ผลตรวจแอลกอฮอล์ในเลือด คนขับเก๋งชนกู้ภัยวัย 13 ปี พุ่ง 206 พ่อเด็กเรียกค่าเสียหาย 1 ล้าน

จากเหตุการณ์ที่ ด.ช.วีรยุทธ หรือ ทู วัย 13 ปี นักเรียนชั้น ป.6 และเป็นนักพากษ์แข่งขันเรือยาวรุ่นจิ๋ว ออกเป็นอาสาสมัครกู้ภัยศูนย์วิทยุชาลีกรุงเทพฯ ไปช่วยเหลือรถเก๋งที่ประสบอุบัติเหตุยางแตกบนถนนงามวงศ์วาน ขาเข้า บริเวณใกล้ทางด่วนงามวงศ์วาน อ.เมืองนนทบุรี แล้วถูกรถเก๋งได้มาเฉี่ยวชนซ้ำซ้อนกับรถที่จอดยางแตก จนกระเด็นข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งและถูกรถเก๋งอีกคันหนึ่งชนซ้ำจนเสียชีวิต เมื่อคืนที่วันที่ 19 มกราคมผ่านมา


เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 ม.ค.67 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นายคมสันต์ อายุ 54 ปี ผู้ขับขี่รถเก๋งฮอนด้า รุ่น แอคคอร์ด สีขาว ทะเบียน กรุงเทพฯ ขับชน ด.ช.วีรยุทธ เสียชีวิตแล้วกระเด็นข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งชนหน้ารถเบนซ์อีกคันเสียชีวิต ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ชัชวาล สุวรรณหงษ์ สว. (สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และเจรจาตกลงกับพ่อของเด็กผู้เสียชีวิต


พ.ต.อ พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี กล่าวว่า วันนี้ได้ให้คู่กรณีนัดหมายกันมาพบพนักงานสอบสวน และมาพบพ่อของเด็กที่เสียชีวิต จัดให้มีการตกลงค่าเสียหายกัน ซึ่งยังตกลงกันไม่เรียบร้อย จะนัดกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง


พ.ต.อ พิสุทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้รับผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่พบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือด 206 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีข้อหาขับรถในขณะมึนเมาสุราโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นเสียชีวิต มีทรัพย์สินเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาแล้วได้ปล่อยตัวไป เนื่องจากผู้ต้องหาได้มาพบพนักงานสอบสวนเอง โดยจะมีการนัดหมายเพื่อนำตัวส่งอัยการอีกครั้งหนึ่ง


จากนั้นนายคมสันต์ ได้ร่วมเจรจาตกลงค่าเสียหายกับ นายปรีชา อายุ 30 ปี พ่อ ด.ช.ทู โดยทางฝั่งนายปรีชา ได้เรียกร้องค่าเสียหายค่าสินไหมทดแทนทดแทนกรณีลูกชายเสียชีวิตจำนวน 1 ล้านบาท โดยไม่รวมกับประกัน พรบ.และประกันภาคสมัครใจ


โดยนายคมสันได้รับทราบข้อเสนอ ขอกลับไปพิจารณาก่อนเป็นเวลา 7 วัน และในวันที่ 31 มกราคม เวลา 15.00 น.จะนัดเจอกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกข้อตกลงเจรจาชดใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนไว้


พ่อน้องทู กล่าวว่า วันนี้ได้มาตกลงกับคู่กรณีเพื่อให้รับผิดชอบค่าเสียหายกรณีเด็กชายทูถูกรถชนเสียชีวิต ในเบื้องต้นได้เสนอไปจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อให้คู่กรณีไปพิจารณา และอีก 7 วันคู่กรณีเขาจะมาให้คำตอบ ว่าตกลงตามที่เสนอไปหรือไม่ โดย 1 ล้านบาทนี้ได้คำนวณจากอนาคตของลูกผมที่เขามีความใฝ่ฝันอีกเยอะ ซึ่งเงิน 1 ล้านบาทนี้ไม่คุ้มจริง ๆ แต่เมื่อลูกชายผมได้เสียชีวิตไปแล้ว ก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายผมพูดไม่ออกจริงๆ


เบื้องต้นรถยนต์ของคู่กรณีที่ขับชนเด็ก ได้ทำประกันพ.ร.บ.ภาคบังคับไว้กับบริษัทเมืองไทยประกัน จำนวน 500,000 บาท และทำประกันวินาศภัย ภาคสมัครใจประเภท 3+ ไว้กับบริษัทเดียวกันอีก 500,000 บาท