เศรษฐกิจ
'จุลพันธ์' รับดิจิทัลวอลเล็ต อาจไม่ทัน พ.ค. แต่ยันเดินหน้าต่อ
โดย panwilai_c
17 ม.ค. 2567
59 views
หลังจากมีหลายเหตุให้สะดุด วันนี้ทางรัฐบาลยอมรับเป็นครั้งแรก ว่าโครงการแจกเงินดิจิทัลน่าจะไม่ทันเดือนพฤษภาคมตามที่วางกรอบไว้ แต่ยังยืนยันจะเดินหน้าต่อ พร้อมมีการให้นิยามถึงสถานการณ์ที่เรียกว่า "วิกฤต" ในแง่มุมใหม่ด้วย
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวชี้แจงข้อสงสัยต่อกรณีโครงการดิจทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดยยอมรับว่า คณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้เลื่อนการประชุมเมื่อวาน (16 ม.ค.) เนื่องจากมีเอกสารข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงเห็นว่าควรเลื่อนการประชุมก่อน เพื่อรอให้เอกสารของ ป.ป.ช.
ทั้งนี้ มองว่า เอกสารของ ป.ป.ช. แสดงความเห็นค่อนข้างตรงและแรงพอสมควรในการคัดค้านการดำเนินนโยบาย แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าเอกสารดังกล่าวเป็นทางการแล้วหรือไม่อย่างไร
รัฐบาลพร้อมรับฟังทุกความเห็น ตั้งแต่ข้อเสนอแนะในทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ไม่ได้เป็นการไฟเขียวหรือไฟแดง ไม่ได้ห้าม และไม่ได้สั่งการให้เดินหน้า เพราะไม่ใช่หน้าที่ แต่ความเห็นของ ป.ป.ช. ค่อนข้างชัดเจนว่ามีการวางธงให้โครงการนี้เดินหน้าไม่ได้ ซึ่งบางกลุ่มองค์กร เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ป.ป.ช. มีความเห็นแตกต่าง คือ ไม่เห็นว่าประเทศกำลังตกอยู่ในวิกฤตตามที่รัฐบาลบอก
ซึ่งวันนี้ รมต.จุลพันธ์ ได้พูดถึงความหมายของคำว่า "วิกฤต" ในแง่มุมใหม่ด้วย คือ บอกว่า "วิกฤตนี้ไม่ใช่เรื่องโครงสร้างทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็นวิกฤตการเห็นอกเห็นใจพี่น้องประชาชนที่มีความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ Democracy without empathy คือทุนนิยมที่ไม่มีหัวใจจะไปเข้าใจผู้ที่เดือดร้อน มันแสดงให้เห็นมาตลอดว่าล้มเหลว รัฐบาลชุดปัจจุบันเราเดินทางไปทั่วประเทศ เราเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เราไม่ได้ทำงานในห้องแอร์ วันนี้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่"
ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า ดูจากกรอบเวลาแล้ว โครงการไม่น่าทันเดือน พ.ค. แต่รัฐบาลยืนยันเราต้องเดินหน้านโยบายเงินดิจิทัลต่อไป
หลังจาก ป.ป.ช.ส่งเอกสารความเห็นมา จะเชิญคณะกรรมการนโยบายฯ มาประชุมอีกครั้ง จึงจะเริ่มกระบวนการฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมในการทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่ยังไม่เห็นถึงเจตนาดีที่รัฐบาลพยายามจะทำ เราต้องสื่อสารจนทุกฝ่ายมีความเข้าใจตรงกัน จนเราเดินหน้านโยบายนี้ได้ในที่สุด
"รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เป็นอนุบาลทางการเมือง เราเห็นอยู่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่คืออะไร เรามีหน้าที่ในการทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย และได้รับความยอมรับจากทุกภาคส่วน และแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนได้ นี่เป็นสิ่งที่เรายึดเป็นธงหลักและต้องทำให้สำเร็จ"
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนสำรองในกรณีที่โครงการไปต่อไม่ได้ ส่วนเรื่องการถอยนั้น ยอมรับว่า ได้มีการปรับลดวงเงินมาแล้วครั้งหนึ่งหลังจากมีความเห็นของหลายหน่วยงานมา ตอนนี้ต้องรอการประชุมของคณะกรรมการนโยบายฯก่อน
