกลับเข้าสภาครั้งนี้ นายพิธาใส่สูทและเนกไทด์เส้นเดิม ตัวเดิมกับที่ใส่ในวันที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่  เข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือทักทายสื่อมวลชนและกลุ่มผู้มาให้กำลังใจ ที่มารอด้านหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภา  


นายพิธากล่าวความรู้สึกของก้าวแรกในสภาฯ ว่า เป็นไออุ่นที่คุ้นเคย รวมเวลาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2566 เป็น 6 เดือน ที่ไม่ได้มีโอกาสแถลงข่าวต่อสื่อและประชาชนที่สภา ยังรู้สึกว่าสภาเป็นพื้นที่รวมตัวของประชาชน คิดถึงบรรยากาศอย่างนี้  ส่วนเนกไทด์ที่ใส่มา ไม่ใช่กิมมิคอะไร แต่เนื่องจากตอนเช้าไปรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ตอนแต่งตัวก็มองซ้ายมองขวาและจำได้ว่า ตอนที่เราชูกำปั้นออกจากสภา เราใส่เนกไทด์เส้นนี้ เลยนึกสนุกขึ้นมา


เมื่อถามว่าเสียดายเวลา 6 เดือนที่หายไปหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า เสียดายที่ไม่มีโอกาสในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ซึ่งคงไม่มีใครบอกได้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร


เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีนโยบายแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล ในวันที่ 31 ม.ค.นี้  มีความกังวลบ้างหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ความรู้สึกเหมือนตอนคดีไอทีวี เราแยกแยะได้ว่าอะไรควบคุมได้หรือไม่ได้ ทั้งนี้ ส่วนที่เราควบคุมได้เราก็ได้ทำเต็มที่


นายพิธา ยังกล่าวถึงความคาดหวังที่ให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาตอบกระทู้ถามสภาผู้แทนราษฎรว่า เมื่อหากจะคาดหวังกับใครก็จะต้องเริ่มทำที่ตัวเราด้วย ซึ่งหากวันใดวันนึงที่เราเข้าเป็นรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะต้องกลับเข้ามาตอบกระทุ้ด้วยตัวเอง จึงหวังว่าถ้าเป็นมาตรฐานที่วางไว้ให้กับตัวเองก็เป็นบรรทัดฐานที่คาดหวังจากคนอื่นได้


เมื่อถามถึงโครงการแลนด์บริดจ์ว่าจะจับตามองเป็นพิเศษหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า จะจับตาเป็นพิเศษ เพราะในช่วงที่ตนถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่  ตนได้สังเกตว่าโครงการเรือธงของรัฐบาลมี 3 โครงการ ได้แก่ 1. ดิจิทัลวอลเล็ต 2. โครงการแลนด์บริดจ์ 3. ซอฟต์พาวเวอร์  ซึ่งมีหลายเรื่องที่เราเห็นตรงกัน แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่เราต้องพูดคุยกันเป็นพิเศษ จะต้องมองในมุมกว้างและลึก และดูว่าทางเลือกและเป้าหมายคืออะไร


สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล นายพิธา มีความเห็นว่า ขณะนี้ประชาชนมีความเดือดร้อนพอสมควร เศรษฐกิจโตช้าและซบเซาเป็นเวลานาน  ซึ่งไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลปัจจุบัน  แต่เป็นปัญหาจากการเมืองไทย ที่ไม่มีการปรับโครงสร้าง และทำให้ประเทศเดินช้า ขณะเดียวกัน ตนกังวลว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ด้วยการใช้งบประมาณระยะยาว จะทำให้ไม่มีพื้นที่การคลังในการแก้ปัญหาระยะยาว จึงอยากจะชวนรัฐบาลให้คิด ว่าจะมีแผนสองหรือไม่ การกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานราก อย่าดูถูกรายละเอียดหรือโครงการเล็กๆ น้อยๆ ถ้าทำรวมกันอาจทำให้พลังเศรษฐกิจระเบิดขึ้นมาได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการแจกเงินแบบบนลงล่าง หากแก้ปัญหาให้ตรงจุด ก็จะทำให้ช่วยประหยัดงบประมาณและไม่ต้องกู้เงินสร้างภาระเพิ่มขึ้น


ภายหลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเสร็จ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล  เดินขึ้นไปหน้าห้องประชุมสุริยัน เพื่อรับบัตร สส. จากนั้นไปพบปะข้าราชการที่รอให้กำลังใจในการกลับมาทำหน้าที่ สส. ก่อนจะไปพูดคุยกับนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรม School in Parliament ประจำปี 2567 โดยทำกิจกรรมจำลองการอภิปรายในสภา


จากนั้นเวลา 11.40 น. ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงก่อนเข้าวาระกระทู้ถามทั่วไป นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ได้อ่านเอกสารศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตร 82 ว่าสมาชิกภาพสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบ 98 (3) หรือไม่ และศาลได้มีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 นั้น เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่านายพิธาไม่ได้มีลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิรับสมัครเลือกตั้ง  สส. สมาชิกภาพไม่สิ้นสุดลง  ดังนั้น จึงแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า จำนวน สส. เท่าที่มีอยู่ครบถ้วน 500 คน องค์ประชุมไม่น้อยกว่า 250 คน


ซึ่งทันทีที่นายวันมูหะหมัด อ่านหนังสือจาก กกต. เสร็จสิ้น นายพิธาได้เดินเข้าห้องประชุมทันที โดยหันไปโบกมือทักทายกับ สส.จากพรรครวมไทยสร้างชาติ  ก่อนจะเดินมาทักทายและสวมกอดกับนายกันวีร์ สืบแสง สส. บัญชีรายชื่อเป็นธรรม  รวมถึงทักทาย สสพรรคก้าวไกล และได้ชนหมัดกับนายชุติพงษ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ก่อนจะเดินไปนั่งประจำที่ข้างน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล




รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/bunOwmFOQnY


คุณอาจสนใจ

Related News