สังคม

โผล่อีก! ลูกร้อง หมอวินิจฉัยผิดพลาด ทำแม่วัย 55 ปีป่วยติดเตียง ซ้ำให้แม่บ้านวัดความดัน

โดย paranee_s

24 ม.ค. 2567

640 views

กรณีสาวโวยใช้สิทธิ 30 บาท รักษาแม่ป่วย โรงพยาบาลรัฐวินิจโรคพลาด ทำแม่หมดสติก่อนส่งต่อให้อีกโรงพยาบาลพบเส้นเลือดในสมองแตก ปัจจุบันพิการติดเตียง


เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 ม.ค.67 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.ธัญวรินทร์ ภักดี อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นลูกสาวของ น.ส.บุษกร โวยโรงพยาบาลรัฐดังใน จ.นนทบุรี วินิจฉัยโรคแม่อายุ 55 ปี พลาด ให้แอดมิดอยู่โรงพยาบาล 3 วัน รอผลแล็บ ก่อนหมดสติคาเตียง จากนั้นรีบส่งตัวด่วนไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดนนทบุรี แพทย์จับสแกนสมองพบเส้นเลือดในสมองแตก ปัจจุบันพิการติดเตียง ต้องเจาะคอ รักษาตามอาการ โดยต้องจ้างคนดูแลอย่างใกล้ชิด


จากเดิมก่อนป่วย แม่มีอาชีพค้าขาย มีรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท แต่จากเหตุการณ์นั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก ตอนนี้เครียดมาก จึงเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรม เป็นเพราะสิทธิ 30 บาท ใช่ไหมที่ทำให้คนจนไม่มีสิทธิเข้าถึงการรักษาที่ดี


น.ส.ธัญวรินทร์ ลูกสาว กล่าวว่า ครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 66 แม่มีอาการเป็นไข้ อาเจียน ไม่ทานอาหาร จึงพาไป โรงพยาบาลแถวถนนบรมราชชนนี จึงส่งนำส่งรพ.บางใหญ่ ตามสิทธิ์ที่รักษา ทางโรงพยาบาลคาดว่าแม่จะเป็นนิ่วจึงส่งตัวไปสแกนท้องที่ โรงพยาบาลเอกชน ย่านบางใหญ่ ผลออกมาแจ้งกับตนว่าไม่ได้เป็นนิ่ว แต่คาดว่าน่าจะเป็น


วันที่ 18 มิ.ย. แม่เริ่มพูดไม่ชัด ปากเบี้ยว จากนั้นแม่ตนเดินไปห้องน้ำแล้วล้ม เจ้าหน้าที่และพยาบาลได้แต่สอบถามอาการทั้งที่แม่หมดสติ จนเย็นถึงได้ทำการย้ายตัวไปที่ รพ.พระนั่งเกล้า ตรวจพบว่าเส้นเลือดสมองแตก ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่แกนสมอง ทำการผ่าตัดไม่ได้ ตนก็สงสัยว่าทำไมปล่อยให้แม่เป็นหนัก


แพทย์ รพ.พระนั่งเกล้าเสนอว่าให้ปล่อยคนไข้ไป หรือทำการผ่าตัด เพราะถ้าผ่าตัดแม่จะป่วยติดเตียง ต้องมีค่าใช้จ่ายมาก แม่จะไม่กลับมาเป็นปกติ ตนจึงให้ทางแพทย์รักษาแม่จนถึงที่สุด เพราะตนทำใจไม่ได้ จนเวลา 03.00 น.วันที่ 19 มิ.ย.66 แพทย์จึงทำการผ่าตัดและนอนรักษาตัวอยู่นาน 2 เดือน


น.ส.ธัญวรินทร์ กล่าวต่อว่า วันที่ 19 มิ.ย. 66 ช่วงเช้าตนได้เดินทางกลับไปที่ รพ.บางใหญ่ ตนได้สอบถามว่า ทำไมปล่อยให้แม่ป่วยหนักจนเส้นเลือด แต่พบว่าพยาบาลตรวจสอบประวัติมีความดันสูงถึง 200 กว่า ทำให้ตนสติแตกด่าทอไป พบว่าครั้งสุดท้ายก่อนส่งต่อรพ.พระนั่งเกล้า ทางรพ.บางใหญ่ ได้ให้แม่บ้านโรงพยาบาลเป็นคนวัด แพทย์ที่รักษาแม่ก็ให้คำตอบว่าคนไข้ไม่ได้เป็นอะไร และรอผลเลือด


จนกระทั่งแม่อาการหนักต้องส่งต่อแพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการเกี่ยวกับท้องมากกว่า ไม่ได้คิดว่าเกี่ยวกับสมอง หลังทางรพ.บางใหญ่ทราบเรื่องว่าแม่เส้นเลือดสมองแตกแล้ว และทราบว่าบุคลากรสะเพร่า ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่มีเงินจ่าย ให้คิดว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม เพราะเส้นเลือดสมองแตกใครก็เกิดขึ้นได้


ปัจจุบันแม่คิดว่าตนเองเป็นภาระลูก ชอบทำร้ายตัวเองเพราะเครียดที่ลูกมีค่าใช้จ่ายมาก ต้องจ่ายคนดูแลมีค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณ 30,000 กว่าบาท ตอนนี้แม่ต้องทำกายภาพเพื่อฝึกเดิน นั่งไม่ได้นาน พูดไม่ได้ เจาะคอเพื่อหายใจ ส่วนการทำงานของสมองลดลง


ตนได้ไปร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุขแล้ว ตนจึงมาร้องที่ สสจ.นนทบุรี จึงพบว่าขั้นตอนการรักษาผิดผลาดและจ่ายเงินเยียวยามาจำนวน 200,000 บาท ตามมาตรา 41 เพื่อไม่ให้ตนร้องเรียนโรงพยาบาลต่อ แต่ถึงปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลเกินกว่าเงินเยียวยาที่ได้รับ ต้องจำนองบ้าน เป็นหนี้สิน ต้องดูแม่และลูกตัวเองคนเดียว


ตนอยากให้เรียกร้องค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ทั้งหมด เพราะมันเป็นความบกพร่องของหมอ แต่คนรับผิดชอบในการดูแลต้องเป็นตนเอง เพราะตอนนี้ค่าใช้จ่ายสำหรับแต่ละเดือน 4-5 หมื่นบาท เพราะตนคิดว่ากรณีแบบตนน่าจะมีอีกหลายกรณี


ทนายรณณรงค์ หลังจากนี้ต้องเจรจากับทางกระทรวงสาธารณสุขเพราะผู้ป่วยใช้สิทธิ 30 บาท ว่ากรณีแบบนี้จะชดใช้ค่าเสียหายอย่างไรบ้าง ซึ่งทางกฎหมายมีการตรวจสอบพบว่าเป็นการรักษาผิดพลาด ประมาทเลินเล่อ และละเมิดต่อผู้ป่วย ทางกฎหมายต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายทุกอย่างให้กลับไปสู่สภาพเดิม ทางกระทรวงต้องรับผิดชอบ แต่ตนไม่ทราบว่าผู้เสียหายเซ็นรับเงิน 200,000 บาทไปมีข้อตกลงอะไรบ้าง ซึ่งตนต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แต่ผู้เสียหายอยากเรียกร้องไปทางผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขว่า มีมาตรการอะไรที่รับผิดชอบได้จริงตามความเสียหายหรือไม่ ไม่ใช่แค่จ่ายเศษเงินแล้วจบ เพราะเงินจำนวนดังกล่าวไม่พอที่จะรักษา และผู้เสียหายเองก็ไม่อยากให้ผู้ป่วยคนอื่นต้องเจอแบบนี้ รอผลเลือด 5 วันยังไม่ออก จนเกิดผลกระทบแบบนี้


หลังจากนี้จะไปยื่นเรื่องต่อรัฐมนตรีเพราะเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ผู้เสียหายรับเงินมาแล้วแต่ความเสียหายเกิดอยู่ ถ้าไม่แก้ไขจะมีผู้ป่วยแบบนี้มากขึ้น ต้องมีมาตรการในการแก้ไขมากกว่านี้


เบื้องต้นทนายรณณรงค์ พร้อมลูกสาวผู้ป่วย จะเดินทางเข้ายื่นเรื่องต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้แก้ไขปัญหาขั้นตอนการรักษาของโรงพยาบาล และการรักษาโดยใช้สิทธิ 30 บาทที่คุ้มครองผู้ป่วยได้มากกว่านี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ