จบด้วยดี! รร.แจงดรามา นร.ลาไปแข่งกีฬาระดับชาติ กลับมาครูให้ 0 คะแนนวิชาพละ

คุณพ่อนักกีฬาเยาวชน เข้าหารือผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ กรณีเกิดข้อสงสัย ลูกชายเป็นนักกีฬาสนุกเกอร์ เป็นตัวแทนไปแข่งกีฬาระดับชาติ แต่คะแนนเก็บกลางภาคกลับได้ 0 คะแนน จาก 20 คะแนน ขณะที่โรงเรียนชี้แจงเป็นเรื่องของระบบประมวลผล หากไม่กรอกคะแนนจะประมวลผลเด็กคนอื่นได้ แต่เด็กที่เป็นนักกีฬาจะได้สิทธิ์สอบภายหลัง และอาจารย์จะแก้คะแนนให้ในภายหลัง แต่ยอมรับความผิดพลาดของโรงเรียนที่ไม่แจ้งให้นักเรียนและผู้ปกครองเข้าใจ พร้อมน้อมรับกลับไปแก้ไขระบบประมวลผลให้ดีขึ้น


นายสมฤกษ์ หรือ “ปูเป้ ช่องฟุตบอล 108” คุณพ่อของ ด.ช.ลมหนาว อิศรางกูร ณ อยุธยา พร้อมด้วยภรรยาได้เข้าหารือกับ ภราดา ดร.อาวุธ ศิลาเกษ ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ สอบถามข้อเท็จจริง กรณีลูกชายของตนเองเป็นตัวแทนไปแข่งขันกีฬาสนุ๊กเกอร์ ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับชาติ แต่ผลคะแนนของโรงเรียนกลับพบว่า ได้คะแนนเก็บกลางภาค 0 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน ทั้งที่ลูกชายของตนเองยังไม่ได้สอบ เพราะติดการแข่งขัน


หลังการหารือ นายสมฤกษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา และมาสเตอร์โสภณ สกุลเรือง “มาสเตอร์เปิ้ล” หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ โรงเรียนอัสสัมชัญ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงข้อเท็จจริงที่เหิดขึ้น


นายสมฤกษ์ ระบุว่า จากการพูดคุยทางโรงเรียนยอมรับข้อผิดพลาดในระบบการรายงานผล ที่เป็นระบบคอมพิวเตอร์ แม้จะยังไม่ได้สอบก็ต้องใส่คะแนน 0 ลงไปก่อน ในวิชาที่ยังไม่ได้สอบใน 2 วิชา คือวิชาพลศึกษาและสุขศึกษา โดยทางโรงเรียนรับจะปรับปรุงว่าในอนาคต วิชาไหนที่ยังไม่สอบจะต้องยังไม่ใส่คะแนนลงไป


ขณะเดียวกันทางโรงเรียนจะรับไปปรับปรุงบุคลากรทางวิชาการของโรงเรียน ว่าให้มีการสังเกตกรณีคะแนนเก็บวิชาใดเป็น 0 ต้องสอบถามและสื่อสารไปยังครูประจำวิชาว่าเกิดอะไรขึ้น นอกจากนั้นจะต้องมีบุคลากรที่ดูแลนักกีฬาที่ไปทำชื่อเสียงให้โรงเรียน เพื่อช่วยติดตามเรื่องสอบและการเรียน


คุณพ่ออธิบายเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่โพสต์ เพราะต้องการตั้งคำถามว่า ทำไม 2 วิชาไม่มีการเรียกไปสอบ แต่วิชาอื่นๆ ใน 13 วิชาสามารถเรียกไปสอบได้ และเมื่อ 2 วิชายังไม่ได้สอบ แต่ทำไมคะแนนเก็บจึงเป็น 0 จากคะแนนเต็ม 20 ทั้งที่ยังไม่ได้สอบ


ทั้งนี้ยืนยันว่า การโพสต์เฟซบุ๊ก ไม่ได้ต้องการให้เป็นประเด็นดรามา และไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียน เพราะในส่วนตัวมีความสนิทสนมกับทางโรงเรียนมาก และมีส่วนร่วมในการปรึกษา ออกแบบวิชาห้องเรียนกีฬา และวิชาอื่นๆ ของโรงเรียน ยืนยันตนเองรักโรงเรียนอัสสัมชัญเหมือนบ้าน แต่เมื่อบ้านมีข้อผิดพลาดบกพร่องก็ต้องสื่อสารโดยตรงกับโรงเรียน


ถ้าถามว่าทำไมไม่คุยกันภายใน สิ่งที่อยากบอกคือ บางเรื่องต้องการให้มีการแก้ไขทั้งระบบ คุยภายในไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องสื่อสารกับผู้บริหารสูงสุด หรือโพสต์ในพื้นที่สาธารณะ


โดยส่วนตัวอยากจะบอกว่า ไม่ได้ซีเรียสหรือกังวลอะไร สิ่งที่โพสต์เพียงแค่ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้กับคนอื่น และเชื่อว่ากรณีแบบนี้ยังมีเด็กคนอื่นๆ และโรงเรียนอื่น เจอปัญหาแบบนี้เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นกรณีศึกษา แต่ต้องสื่อสารกันให้เข้าใจว่า ในกรณีที่ยังไม่ได้สอบ ต้องมีคำตอบว่าเพราะอะไรถึงยังไม่สอบ หากปล่อยแบบนี้ไปก็จะไม่มีใครกล้าทวงถามสิทธิ์ของตนเอง เพราะสิทธิ์การสอบเป็นของเด็ก การไม่ได้เข้าสอบเพราะไปทำภารกิจอื่นให้โรงเรียนเช่นกัน ล่าสุดขณะนี้ ได้พูดคุยกับลูกชายจนเข้าใจแล้ว


สุดท้ายตนเองอยากจะฝากไปถึงโรงเรียนอื่นๆ อยากให้ทุกโรงเรียนอย่างมองข้ามในเรื่องนี้ อยากให้โรงเรียน นักกีฬา อยู่กันได้ และเข้าใจวิถีที่แตกต่าง เนื่องจากปกตินักกีฬาจะใช้ชีวิตต่างจากเด็กนักเรียนปกติอยู่แล้ว


ด้านมาสเตอร์โสภณ สกุลเรือง “มาสเตอร์เปิ้ล” หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ โรงเรียนอัสสัมชัญ ชี้แจงว่า ทางโรงเรียนน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น คะแนนของน้องลมหนาวที่เห็น คือคะแนนสอบกลางภาค ซึ่งมีคะแนนเต็ม 20 คะแนน คะแนนของน้องที่เห็น เป็น 0 เป็นเพราะระบบคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผล จำเป็นต้องกรอกข้อมูลลงไปก่อน เพราะถ้าไม่กรอกตัวเลขลงไป ระบบรายงานผลอันอื่นๆ ของนักเรียนคนอื่น จะไม่สามารถรายงานได้


ขณะนี้ทางโรงเรียนรับทราบปัญหาของโปรแกรมนี้แล้ว ซึ่งผู้ปกครองก็ได้แนะนำว่า น่าจะมีการใส่ข้อมูลไปก่อนว่ารอผล ซึ่งทางโรงเรียนก็ยินดีรับคำแนะนำไปพัฒนาโปรแกรมให้ดีขึ้น


ในส่วนเรื่องคะแนนเก็บที่ยังเป็น 0 ในขณะนี้นั้น น้องลมหนาวจะมาสอบเก็บคะแนนหรือทำใบงานในภายหลัง และเมื่อน้องสอบแล้วคะแนนในระบบ จะเปลี่ยนเป็นคะแนนที่น้องสอบได้


ในเรื่องของความผิดพลาดในการสื่อสารภายในโรงเรียนนั้น โรงเรียนยินดีน้อมรับและนำไปประสานงาน สื่อสารให้มีความเข้าใจมากขึ้น โรงเรียนไม่ได้มีความประสงค์และตั้งใจให้เกิดปัญหา


นอกจากนั้นทางโรงเรียนยังชี้แจ้งเพิ่มเติมว่า ปกติแล้วน้องๆ ที่ไปทำชื่อเสียงให้กับโรงเรียน ทั้งนักกีฬา ดนตรี และแข่งขันกิจกรรมต่างๆ ทางโรงเรียนมีการประกาศเพิ่มคะแนนให้เด็กนักเรียนอยู่แล้ว จะเป็นคะแนนที่จะออกมาในช่วงปลายภาคเรียนที่ 2 เด็กนักเรียนที่มีความสามารถจะได้รับการบวกคะแนนเพิ่ม ตามความสามารถ เช่นตัวแทนระดับโรงเรียน ตัวแทนระดับเขต ตัวแทนระดับประเทศ ตัวแทนระดับนานาชาติ ก็จะแตกต่างกันไป


มาสเตอร์โสภณ ยังให้ข้อมูลเพิ่มว่า หลังจากนี้ทางโรงเรียนจะเชิญบริษัทที่พัฒนาโปรแกรมประมวลผลของโรงเรียนมาพูดคุย เพื่อปรับปรุงระบบประมวลผล ไม่ให้มีปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก สิ่งสำคัญที่ทางโรงเรียนอยากบอกกับสังคมว่า ทางโรงเรียนยินดีน้อมรับคำแนะนำจากผู้ปกครอง ลูกของผู้ปกครองเปรียบเสมือนลูกของคุณครูทุกคน ดังนั้นอะไรที่ดูแลเด็กนักเรียนได้ โรงเรียนจะพยายามทำให้ดีที่สุด ถ้าเกิดปัญหาการสื่อสารโรงเรียนพร้อมจะแก้ไข เพื่อไม่ให้กระทบถึงตัวเด็กนักเรียน