หนุ่มร้อง จ่ายค่าเช่าที่ช้า-ไม่ส่งสลิป โดนเจ้าของที่บุกยึดแมว 6 ตัว

วันที่ 24 ม.ค.67 จากกรณีเพจอยากดังเดี่ยวจัดให้ได้โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดรถเก๋งจำนวน 3 คันกำลังนำแมวขึ้นรถโดยมีข้อความว่า#เล่าเรื่องจากหลังไมค์ผมเข้าร้าน และไม่ได้อยู่ร้าน ในร้านมีแมว และของอยู่และมีร้านมอไซต์ข้างๆ เค้าเหม็นขี้แมว และไปแจ้งเจ้าของห้องเช่า ทีนี้เจ้าของห้องเช่า เค้าก็มาเอาแมวผมไปให้คนอื่น และไม่รับผิดชอบ ตอนนี้ผมมีคลิป วิดีโอและคลิปเสียงทั้งหมดครับ (ในเมนต์) ตอนนี้ผ่านไป20วันแล้วยังออกหมายเรียกตัวเจ้าของรถไม่ได้เลยครับคนที่สั่งให้รถพวกนั้นเข้าไปเอาแมวก็เป็นลูกหลาน......ครับผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเรื่องนี้ไหมทำให้ตำรวจทำคดีช้าครับผมมีหลักฐานทุกอย่างให้ตำรวจด้วยครับ


ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับนายอนุชา อายุ 35 ปี บอกว่าตนเองทำกิจการร้านทำเล็บอยู่ที่หน้าปากซอย ถนนเพ็งน้อยไม้ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566


ต่อมาทางร้านไม่มีลูกค้าจึงได้ปิดร้านไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566 แล้ว จนวันที่ 18 เดือนธันวาคม 2566 ทางร้านเราถูกตัดไฟฟ้า จากนั้นตนเองจึงนำเงินไปจ่ายค่าเช่าที่ก่อน ซึ่งตนเองเช่าที่เดือนละ 5,000 บาท และได้ติดค้างเช่า 3 เดือน ซึ่งได้ไปคุยกับทางเจ้าของที่ว่า เดือนพฤศจิกายน ขอจ่ายเป็นเงินจำนวน 10,000 บาทก่อน


หลังจากนั้นที่เหลือเราจะขอจ่ายเดือนธันวาคม ซึ่งตนเองได้โอนไปที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพราะเป็นเจ้าของที่ แต่ไลน์ของทางเจ้าของที่อยู่โทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งซึ่งเสียอยู่ เราจึงโอนสลิปไม่ได้


หลังจากนั้นทางร้านซ่อมรถจักรยานยนต์โทรศัพท์ไปบอกกับทางเจ้าของที่ว่า มีกลิ่นเหม็นขี้แมวที่อยู่ภายในร้านของตน ซึ่งทางเจ้าของที่ได้ติดต่อเราผ่าน LINE มาแล้วแต่เราไม่ตอบ เนื่องจากโทรศัพท์เครื่องนั้นเสีย และอ้างว่าเราไม่เข้ามาดูแมว ซึ่งจริง ๆ แล้วตนได้เปิดร้านอีกที่หนึ่ง และมีลูกค้าเข้ามาทำเล็บตอนดึก ๆ หลังจากปิดร้านเราก็จะเข้ามาดูแมว เราเข้ามาทุกวัน


โดยวันที่ 1 มกราคม 2567 ตนยังเข้ามาดูแมวอยู่ ซึ่งในวันนั้นทางเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์กับลูกน้องเจ้าของที่ได้มาวนเวียนที่หน้าร้าน เพื่อดูแมว


หลังจากนั้นช่วงบ่ายของวันที่ 2 ก็มีทางลูกน้องเจ้าของที่นำรถเก๋งมา 3 คันและนำแมวของตนเองออกไปจากร้าน เพราะว่าตนเองได้เปิดประตูเหล็กม้วนเอาไว้นิดหน่อย และก็เสียบกุญแจร้านทิ้งไว้


ซึ่งเวลา 22:00 น ของวันที่ 2 มกราคม 2567 ตนได้เข้ามาที่ร้านก็พบว่าแมวที่อยู่ในร้านได้หายไปแล้ว จึงได้ไปสอบถามกับทางเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ว่าเห็นแมวของตนไหม ซึ่งทางเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์บอกว่าทางเจ้าของที่ได้ให้คนมาเอาแมวออกไป


ขณะนั้นตนได้โทรศัพท์หาทางเจ้าของที่ ซึ่งเขาก็รับสายแล้วบอกว่าเป็นคนเอาแมวไปแล้ว ตัดสินใจให้คนอื่นไปแล้วเอามาคืนไม่ได้


ทำให้ตนเลือกไปแจ้งความและหากล้องวงจรปิดเพื่อที่จะมาดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดทั้งหมด แต่ผ่านไป 20 กว่าวันแล้วยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีป้ายทะเบียนรถของทั้ง 3 คัน ซึ่งตนแจ้งความที่ สภ.คูคต โดยครั้งแรกทางพนักงานสอบสวนได้เรียกไกล่เกลี่ยก่อน โดยทางเจ้าของที่มาพูดคุยกับเจ้าของที่ อ้างว่าเราไม่จ่ายค่าเช่า และเขาไม่เห็นสลิปโอนเงินจ่ายค่าเช่า ซึ่งตนก็มีหลักฐานในการโอนจ่ายเงินทั้งหมด


โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าให้เอาแมวมาคืนเขาได้ไหม ทางเจ้าของที่บอกว่าเอามาคืนไม่ได้ เขาบอกว่าจะมาเรียกเงินกับตนเองในการนำแมวไปอาบน้ำตัดขนและฉีดยา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควรที่จะบอกกับทางฝ่ายเจ้าของที่ว่า คุณไปเรียกร้องเงินจากเขาไม่ได้ เพราะเขาเป็นเจ้าของแมว แต่ตำรวจบอกว่าให้เขาไปฟ้อง


ซึ่งแมวที่หายไปนั้นเป็นแมวพันธุ์เปอร์เซีย ตนเองซื้อมาราคา 2-3 หมื่นบาทส่วนอีก 5 ตัวนั้นเป็นตัวที่คลอดออกมาซึ่งขณะนี้ตนเองอยากได้แมวคืนมาก


หลังจากนั้นทำผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามทางเจ้าของร้านรถจักรยานยนต์ได้ให้ข้อมูลสอบถามผู้สื่อข่าวว่าร้านทำเล็บที่อยู่ติดกันได้นำแมวมาเลี้ยงและได้ถูกตัดไฟเป็นเวลาหลายเดือน ตนเองก็สงสารแมวถึงได้นำอาหารมาให้พร้อมกับไปซื้ออาหารเม็ดที่อยู่ร้านฝั่งตรงข้ามของร้านและแมวได้ส่งกลิ่นเหม็นของอึและฉี่ ตนเองต้องนั่งทนกินข้าวกับขี่แมวเป็นเวลาหลายเดือน