ต่างประเทศ
'ไล่ ชิงเต๋อ' นำพรรค DPP คว้าชัยเลือกตั้งปธน.ไต้หวัน
โดย chiwatthanai_t
13 ม.ค. 2567
52 views
นายไล่ ชิงเต๋อ (Lai Ching-te) รองประธานาธิบดีไต้หวัน วัย 64 ปี และผู้สมัครชิงชัยในเลือกตั้งประธานาธิบดีจากพรรครัฐบาล ชนะเลือกตั้งเป็นผู้นำไต้หวันคนใหม่ ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน ก๊กมินตั๋ง ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว
ผลการเลือกตั้งเบื้องต้น ปรากฎว่า ไล่ ชิงเต๋อ (Lai Ching-te) ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party) หรือ DPP ได้รับคะแนนร้อยละ 40.2 ทำให้เขาเตรียมขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน ต่อจากประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ผู้นำคนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระไป เนื่องจากรัฐธรรมนูญของไต้หวันกำหนดให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ 2 วาระ
ขณะที่นายโหวโหย่วอี๋ อดีตผู้บัญชาการตำรวจ ผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้านใหญ่ หรือ ก๊กมินตั๋ง (KMT) ได้รับคะแนนร้อยละ 33 และทางพรรคได้ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว โดยเขาชูนโยบายผูกมิตรกับจีนแผ่นดินใหญ่ ดำเนินนโยบายร่วมมือทางเศรษฐกิจกับรัฐบาลปักกิ่ง และกล่าวหาว่า ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่างรัฐบาลภายใต้การบริหารของ DPP ทำให้เศรษฐกิจของไต้หวันซบเซา
ส่วนผู้สมัครท้าชิง 3 คือ นายเคอเหวินเจ๋อ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้มีสิทธ์เลือกตั้งรุ่นใหม่ ได้คะแนนร้อยละ 26 โดยเขามีจุดยืนคือ ไม่ต่อต้านจีนจนเกินไป เปิดรับความร่วมมือในส่วนที่เห็นร่วม แต่ปฏิเสธนโยบาย จีนเดียว อย่างแข็งขัน
ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการชิงชัยกันระหว่างผู้สมัคร 2 คนสำคัญ คือ ไล่ ชิงเต๋อ จากพรรค DPP และ โหวโหย่วอี๋ จากพรรคก๊กมินตั๋ง โดยบรรยากาศการเลือกตั้งในวันนี้ มีชาวไต้หวันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 19.5 ล้านคน ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภา 113 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญและเดิมพันสูงมาก เพราะจะเป็นตัวตัดสินชะตากรรมความสัมพันธ์ในอนาคตกับจีนแผ่นดินใหญ่
โดยคูหาเลือกตั้ง ทั้งหมด 17,795 แห่ง เริ่มเปิดให้ประชาชนลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา (ตามเวลาในท้องถิ่น) หรือ 07.00 น. และปิดให้ลงคะแนนไปแล้วเมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 15.00 น. ตามเวลาไทย
ขณะที่ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ผู้นำคนปัจจุบัน ก็ได้เดินทางไปเลือกตั้ง ตั้งแต่เช้าหลังคูหาเปิดให้ลงคะแนน
การเลือกตั้งครั้งนี้ ถูกจับตามองเป็นอย่างมากจากทั่วโลก โดยเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่ที่ประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกระหว่าง "สันติภาพ" หรือ "สงคราม" ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จีนอ้างว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนและไม่สามารถแบ่งแยกได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง